ฮ่องกงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมและเดินทางง่ายที่สุดในเอเชีย เหมาะกับการมาเที่ยวทั้งกับเพื่อนและครอบครัว เป็นประเทศที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งแบบเมืองและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

ทำให้ฮ่องกงเป็นที่เที่ยวที่เหมาะกับทุกสาย ไม่ว่าจะสายเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หรือสายกินแหลก แผนท่องเที่ยวและการเดินทางด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืนนี้จะตอบโจทย์ทุกคนได้แน่นอนค่ะ แผนนี้บอกครบตั้งแต่แหล่งที่พัก, วิธีการเดินทาง, และกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดทริป ตามไปดูกันเลยค่ะ


เรื่องควรรู้ก่อนไปฮ่องกง

ไปเที่ยวช่วงไหนดีที่สุด

ฮ่องกงเป็นประเทศที่เที่ยวได้เกือบทั้งปี แต่ถ้าไม่อยากไปเจอฝนนตกหนักหรืออากาศร้อนจัด ช่วงที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวก็คือ เดือนตุลาคม ถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม อากาศจะแจ่มใส ลมเย็น และฝนไม่เยอะค่ะ

พักที่ไหนดี

ขึ้นอยู่กับความชอบและความไม่ชอบของแต่ละคน ถ้าใครจำกัดงบ เราแนะนำให้จองผ่าน Airbnb จะมีที่พักราคาถูกให้เลือกมากกว่า

แต่ถ้าอยากนอนที่พักวิวสวยๆ บริการระดับหรูขึ้นมาหน่อย หรือนอนใกล้สถานีรถไฟ ที่พักแบบโรงแรมน่าจะเหมาะกว่า ด้านล่างน้ีเป็นรายชื่อโรงแรมที่เหมาะกับการท่องเที่ยวด้วย:

  • Best Western Grand Hotel: โรงแรมเล็ก แต่ห้องขนาดพอเหมาะ บรรยากาศอบอุ่น เดิน 5 นาทีถึงสถานี Jordan MRT
  • Butterfly on the Prat: โรงแรมตกแต่งด้วยสีสันสดใส ห้องสไตล์โมเดิร์น เหมาะสำหรับคนงบไม่เยอะ
  • Holiday Inn: น่าจะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดท่ามกลางเมืองอันคึกคักของฮ่องกง ในราคาระดับปานกลาง แต่ได้บริการที่ดี บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า แถมมี Wi-Fi แผนที่ และบริการโทรให้ด้วย
  • The Ritz-Carlton: เหมาะสำหรับคนงบเยอะขึ้นมาหน่อยค่ะ เป็นโรงแรมหรู ทั้งการตกแต่งห้องและบริการ ทั้งยังมีวิวอ่าววิคตอเรียให้ได้ชม

วิธีการเดินทาง

รถแท็กซี่:

รถแท็กซี่ส่วนใหญ่ในฮ่องกงจะมีสีแดง, เขียว, หรือฟ้า รถคันไหนว่างรับผู้โดยสารได้จะมีสัญลักษณ์เขียนว่า “for hire” และแท็กซี่จะไม่จอดรับตรงถนนที่มีเส้นคู่สีเหลือง หรือตรงป้ายรถเมล์

รถไฟ:

ระบบรถไฟของฮ่องกงขึ้นชื่อเป็นขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยรถไฟของฮ่องกงเรียกว่า Mass Transit Railway หรือ MTR ครอบคลุมทั้งในเกาะฮ่องกง (Hong Kong Island),  เกาลูน (Kowloon), และเขต New Territories มีสถานีทั้งหมด 91 สถานี และสถานี Light Rail อีก 68 แห่ง ทั้งหมดนี้เชื่อมต่อด้วยรถไฟ 11 สาย วิ่งตั้งแต่เช้ามืด 05:50 – 00:59 น.

ตั๋วรถไฟแบบเที่ยวเดียวคิดราคาเริ่มต้นที่ HK$3.50 และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง หาซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วอัตโนมัติในสถานี หรือซื้อเป็นบัตร Octopus Card เป็นบัตรจ่ายค่ารถโดสารแบบเติมเงิน ใช้จ่ายค่าโดยสารขนส่งสาธารณะได้ตั้งแต่รถไฟ MTR, รถบัส, เรือเฟอร์รี่, รถราง, และรถแท็กซี่ หรือใช้จ่ายซื้อของในร้านสะดวกซื้อก็ได้เช่นกัน สามารถเติมเงินเข้าบัตรได้ที่ร้าน 7-Eleven, Circle K, Starbucks และอีกมากมาย

รถไฟอีกแบบหนึ่งที่นักท่องเที่ยวน่าจะต้องได้ใช้ก็คือ รถไฟ Airport Express สำหรับเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง ใช้เวลาแค่ 24 นาทีเพื่อไปถึงเกาะฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีรถชัทเทิลบัสฟรี จากสถานีเกาลูนและสถานีฮ่องกง ไปส่งตามโรงแรมใหญ่ๆ ในเมืองให้บริการอีกด้วย

รถมินิบัส:

รถมินิบัสรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 19 คน มี 2 สี คือสีเขียว เป็นรถราคาปกติ ส่งตามป้ายปกติ กับสีแดง สำหรับให้ผู้โดยสารโบกขึ้นรถและกดลงรถเมื่อไหร่ก็ได้

เรือเฟอร์รี่:

อีกตัวเลือกสำหรับการเดินทางระหว่างเกาะฮ่องกง กับเกาลูน


วันที่ 1 – เที่ยวย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui)

มาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง (HKIA) กันแล้วก็นั่งรถเข้าเมืองกันค่ะ ที่สนามบินฮ่องกงมีรถสาธารณะหลายประเภท เช่น รถไฟ, รถบัส, และรถมินิแวน

ก่อนขึ้นรถก็อย่าลืมไปซื้อบัตร Octopus Card และซิมการ์ด 4G นะคะ จะได้เที่ยวฮ่องกงสะดวกๆ

17:00 น: กินข้าวที่ Cafe De Coral

ไปทานอาหารมื้อแรกในฮ่องกงด้วยเมนูติ่มซัมมากมายและก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยว ที่ร้าน Cafe Del Coral เป็นร้านอาหารแฟรนไชส์สาขาทั่วฮ่องกง ไปทานได้ตลอดทั้งวัน

  • เมนูขึ้นชื่อ: ชานมร้อน และแกงกะหรี่ปลา
  • ราคา: HK$29 – 38  ต่อมื้อ
  • ที่ตั้ง: 36-44 Nathan Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

18:30 น: ชอปปิ้งที่ห้าง Miramar

ใครจัดชุดมาไม่พอหรืออยากมาอัพเดตเทรนด์ นั่งรถไฟมาลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก B1 แล้วเดินไปตามถนน Nathan ก็จะเจอกับห้าง Miramar แล้วค่ะ ท่ีนี่ก็จะมีแบรนด์ราคากลางๆ ด้วย เช่น UniQlo, American Eagle, Coach Silver เป็นต้น

  • ที่ตั้ง: 118 Nathan Rd, Tsim Sha Tsui

20:00 น: นั่งรถราง Peak Tram ไป Victoria Peak

ชมวิวฮ่องกงแบบเต็มๆ ตากันที่วิคตอเรียพีค (Victoria Peak) ดูวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าอยู่กับภูเขาสีเขียวขจี และน้ำสีฟ้าของอ่าววิคตอเรีย ถ้าใครอยากได้มุมถ่ายรูปวิวแบบรูปด้านบน จะต้องไปที่ลานชมวิวของ The Peak Tower Sky Terrace 428 ค่ะ

เมื่อไปถึงวิคตอเรียพีคแล้ว ก็แวะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ่ ฮ่องกง (Madame Tussauds) กันได้นะคะ

  • วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟ MTR ไปลงสถานี Central ออกทางออก K แล้วเดินตามแผนที่ไปที่ตึก The Peak Tram แล้วไปขึ้นรถรางขึ้นไปวีคตอเรียพีค

Pro Tip: แนะนำให้จองตั๋วลัดคิวพีคแทรม + บัตรเข้าชม The Peak Tower Sky Terrace 428 ล่วงหน้า ราคาเริ่มต้น 280 บาท จะได้ไม่ฉุกละหุกตอนไปถึงค่ะ แถมราคาประหยัดกว่าหน้างาน

วันที่ 2 – ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)

เช็คอินกันต่อที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ แน่นอนว่าเที่ยวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ เด็กก็สนุกได้ ผู้ใหญ่ก็ได้ปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวเนอะ เล่นเครื่องเล่น ดูปราสาทเจ้าหญิงนินทรา ดูขบวนพาเหรดของมิกกี้เมาส์และเหล่าผองเพื่อนมากมาย และปิดท้ายด้วยการแสดงดอกไม้ไฟเหนือปราสาทดิสนีย์ในตอรกลางคืน เอาป็นว่าอยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ

วันที่ 3 – เที่ยวนอกเกาะฮ่องกง

10:30 น: กินข้าวเช้า

ใครเบื่ออาหารเช้าของที่โรงแรมหรือที่พักไม่รวมข้าวเช้า ในฮ่องกงมีร้านอาหารเช้าให้เลือกเยอะเลยค่ะ จะดื่มกาแฟง่ายๆ หรือโทส หรือบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ก็มีให้เลือกค่ะ

ส่วนวันนี้เราขอแนะนำเป็นร้าน Mammy ร้านขนมรวงผึ้งฮ่องกงชื่อดัง มีหลายสาขา เลือกรสชาติและไส้ได้ ราคาประมาณ HK$30 แต่ถ้าใครมีงบขึ้นมาหน่อย จะเลือกไปทานที่ร้าน Cafe on the Park ก็ได้ค่ะ ที่นี่มีไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติสุดหรูให้บริการ

  • ที่ตั้งร้าน Mammy Pancake: 8-12 Carnarvon Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong
  • ที่ตั้งร้าน Cafe on the Park: 2/F, Hotel Wing, The Royal Pacific Hotel & Towers, China Hong Kong City, 33 Canton Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

11:30 น: ขึ้นกระเช้านองปิง 360 ไปเที่ยวเกาะลันเตา

มาถึงฮ่องกงทั้งที ก็อย่าพลาดที่จะไปขึ้นกระเช้านองปิงค่ะ กระเช้านองปิง 360 มีทั้งกระเช้าแบบธรรมดาและกระเช้าแบบใส ซึ่งจะเป็นกระจกทั้งหมดตั้งแต่เพดาน ผนัง และพื้น ให้เราได้ชมวิวกันแบบ 360 องศาที่แท้จริง กระเช้าจะส่งเราจากสถานีไปที่เกาะลันเตา (Lantau Island) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของพระใหญ่เทียนถาน (Tian Tan)พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประจำเกาะลันเตา ตั้งอยู่บนภูเขาตรงข้ามกับอารามโป่หลิน (Po Lin Monastery)

จองตั๋วกระเช้านองปิง 360 ล่วงหน้า ราคาประหยัดกว่าหน้างาน

  • ที่ตั้ง: Ngong Ping Cable Car Tung Chung Station
  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟ MTR มาลงที่สถานี Tung Chung Station ทางออก B แล้วเดินอีกประมาณ 3 นาทีไปที่สถานีขึ้นกระเช้านองปิง
    • พอลงจากกระเช้านองปิง 360 แล้ว เดินทะลุไปตามทางของหมู่บ้านนองปิงประมาณ 10 – 15 นาทีก็จะเจอพระใหญ่กับวัดโป่หลิน

14:00 น: Zen Noodle Cafe

แวะทานข้าวกลางวันที่ร้าน Zen Noodle Cafe ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ มีที่นั่งหน้าร้านแบบคาเฟ่ด้วย ขายเมนูหลากหลาย เน้นที่อาหารเส้น ก๋วยเตี๋ยว/ราเมนต่างๆ ข้าวกับของทานเล่นอื่นๆ ก็มีเหมือนกันค่ะ เช่น ราเมนซีฟู้ด ราเมงอกเป็ดรมควัน ราเมงแบบเผ็ด ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวผัด เกี๊ยว เป็นต้น ร้านจะอยู่บริเวณหมู่บ้านนองปิง (Ngong Ping Village) ทานเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นดูอาคารและถนนสวยๆ ของหมู่บ้านต่อได้เลยค่ะ

  • ที่ตั้ง: 2, Ngong Ping Village, Lantau Island, Hong Kong, China
  • วิธีการเดินทาง: หลังลงจากกระเช้านองปิง เดินต่ออีก 2 นาทีไปที่ร้าน Zen Noodle Cafe

16:30 น: หมู่บ้านชาวประมงไท่โอ

เดินเที่ยวหมู่บ้านประมงที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ ด้วยบ้านที่สร้างบนเสาค้ำในน้ำ สามารถนั่งเรือล่องไปตามแม่น้ำไท่โอชมบ้านริมน้ำได้ด้วย ถ้าวันไหนโชคดีอาจจะได้เจอโลมาสีชมพูได้ด้วย

  • ที่ตั้ง: Tai O Fishing Village
  • วิธีการเดินทาง: พอลงจากกระเช้านองปิงแล้ว ไปขึ้นรถบัสสาย 21 ที่ Ngong Ping Bus Terminus ลงที่ป้าย Tai O Bus Terminus ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • จองเดย์ทริปเที่ยวนองปิง 360 และหมู่บ้านไท่โอ ตรงนี้เลย

วันที่ 4 – Ocean Park

โอเชี่ยนพาร์ค สวนสนุกประจำฮ่องกงเลยก็ว่าได้ มีทั้งอควาเรี่ยม การแสดงสัตว์ และเครื่องเล่นมากมาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เที่ยวเล่นให้หมดแรงก่อนเดินทางกลับ ดูรีวิวโอเชี่ยนพาร์คเต็มๆ ที่นี่

แค่นี้ก็ไปเที่ยวได้เลยค่ะ ในแผนนี้ยังมีเวลาว่างให้เพื่อนๆ ได้พักหรือเติมสลับปรับเปลี่ยนได้ด้วย ถ้าใครมีเวลาน้อยกว่า 4 วัน หาวันลาหยุดไม่ได้ ลองดูแผนเที่ยวฮ่องแบบ 2 วัน 1 คืนนี้ดูค่ะ เที่ยวได้เสาร์-อาทิตย์ ไม่ง้อวันลา

ไกด์ไลน์เที่ยวฮ่องกงที่น่าสนใจ