เกียวโต เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่ใครๆก็ต้องมาเยือน เพราะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีแบบโบราณ ตลอดจนบ้านเรือนเก่าๆที่ยังคงได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในยุคเฮอันมากกว่า 794 ปี โดยมีเรื่องเราต่อกันมาว่าจักรพรรดิกลัววิญญาณจะมาหลอกหลอน จึงรับสั่งให้สร้างวัดและศาลเจ้าเยอะๆ ทำให้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีวัดหรือศาลเจ้าตั้งอยู่ทั่วทั้งเมือง
ดังนั้นวันนี้ เราจึงขอนำเสนอวัดและศาลเจ้าขึ้นชื่อแห่งเมืองเกียวโต ที่คุณไม่ควรพลาดกันค่ะ
1. วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) เป็นวัดที่โ่งดังมาก จากการ์ตูนอิคคิวซัง โดยวัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตำหนักลาพักของ โชกุน อะชิคาวะ โยชิมิตซึ โดยตั้งใจให้ตำหนักแห่งนี้มีชื่อคล้องจองกับวัดกินคะคุจิ (วัดเงิน) โดยให้แผ่นทองคำแปะลงเป็นเนื้อเดียวกับกระเบื้องหลังคา วัดแห่งนี้สวยงามมาก โดยเฉพาะฤดูหนาว เนื่องจากหิมะปกคลุมไปทั่ว กลายเป็นสีขาวโพลน ตัดกับตัววัดซึ่งทองอร่าม ทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมาก
2. วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
วัดกินคะคุจิ หรือ วัดเงิน เป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดทอง โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเป็นตำหนักลาพักของ โชกุน อะชิคาวะ โยชิมิตซึ โดยมีการก่อกร้างเหมือนวัดคินคะคุจิแต่เปลี่ยนเป็นแผ่นเงินเท่านั้นเอง วัดกินคะคุจิแห่งนี้เป็นที่สืบทอดวิชาศิลปะของญี่ปุ่นทั้งพิธีชงชา ละครโนห์ และการจัดสวนแบบเซน ทำให้วัดนี้เป็นอีกวัดที่มีสวนสวยงามมาก ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่นับเป็นจุดชมใบไม้แดงอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
3. วัดคิโยมิซึเดระ (Kiyomizudera Temple)
วัดคิโยมิซึเดระ เป็นอีกวัดดังในเมืองเกียวโต ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก โดย คิโยมิซึ แปลว่า น้ำบริสุทธิ์ หรือที่ใครๆชอบเรียกว่าวัดน้ำใส ซึ่งวัดนี้มีต้นน้ำอันบริสุทธิ์อยู่ถึง 3 สาย โดยเชื่อกันว่าถ้าได้ดื่มน้ำครบทั้ง 3 สายนี้ จะทำให้สุขภาพดี การงานก้าวหน้า และสมหวังในความรัก ที่วัดแห่งนี้ในฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นซากุระบานไปทั่วทุกพื้นที่ และในหน้าใบไม้แดงก็งดงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะตอนเย็นๆที่พระอาทิตย์ตกดิน ทำให้สีแดงของใบไม้ยิ่งสวยเป็นพิเศษ นอกจากนี้ช่วงกลางคืนที่วัดแห่งนี้จะมีเทศกาล Light Up ที่ถือได้ว่าสวยเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
4. วัดเทนเรียวจิ (Tenryuji Temple)
วัดเทนเรียวจิ เป็นวัดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก วัดแห่งนี้มีจุดเด่นที่สวนญี่ปุ่น ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม สระน้ำภายในบริเวณสวนกว้างและใสสะอาด ใสจนสามารถสะท้อนภาพข้างบนได้อย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ ส่วนชื่อของวัดเท็นริวหรือที่แปลเป็นไทยว่ามังกรสวรรค์นั้นมาจากที่ทาดาโยชิ น้องชายของโชกุนอะชิคางะฝันว่า มีมังกรสีทองกำลังบินผ่านแม่น้ำ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นดวงวิญญาณของพระจักรพรรดิโกไดโงะ เลยได้ตั้งชื่อวัดนี้ว่าวัดเท็นริวหรือวัดมังกรสวรรค์นี้ขึ้นมา
5. วัดเรียวอันจิ (Ryoanji Temple)
วัดเรียวอันจิมีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่อง สวนหินแบบเซน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น มีผู้คนมากมายต่างตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความหมายของสวนหินแห่งนี้ บ้างก็ว่าเสือว่ายน้ำข้ามฝั่ง บ้างก็ตีความว่า เป็นจุดที่ไม่มีวัดสิ้นสุด จนตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ความหมายที่แท้จริงเลยค่ะ
6. ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Jingu Shrine)
ศาลเจ้าเฮอัน เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่คนนิยมไปในช่วงที่ดอกซากุระบาน หากเรามองจากภายนอกจะเห็นศาลเจ้าสีสันสดใส โดยที่ภายใน มีสวนญี่ปุ่นที่งดงามและกว้างขวางมากๆ บางครั้งจะมีการแสดงดนตรีคลาสสิกที่สวนแห่งนี้อีกด้วย
7. ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi-Inari Taisha Shrine)
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขา และอุโมงค์เสาโทริอิที่เราเห็นเป็นทางเดินสีแดงยาวๆ ล้อมรอบภูเขานับพันๆต้น ศาลเจ้าฟุชิมิ เป็นศาลเจ้าที่มีเทพจิ้งจอกคอยอารักขา ทำให้ทั่งทั้งบริเวณมีรูปแกะสลักจิ้งจอกเต็มไปหมด แม้แต่ป้ายเอมะ (ป้าบขอพร) ก็ยังเป็นรูปจิ้งจอกเลยค่ะ
8. ศาลเจ้าคิตาโนะ เทนมังกุ (Kitano Tenmangu Shrine)
ศาลเจ้าคิตาโนะ เทนมังกุ มีชื่อเสียงด้านเทพเจ้าแห่งการศึกษา เด็กนักเรียนญี่ปุ่นจึงมักมากราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก่อนเข้าสอบมหาลัย และศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีสวนบ๊วย ที่สวยที่สุดในเมืองเกียวโตอีกด้วย
วัดและศาลเจ้าในเมืองเกียวโต เรียกได้ว่ามีเป็นเยอะจนนับไม่หวั่นไม่ไหวเลยล่ะค่ะ นอกจากจะเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นหรือบรรยากาศที่เงียบสงบแล้วยังได้ขอพรให้มีความสุขกันถ้วนหน้าอีกด้วยค่ะ