เคยสงสัยไหมว่าทำไมใคร ๆ ก็หลงรักประเทศบนเกาะเล็ก ๆ อย่าง ‘สิงคโปร์’ หลายคนไปเที่ยวได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้เบื่อ และทุกๆ ครั้งที่กลับมาก็มีของฝากน่ารัก ๆ กับขนมขึ้นชื่ออร่อย ๆ ติดไม้ติดมือกลับมาฝากได้ทุกครั้ง จนเราเองก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกันว่าเสน่ห์ของประเทศนี้เขามีอะไรที่ทำให้หลาย ๆ คนติดใจขนาดนี้นะ

จนกระทั่งเราได้เห็นบรรยากาศอันร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่เรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทางของบ้านเมืองในสิงคโปร์ ได้สูดอากาศสดชื่นจนปอดเต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ และร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่ทำให้คลายร้อนไปได้เยอะเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ทำให้สิงคโปร์มีบรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ทั่วทั้งเมือง คงต้องยกความดีความชอบให้กับแนวคิดการจัดการเมืองแบบ ‘เมืองในสวน’ ที่ทำให้ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ กลายประเทศที่มีสัดส่วนความหนาแน่นของต้นไม้มากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เมื่อเทียบกับหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก นี่อาจเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่คนไปเที่ยวสิงคโปร์เอากลับมาฝากเราไม่ได้ และรอให้เราได้ไปสัมผัสมันด้วยตัวเอง

แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าสิงคโปร์เขาใช้แนวคิดเมืองในสวนมาผสมผสานกับความเป็นเมืองได้ดีมากกว่าที่คิด เพราะการสร้างตึกหรือห้างสรรพสินค้าของประเทศนี้ มักจะมีต้นไม้ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และความเป็นธรรมชาติแฝงอยู่ในการออกแบบสถาปัตยกรรมเหล่านั้นด้วยเสมอ

และแน่นอนว่านี่ไม่เว้นแม้กระทั่งกับ ศูนย์การค้าแห่งใหม่ อย่าง Jewel Changi Airport อาคารถูกที่สร้างใหม่ภายในท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Singapore Changi Airport) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า สนามบินชางงี ที่เนรมิตให้ภายในโดมของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ของสวนขนาดใหญ่กว่า 135,700 ตารางเมตร ซึ่งเมื่อมองดูแล้วก็ไม่อาจเรียกที่นี่ได้ว่าสวนได้อีกต่อไป เพราะจำนวนต้นไม้ที่มีถึงแสนกว่าต้น ร้อยกว่าสายพันธุ์ นี่จึงเหมือนกับการยกป่ามาไว้ใต้อาคารโดมแห่งนี้เลยทีเดียว

และเมื่อผสมผสานกับความน่าตื่นตาตื่นใจของสถาปัตยกรรมที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยเข้ามาก็ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก โดยอาคารแห่งนี้เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกชื่อดังระดับโลก Moshe Safdie ซึ่งเขามีผลงานที่ดังไปก้องโลก อย่าง ตึก Marina Bay Sands ของสิงคโปร์ มาแล้วเช่นกัน แล้วการออกแบบครั้งใหม่ของเขากับ Jewel Changi Airport ก็มีความโดดเด่น หรูหรา อลังการสมชื่อ และเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน

Flickr | William Cho

และแน่นอนว่าที่นี่เป็นแหล่งชอปปิงขนาดใหญ่ ที่รวบรวมสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ดังจากต่างประเทศ และแบรนด์ดังในสิงคโปร์ ทั้งยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำมากมาย เช่น สวนสนุกเล็ก ๆ สำหรับเด็ก ๆ โรงภาพยนตร์ โรงแรม และห้องจัดนิทรรศการ (Visual Experience Studio) พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับผู้โดยสาร อย่าง จุดฝากกระเป๋า เคาน์เตอร์เช็กอินล่วงหน้า เลานจ์ ห้องอาบน้ำ รวมไว้ที่เดียวอย่างครบครัน ในส่วนการเดินทางก็เรียกว่าสะดวกสบายมาก เพราะอาคารถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับทุกเทอมินอล ทั้งอาคาร T1, T2, T3 และ T4 พร้อมบริการรับส่งนักท่องเที่ยวถึงที่ เรียกได้ว่าหากมีเวลาว่าง หรือแค่แวะเปลี่ยนเครื่องที่นี่ต้องหาโอกาสไปชมให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง

แต่เราขอแอบกระซิบนิดนึงสำหรับคนที่มีแพลนเที่ยวสิงคโปร์ก่อนวันที่ 10 มิถุนายน 2562 นี้ แล้วอยากจะไปเดินเล่นที่นี่ อาจจะมีพื้นที่บางส่วนที่ยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนใครที่มีแพลนเที่ยวหลังจากนั้นก็สามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างจุใจเลย

หากมีโอกาสได้ไปแล้ว จุดไหนที่ถือเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดใน Jewel Changi Airport บ้างล่ะ มาดูกัน

HSBC Rain Vortex

Unsplash | Han Min T

นี่คือจุดไฮไลท์ที่ควรขีดเส้นใต้ไว้เลยว่าสำคัญที่สุดและสวยจนพลาดไม่ได้เลย! เพราะน้ำตกขนาดมหึมา อย่าง HSBC Rain Vortex ที่ตั้งอยู่ใจกลางอาคารแห่งนี้ เป็นน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก ที่มีความสูงกว่า 40 เมตร และมีปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลกว่า 38,000 ลิตรต่อนาทีที่ไหลลงมาจากยอดโดมที่ชั้น 5 สู่ชั้นใต้ดิน พอยิ่งเดินเข้าใกล้เข้าไปก็จะได้ยินเสียงน้ำตกชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับไอเย็นที่มาจากละอองน้ำ ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่หากมาเยี่ยมชมในตอนกลางคืน ก็จะมีการจัดแสดงไฟ เพิ่มสีสันให้กับน้ำตกได้มีลูกเล่นที่น่าสนใจ แต่ยังคงความสวยตระการตาเอาไว้ในแบบที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนอีก

  • เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. – 24.30 น.
  • ตั้งอยู่ที่: Heart of Forest Valley

Canopy Park & Brige

สวนแห่งการเดินเล่นและพักผ่อนหย่อนใจในร่ม บนพื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร  ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีความร่มรื่นและกิจกรรมสนุก ๆ รอคุณอยู่มากมาย เช่น การชมวิวสุดตื่นเต้น ด้วยการเดินบน Canopy Bridge สะพานพื้นกระจกใสที่สูงจากพื้นถึง 23 เมตร

หมายเหตุ: พื้นที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562

Manulife SkyNets – Walking & Bouncing

หากเดินชมวิวธรรมชาติธรรมดา ๆ มันน่าเบื่อไป งั้นมาสัมผัสกิจกรรมแนวใหม่ ด้วยการเดินชมวิวบนตาข่ายผืนยักษ์กันดีกว่า โดยการเดินนี้จะเป็น 2 แบบ แบบแรกคือ Manulife Sky Nets – Walking เป็นสะพานตาข่ายที่สูงจากพื้นถึง 25 เมตร ส่วนแบบที่สองจะเพิ่มความน่าหวาดเสียวขึ้นอีกนิด คือเป็นส่วนของ Manulife Sky Nets – Bouncing ตาข่ายขนาดยักษ์ที่มีระยะทางยาวกว่าแบบแรก เพราะยาวถึง 250 เมตร สำหรับคนที่ชอบความท้าทายและความตื่นเต้น จุดที่สูงสุดคือสูงเหนือจาก Canopy Park ถึง 8 เมตร ถึงจะฟังดูน่าหวาดเสียว แต่ถ้าไปแล้วก็คุ้มที่จะลองนะ แถมไม่ต้องกังวลด้วยว่าจะอันตรายหรือเปล่า เพราะทุกอย่างที่นี่ถูกออกแบบมาให้รองรับความปลอดภัยขั้นสูงสุดอยู่แล้ว

หมายเหตุ: พื้นที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562

Hedge Maze & Mirror Maze

Credit | jewelchangiairport

หากใครไม่ชอบความสูง แต่ยังรักในความท้าทายและอยากเดินชมธรรมชาติสวย ๆ แนะนำโซนนี้เลย โซนเขาวงกตในร่ม อย่าง Hedge Maze เขาวงกตแบบดั้งเดิมที่เราน่าจะคุ้นตากันเป็นอย่างดี ด้วยเส้นทางเลี้ยวลดขดเคี้ยวและห้อมล้อมไปด้วยพุ่มไม้ใหญ่ ก็ทำให้การเดินเพลินขึ้นมาได้เช่นกัน ส่วนอีกโซน เป็นโซนที่เรียกว่า Mirror Maze โดยเขาวงกตที่ล้อมเราไว้จะทำจากกระจกทั้งหมด แนะนำว่าโซนนี้แหละที่เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นที่สุด รับรองว่าได้รูปสวย ๆ ไม่ซ้ำใครแน่นอน

หมายเหตุ: พื้นที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562

Discovery Slide

นี่คงเป็นสไลเดอร์ที่ดูแปลกตามากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา โซนนี้น่าจะเหมาะกับการพาเด็ก ๆ มาเล่นสนุก เพราะคงไม่มีเด็กคนไหนไม่ชอบสไลด์เดอร์หรอกจริงไหมล่ะ? แต่ขอแนะนำนิดนึงว่าให้เด็ก ๆ ใส่กางเกงที่เคลื่อนไหวสะดวก ๆ กับรองเท้าผ้าใบง่าย ๆ มาจะดีกว่าจะได้สนุกแบบเต็มที่ไปเลย อ้อ ถ้าเล่นสไลด์เดอร์ยังไม่จุใจ ยังมีทางเดินที่เด็ก ๆ น่าจะชอบอย่าง โซน Topiary Walk เดินทางไปกับเหล่าอุรังอุตังสุดน่ารัก และ Foggy Bowls ทางเดินที่มีหมอกให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกราวกับอยู่ในดินแดนแห่งความฝันด้วยนะ

หมายเหตุ: พื้นที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562

Changi Experience Studio

เราขอปิดท้ายด้วย ห้องจัดนิทรรศการ (Visual Experience Studio) สุดล้ำ และอยากแนะนำว่าควรไปลอง! เพราะพื้นที่ในส่วนนี้จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับของสนามบินแห่งนี้ผ่านเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟ ทั้งประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับสนามบินตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และทิศทางของสนามบินในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าลืมการเล่าเรื่องประวัติสุดแสนจะน่าเบื่อแบบเดิม ๆ ไปได้เลย

และด้วยความตระการตา ความสวยงาม และความหรูหราทั้งหมดนี้ ใน Jewel Changi Airport เป็นคำตอบที่ดีเลยว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือน และทำไม Changi Airport ถึงได้รับรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในโลกติดต่อกันมาถึง 7 ปีซ้อน


สิ่งของต้องมีเมื่อไปเที่ยวสิงคโปร์