เชื่อว่า ‘ทัวร์ไหว้พระขอพร’ คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับคนไทย เพราะการที่เราได้เข้าไปเยือนสถานที่ที่เงียบสงบ สวยงาม มีเรื่องราวความเป็นมา และ เป็นสิริมงคลกับชีวิต คงเป็นอะไรที่ทำให้เราได้สงบจิตสงบใจและพักผ่อนหย่อนใจไปพร้อม ๆ กัน และหากคุณมีทริปญี่ปุ่นที่แพลนเอาไว้ ลองเพิ่มกิจกรรม อย่าง ‘การไปไหว้พระที่วัดญี่ปุ่น’ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี และฟังดูน่าสนใจไม่ใช่น้อย

แล้วทำไมถึงต้องไปไหว้พระขอพรกันถึงเกียวโต?

เกียวโตเป็นอดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น และได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะที่รวบรวมเอาวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง นอกจากนี้เกียวโตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าเก่าแก่โบราณที่มีความสวยงาม และความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทั้งคนญี่ปุ่นเองหรือนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างพากันมาไหว้พระขอพรกันที่นี่

บทความนี้เราจึงอยากจะพาคุณไปสะสมแต้มบุญและขอพร ทั้งด้านการเงิน สุขภาพ และความรัก กันสักหน่อย กับ 5 วัดดังในนครเกียวโต

1. ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)

Visualhunt |Ted’s photos – Returns late June

หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว สังเกตง่าย ๆ ว่าโดยรอบบริเวณของศาลเจ้าจะมีรูปปั้นและสัญลักษณ์สุนัขจิ้งจอกอยู่ นั่นก็เพราะตามความเชื่อก็คือเป็นสัตว์นำสารของเทพเจ้าอินาริที่เทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร ช่วยทำให้บริเวณนี้มีน้ำแลมีผลผลิตอุดมสมบูรณ์ ว่ากันว่านอกเหนือจากจะทำให้พืชพันธุ์งอกงามแล้ว ยังช่วยเรื่องค้าขายรุ่งเรือง คลอดบุตรง่าย ไร้โรคภัยไข้เจ็บ เรียนดีสอบผ่านฉลุยอีกด้วย

Visualhunt |nate2b

และสิ่งที่น่าจะสะดุดตาผู้ที่ไปเยือนมากที่สุดน่าจะเป็นเสาโทริอิสีแดงนับหมื่นที่ตั้งเรียงรายกันอยู่จนกลายเป็นอุโมงค์ที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร โดยการตั้งเสาจำนวนมากนี้มาจากศรัทธาของผู้ที่มาขอพรแล้วสมหวังหรือขอแล้วได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

  • เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
  • วิธีการเดินทาง: รถไฟ JR Nara Line หรือ สถานี Fushimi Station จากทางออกสถานีไปทิศตะวันออก เดิน 1 นาที
  • เที่ยวอาราชิยาม่า วัดคินคะคุจิ และศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ด้วยเดย์ทัวร์จากเกียวโต >> คลิก

2. วัดคิโยะมิสึเดระ (Kiyomizu Dera)

Visualhunt |Ray in Manila

หรือที่เรียกกันว่า วัดน้ำใส ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และเป็นวัดสำคัญที่ไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทุกประการ! เพราะด้วยสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่กว่า 1,200 ปี และมีความงดงามตระการตาจนได้ขึ้นเป็นมรดกโลก บรรยากาศโดยรอบก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากน้ำตกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อย่าง น้ำตกโอโตวะไหลผ่านวัด

Visualhunt |Emy Lam

และตรงจุดนี้แหละที่เป็นไฮไลต์ เพราะน้ำตก 3 สายที่ไหลลงสู่บ่อน้ำ จะมีความหมายและความเชื่อต่างกันไป ว่ากันว่าหากอยากสมหวังหรือมีโชคในด้านไหนก็ให้เลือกดื่มน้ำจากทั้ง 3 บ่อ ทั้งเรื่องสุขภาพ ความรัก และความสำเร็จในการเรียน นอกจากนั้นยังมีการสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1,000 กร และเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่งอีกด้วย และสำหรับใครที่อยากเดินชมบรรยากาศของสถาปัตยกรรมแนะนำนิดนึงว่าตั้งแต่เดือน มกราคม 2017 มีการปิดซ่อมแซมในส่วนของอาคารหลัก และน่าจะเสร็จสิ้นในปี 2020 แต่ส่วนที่เหลือรอบ ๆ ยังคงเปิดให้เข้าชมรับรองว่าสวยงามไม่แพ้กัน

  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 เยน และ เด็ก 200 เยน
  • เวลาทำการ: 6.00 น. – 18.00 น. สามารถเช็กรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.kiyomizudera.or.jp/en/
  • วิธีการเดินทาง: รถไฟสถานี Kiyomizu-Gojo และเดินเท้าต่ออีก 25 นาที เดินทางจากสถานี Kyoto เปลี่ยนสายรถไฟที่สถานี Tofukuji
  • เที่ยวศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ วัดคิโยมิซุเดระ และวัดคินคะคุจิ ด้วยเดย์ทัวร์จากโอซาก้า >> คลิก

3. ศาลเจ้าจิชู จินจะ (Jishu Jinja Shrine)

Visualhunt |Shenghung Lin

ในเมื่อปัดซ้ายปัดขวาในแอปหาคู่เท่าไรแต่ก็ไม่มีแฟนกับเขาสักที ลองหันหน้ามาพึ่งพาศาลเจ้าแห่งนี้กันดีกว่า หากไปขอพรที่วัดคิโยะมิสึเดระมาแล้วล่ะก็ มาต่อที่นี่ได้เลย เพราะศาลเจ้าจิชู จินจะ ตั้งอยู่ภายในวัดเลย โดยที่มาของการมาขอพรด้านความรักก็มาจากเทพเจ้าแห่งความรัก

Visualhunt |Davide Gorla

ที่ศาลเจ้ามีหลายจุดและมีชื่อเสียงอย่างมากด้านการแต่งงาน แต่ที่โด่งดังมากที่สุด และทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศคงหนีไม่พ้น หินแห่งความรัก เพราะเมื่ออธิษฐานและเดินหลับตาเดินไประหว่างหินทั้งสองแล้วผ่านไปได้ นั่นหมายความว่าความรักจะสมหวัง และนำรักแท้มาให้อย่างที่ใจหวัง แต่ถ้าเดินไปโดยมีคนคอยบอก แปลว่ารักครั้งนี้อาจจะต้องให้พ่อสื่อแม่สื่อมาช่วยแล้วล่ะ

  • เวลาทำการ: 9.00 น. – 17.00 น.
  • วิธีการเดินทาง: จากสถานีโตเกียว สถานี Kenkyu Kawaramachi หรือ สถานี Keihan Gion Shijo นั่งรถประจำทางประมาณ 12 นาทีลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือป้าย Kiyomizu-michi เดิน 10 นาที

4. ศาลเจ้าคิฟุเนะ (Kifune Shrine)

Visualhunt |mcdyessjin (Yu-Jen Shih)

นี่เป็นอีกศาลเจ้าที่ไม่ควรพลาดเลย นอกจากเรื่องมาขอพรแล้ว อยากให้มองไปรอบ ๆ เพราะบรรยากาศที่นี่สวยงามมากจริง ๆ ใครที่ชอบธรรมชาติต้องถูกใจแน่ ๆ โดยศาลเจ้าเทพแห่งสายน้ำนี้สร้างขึ้นมากว่า 1,600 ปี เพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งน้ำและฝน แต่จุดที่เป็นไฮไลต์คือจุดขอพร และ ใบเซียมซีแห่งน้ำที่ต้องนำใบเซียมซีที่ได้ไปลอยน้ำก่อน ถึงจะรู้คำทำนายที่ได้ ใครอยากรู้ว่าความรักของตัวเองตอนนี้เป็นอย่างไร ให้เทพเจ้าแห่งสายน้ำทำนายกัน!

Visualhunt |Elvis Huang

  • เวลาทำการ:
    • 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน เวลา 6.00 น. – 20.00 น.
    • 1 ธันวาคม – 30 เมษายน เวลา 6.00 น. – 18.00 น.
  • วิธีการเดินทาง: รถไฟสถานี Kibune-guchi สาย Eizan ใช้เวลา 30 นาที

5. ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine)

Visualhunt |moalichen

มารับพลังใจจากศาลเจ้าที่สุดท้ายกันต่อกับ ศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องในการขอพรให้สุขภาพแข็งแรง โดยคนญี่ปุ่นจะนิยมมาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและดลบันดาลให้มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิต ให้สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ เมื่อขอพรเสร็จเราแนะนำว่าลองเดินงานวัดสไตล์ญี่ปุ่นดู เพราะศาลเจ้าแห่งนี้จะมีร้านรวงต่าง ๆ มาขายอยู่ตลอดทางเดิน และจัดตลอดปีเลยทีเดียว หากใครอยากได้เครื่องรางติดไม้ติดมือกลับไปก็มีให้ได้นำไปบูชาเหมือนกัน และเครื่องรางที่อยากแนะนำก็คือเครื่องรางด้านความปลอดภัยและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั่นเอง นอกจากนั้นยังมีตู้น้ำมนต์แบบหยอดเหรียญให้กดด้วยนะ เรียกว่านวัตกรรมแบบนี้หาได้แค่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ

Visualhunt |jerrytam0701

  • เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
  • วิธีการเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟ จาก Gion Shijo Station จาก Hankyu Line  เดิน 10 นาที
  • เดินทางโดยรถประจำทาง รถประจำทางสาย 100, 206 จากป้าย Gion bus stop เดิน 10 นาที

เตรียมความพร้อมก่อนไปเกียวโต