สำหรับใครที่ใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากจะไปเยือนประเทศญี่ปุ่นให้ได้สักครั้ง ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริงสักที หากเป็นมือใหม่สำหรับญี่ปุ่นล่ะก็น่าจะเคยได้เห็นหรือได้ยินมาบ้างว่า เมืองโตเกียว เป็นจุดหมายที่ได้ถูกแนะนำบ่อยและฮิตที่สุดถ้าคิดจะไปญี่ปุ่นครั้งแรก และความน่าสนใจและเสน่ห์ของโตเกียวเองก็ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง และหลากหลายสถานที่ที่รอให้เราออกเดินทางไปค้นหา ถ้าคุณอยากไปญี่ปุ่นและมีวันหยุดสัก 4 วัน 3 คืน ถ้าอย่างนั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ มาวางแผนเที่ยวโตเกียว 4 วัน 3 คืน แบบคุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มเวลา สไตล์ KKday กันเลย
แล้วจะเดินทางยังไงให้สะดวกสบาย?
สำหรับการเดินทางที่เราอยากจะแนะนำเพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็วนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีทั้งขนส่งสาธารณะและรถรับส่งแบบส่วนตัว แต่แนะนำว่าหากอยากได้รับความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นให้จองการเดินทางจากสนามบินหรือซื้อบัตรโดยสารไว้ล่วงหน้าได้เลย เพราะว่าจะไปไหนในโตเกียวจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองบัตรโดยสารประเภทต่าง ๆ ได้ที่:
- ตั๋วโดยสาร รถรับ-ส่งส่วนตัว จากสนามบินนาริตะ (NRT) ไปโตเกียว : บริการรถรับ-ส่งส่วนตัว (Airport Transfer) : สนามบินนาริตะ (NRT) – โตเกียว
- รถลีมูซีนบัสรับส่ง สนามบิน พร้อมเข้าโตเกียวสกายทรี : ตั๋วโดยสารรถบัส Airport Transfer: สนามบินนาริตะ – โตเกียว (เที่ยวเดียว/ไปกลับ)
- บัตรซุยกะ (Suica) ของ JR East ใช้โดยสารรถสาธารณะและใช้จ่ายในร้านที่ร่วมรายการในประเทศญี่ปุ่น : บัตร Suica (รับที่สนามบินหรือในเมืองโตเกียว)
- ตั๋วโดยสาร Skyliner : ตั๋วโดยสารรถไฟเคเซสกายไลเนอร์ (Keisei Electric Railway Skyliner)
- บัตรพาส Tokyo Metro สำหรับ 24, 48 และ 72 ชั่วโมง : ตั๋วโดยสารรถไฟ Tokyo Subway
แล้วถ้าอยากใช้อินเทอร์เน็ตแบบคุ้ม ๆ ระหว่างเดินทางล่ะต้องทำยังไงบ้าง?
แนะนำว่าใช้เป็น Pocket WiFi น่าจะคุ้มค่าและใช้ได้หลายคนและแชร์ได้หลายอุปกรณ์มากกว่า แถมยังเหมาะสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา แนะนำเป็นบริการเช่า Pocket WiFi ไต้หวัน ที่จะทำให้คุณไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ ด้วยสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G แบบไม่จำกัดปริมาณ ครอบคลุมทุกพื้นในประเทศญี่ปุ่น สามารถเชื่อมต่อสัญญาณพร้อมกันได้ 2-3 อุปกรณ์ และสามารถรับและคืนอุปกรณ์ได้ที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อแพ็กเพจได้ที่: Pocket Wi-Fi ญี่ปุ่น 4G ไม่จำกัด รับที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่ 1: วันแห่งการชมวิวในเมือง
โตเกียวสกายทรี > ล่องเรือและทานอาหาร > บุฟเฟต์ขนมหวานไม่อั้น > เทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ 2019
1. โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) หรือหอโทรทัศน์โตเกียวสกายทรีเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของโตเกียว ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward และจุดเด่นของที่นี่ก็ต้องเป็นเรื่องของความสูง เพราะสูงแซงหอคอยอื่น ๆ ทั่วโลก และมีความสูงถึง 634 เมตร โดยสิ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ก็มีหลายอย่าง อย่าง จุดชมวิวเมืองโตเกียวที่สวยที่สุดที่สามารถชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา ที่กินเที่ยว แหล่งชอปปิง อควาเรียม Skywalk ที่สูงที่สุดในโลก และร้านขายของที่ระลึก
สามารถซื้อแพ็กเกจบัตรเข้าโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และบัตรพาส Tobu Railway สำหรับ 1 วัน ได้ที่นี่
- เวลาทำการ: ทุกวัน 8.00 น. – 22.00 น.
- วิธีการเดินทาง: เดิน 5 นาที จาก Tokyo Skytree Station ของ Tobu Isesaki Line
2. ล่องเรือและรับประทานอาหาร ที่ Tokyo Sumida Boat Cruise
เมื่อเยี่ยมชมภายในโตเกียวสกายทรีเรียบร้อยแล้ว ก็มาเติมพลังกันต่อสักหน่อย จะให้แนะนำร้านอาหารธรรมดา ๆ ก็ไม่น่าสนใจเท่าไร เราเลยแนะนำว่าให้ทานอาหารกลางวันไปด้วย แล้วก็ล่องเรือชมวิวไปด้วยน่าจะเพิ่มอรรถรสของอาหารได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยสิ่งที่เราจะแนะนำก็คือ แพ็กเกจล่องเรือและรับประทานอาหาร Tokyo Sumida Boat Cruise โดยคุณจะได้ล่องไปกับเรือโบราณ Yakatabune เพื่อชมวิวของอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) ผ่าน Tokyo Sky Tree โดยเลือกเป็นเซ็ตอาหารกลางวัน แต่จริง ๆ แล้วเขาก็มีล่องเรือรอบเย็นด้วย มาออกไปชมทิวทัศน์ริมน้ำสวย ๆ พร้อมรับประทานอาหารแสนอร่อยกันดีกว่า สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองแพ็กเกจได้ที่นี่
3. ชิมบุฟเฟต์ขนมหวานไม่อั้น ที่ ร้าน Salon de Sweets
หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารบนเรือแล้ว มาหาของหวานล้างปากกันดีกว่า โดยร้านขนมหวานที่เราจะพาไปนั้นอยู่ที่โตเกียวสกายทรี แถมยังเป็นบุฟเฟต์ของหวานด้วย โดยมีขนมหวานมากมายให้คุณเลือกรับประทานมากกว่า 30 ชนิด และอาหารคาว อย่าง พาสต้า สลัด ซุปรวมทั้งเครื่องดื่มฟรี แต่หากจองกับแพ็กเกจ บุฟเฟต์ขนมหวานไม่อั้น ที่ ร้าน Salon de Sweets ที่โตเกียวสกายทรี ก็ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวแล้วเข้าไปสัมผัสความอร่อยที่รอคุณอยู่ได้เลย! สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองแพ็กเกจได้ที่: แพ็กเกจบุฟเฟต์ขนมหวานไม่อั้น ที่ ร้าน Salon de Sweets
4. ชมเทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival)
มาปิดท้ายวันกันกับการแสดงดอกไม้ไฟสุดตื่นตาตื่นใจกันที่โตเกียวสกายทรีนี่แหละ เรียกได้ว่าวันแรกนี้ขอทุ่มให้กับที่นี่ทั้งวันเลยแล้วกัน โดยการแสดงที่เราอยากให้คุณได้สัมผัสนั่นก็คือหนึ่งในเทศกาลฤดูร้อนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อย่าง เทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival) ประจำปี 2019 เทศกาลดอกไม้ไฟชื่อดังซึ่งจัดมายาวนานที่สุด ถึง 300 ปี โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ หากรีบจอง บัตรเทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ 2019 ที่โตเกียวสกายทรีกับ KKday วันนี้ที่: บัตรชมเทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ 2019 ที่โตเกียวสกายทรี จะได้รับเครื่องดื่มฟรีและคูปองชอปปิงที่ร้านค้าในโตเกียวสกายทรี มูลค่า 100 เยนด้วยนะ
วันที่ 2: วันแห่งการชมวิวและใกล้ชิดธรรมชาติ
ภูเขาไฟฟูจิ > ร้าน Shunju Tameike Sanno
1. ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) และ ฮาโกเน่ (Hakone)
เรามาเดินทางไปแลนด์มาร์กยอดฮิตตลอดกาลของญี่ปุ่น อย่าง ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) และ ฮาโก่เน่ (Hakone) กันดีกว่า ที่เราแนะนำที่นี่ก็เพราะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก แถมวิธีที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ เดินทางสะดวกสบายไม่ต้องวางแผนเองด้วยว่าจะขึ้นรถลงเรือต่อรถไฟอย่างไรให้ยุ่งยาก แค่ทำตามเราแบบนี้!
เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับ 10 ชั่วโมงเต็ม ด้วยบริการรถนำเที่ยวส่วนตัวจาก KKday เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในโตเกียว เช่น ภูเขาฟูจิและทะเลสาปคาวากูจิ
และหากอยากได้คนนำทางด้วยล่ะก็ ไม่ต้องห่วง เพราะคนขับรถจะทำหน้าที่ไกด์คอยแนะนำและอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้กับคุณเอง แล้วคุณจะได้ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อย่าง ชมทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขาฟูจิ ชอปปิงร้านค้าหลากหลายกว่า 200 ร้าน ที่โกเดมบะพรีเมียมเอ้าเลท พร้อมเดินกินลมชมวิวทะเลสาปคาวากูชิโกะและยามานาคาโกะอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คุณสามารถจองได้ในวันเดย์ทัวร์แบบส่วนตัวจากโตเกียว: เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ และฮาโกเน่ : วันเดย์ทัวร์แบบส่วนตัวจากโตเกียว: เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ และฮาโกเน่
2. ร้าน Shunju Tameike Sanno
กลับมาเติมพลังให้หายเหนื่อยกันต่อที่ร้าน Shunju Tameike Sanno ในอาซากุสะ โตเกียว และเพลิดเพลินไปกับวัตถุดิบตามฤดูกาลและทิวทัศน์กรุงโตเกียวอันสวยงามยามค่ำคืนในร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้ ชิมอาหารคุณภาพ พร้อมชมวิวและบรรยากาศหลักล้านแบบนี้น่าจะเป็นกิจกรรมที่ปิดวันได้ประทับใจไม่มากก็น้อย
สามารถจอง บัตรรับประทานอาหารญี่ปุ่นหลายคอร์ส ร้าน Shunju Tameike Sanno ในอาซากุสะ โตเกียว และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
วันที่ 3: วันแห่งการย้อนวัยกลับไปเป็นเด็ก
พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน > เลโก้แลนด์ โตเกียว > โตเกียววันพีซทาวเวอร์
1. พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน Fujiko F. Fujio
Visualhunt | chinnian
Visualhunt | chinnian
เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดในดวงใจ หากใครได้ไปเยือนที่นี่ น่าจะประทับอยู่ใจไม่น้อย! เพราะมีภาพฉบับร่างของการ์ตูนเรื่องนี้และ เครื่องเล่นที่น่าสนใจอีกมากมายให้เราได้เยี่ยมชมใน Fujiko ·F· Fujio Museum โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับโดราเอมอนและปลุกการ์ตูนในความทรงจำนี้กลับมาอีกครั้ง แถมบรรยากาศภายนอกของพิพิธภัณฑ์ยังมีที่ต่าง ๆ ที่จำลองมาจากในการ์ตูนให้เราได้ไปเก็บภาพแห่งความประทับใจนี้ไว้ สำหรับใครที่อยากซื้อของที่ระลึกหรือของฝากก็ต้องไม่พลาดร้านของฝากน่ารัก ๆ ในพิพิธภัณ์เลย แฟนพันธุ์แท้โดราเอมอนต้องแวะไปเยือนแล้วล่ะ
สามารถจองบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน Fujiko F. Fujio ได้ก่อนใครที่นี่
2. เลโก้แลนด์ ดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ โตเกียว (LEGOLAND Discovery Center Tokyo)
ต่อกันด้วยสถานที่ที่น่าจะทำให้เด็ก ๆ และผู้ใหญ่หลาย ๆ คนใจเต้นแรง เพราะ เลโก้แลนด์ ดิสคัฟเวอรี เซ็นเตอร์ แห่งนี้มีตัวต่อเลโก้มากกว่า 3 ล้านชิ้น! แถมยังมีเมืองจิ๋วแบบ 3D ที่ย่อส่วนจากแลนด์มาร์กของโตเกียวไว้อีกด้วย แต่ที่พลาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งเลยคือการรับชม ภาพยนตร์แบบไดนามิก 4D และเครื่องเล่นแสนสนุกอีกมากมาย มาเล่นสนุกไปกับตัวต่อเลโก้สุดโปรดของคุณอีกครั้งกันดีกว่า
สามารถซื้อบัตรเข้าชม เลโก้แลนด์ ดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ โตเกียว (LEGOLAND Discovery Center Tokyo ที่นี่
3. โตเกียววันพีซทาวเวอร์ (Tokyo One Piece Tower)
Visualhunt | kndynt2099
มาเพลิดเพลินกับตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นอันโด่งดัง อย่าง วันพีซ กันบ้าง เพราะที่นี่คือ โตเกียววันพีซทาวเวอร์ สวนสนุกในร่มที่ใช้การ์ตูนวันพีซเป็นคอนเซ็ปต์หลัก เอาใจคนรักซีรีส์การ์ตูนเรื่องนี้กันแบบจัดหนักจัดเต็ม แต่ส่วนที่ทำให้สาวกการ์ตูนเรื่องนี้น่าจะอยู่ในส่วนของการแสดงสด ร้านอาหาร และร้านขายของที่เกี่ยวข้องกับวันพีซทั้งหมด แถมยังมีจุดชุมวิวของโตเกียวทาวเวอร์ให้ได้ขึ้นไปชมวิวอีกด้วย เอาล่ะ
รีบจองบัตรเข้าโตเกียววันพีซทาวเวอร์ (Tokyo One Piece Tower) แล้วไปตะลุยโลกของโจรสลัดกันเลย!
4. ร้านอาหารยอดฮิตในโตเกียว
มาถึงร้านอาหารที่เราอยากแนะนำให้ไปลิ้มลองกันบ้าง เพราะที่คัดสรรมานี้มีแต่ของเด็ด ๆ ทั้งนั้นเลย ทั้งบุฟเฟต์ซูชิคุณภาพดี เนื้อย่างร้านดัง และชาบูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ โดยทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมาก หากใครที่ไปกันเป็นกลุ่ม ใครชอบหรือไม่ชอบกินอะไรก็ตกลงกันแล้วแบ่งกลุ่มกันไปลิ้มลองความอร่อยได้เลย
- จองร้าน บุฟเฟต์ซูชิไม่อั้น ร้าน Hinasushi ได้ที่นี่
- จองร้าน เนื้อย่างร้าน Okuu Yakiniku ได้ที่นี่
- จองร้าน ชาบู Rabu Ginza Glasse ได้ที่นี่
วันที่ 4
วันแห่งการแวะทานของอร่อย เยี่ยมชมวัดเก่าแก่ และชอปปิงกันก่อนกลับ
1. ร้าน Unagi Uomasa
มาแวะเดิมพลังกันก่อนไปเที่ยววันสุดท้าย ด้วยเมนูสุดพิเศษอันเลื่องชื่อที่ใครได้ลองแล้วก็ตกหลุมรักทุกราย กับ เมนูปลาไหลอูนางิ สไตล์ญี่ปุ่น ขอบอกเลยว่าถ้าได้ลองแล้วจากไม่ชอบก็อาจจะตกหลุมรัก ถ้าตกหลุมรักอยู่แล้วก็น่าจะประทับใจรสชาตินี้ไปอีกนาน เอาเป็นว่าอยากรู้ว่าเราอวยหรืออร่อยจริงก็ไปลองและจองเมนูปลาไหลอูนางิ ร้าน Unagi Uomasa โตเกียวกันได้ที่นี่
2. วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)
Visualhunt | Nelo Hotsuma
มาแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนกลับสักหน่อยกับ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ โดยวัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์กว่า 1,000 ปี ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนแห่งเมืองนาริตะ เพราะอยู่ใกล้กับสนามบิน และหากมาช่วงเทศกาลปีใหม่แล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าจะเห็นผู้คนมากมายหลังไหลมาไหว้และขอพรกันอย่างคับคั่ง
- เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
- วิธีการเดินทาง: Narita Line สถานี Narita เดินอีก 16 นาที
3. เอาท์เล็ท Shisui Premium Outlets
ที่นี่น่าจะเป็นสวรรค์ของเหล่านักชอปทั้งหลาย เพราะจะได้ละลายทรัพย์กันที่นี่ได้อย่างจุใจ โดยเอาท์เล็ทแห่งนี้ที่มีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกมากกว่า 180 แบรนด์เลยทีเดียว เอาล่ะ ไม่ต้องง้อโปรโมชันลดราคาหรืองานเซลสินค้าใด ๆชอปกลับไปจากเอาท์เล็ทเลยดีกว่า รับรองราคาสบายใจแน่นอน
- เวลาทำการ: 10.00 น. – 20.00 น.
- วิธีการเดินทาง: นั่งรถ Keisei bus