มัลดีฟส์ (Maldives) เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยหมู่เกาะ น้ำทะเลใสราวกับคริสตัลและหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ นุ่มเท้า นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการมาดำน้ำดูปะการังที่สุด วันนี้ทาง KKday มีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่อยากจะไปเที่ยวมัลดีฟส์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนมาฝากกัน มีอะไรบ้าง มาดูเลย!

มาทำความรู้จักประเทศมัลดีฟส์กันเถอะ

มัลดีฟส์หรือ The Republic of Maldives อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย ประกอบไปด้วยเกาะที่เกิดจากหินปะการังขนาดน้อยใหญ่กว่า 1,192 เกาะซึ่งถูกแบ่งเป็น 26 atoll โดยมีเมืองหลวงชื่อว่าเมือง Malé ซึ่งมีประวัติการปกครองที่ยาวนาน นอกจากนั้น ทางประเทศมัลดีฟส์เขาจริงจังอย่างมากกับเรื่องการรักษาธรรมชาติอันสมบูรณ์ในแต่ละหมู่เกาะของตัวเองเอาไว้ จึงทำให้กลายเป็นประเทศที่มีแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่สวยและสมบูรณ์มาก เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาความสงบและนักดำน้ำ 

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวมัลดีฟส์จะต้องมีการจับจองที่พักที่ตัวเองชอบ ซึ่งที่พักจะอยู่ตามเกาะต่างๆ แต่ละที่พักก็จะห้องอาหาร (ตั้งแต่ห้องเดียวจนถึงหลายๆ ห้อง) และบริการกิจกรรมต่างๆ คอยบริการลูกค้าของตนเองให้พร้อม เพราะว่าการจะออกจากโรงแรมที่พักเพื่อไปเที่ยวที่อื่นก็จะหมายถึงการจะต้องแจ้งให้ทางโรงแรมทราบเพื่อจัดเตรียมเครื่องบินน้ำหรือเรือเร็ว (Speed Boat) สำหรับเดินทางออกไปนอกเกาะ 

สกุลเงินที่ใช้ในประเทศมัลดีฟส์ 

สำหรับสกุลเงิน มัลดีฟส์จะใช้สกุลเงิน Rufiyaa โดย 1 Rufiyaa จะเท่ากับราวๆ 2 บาท แต่จริงๆ แล้วสำหรับนักท่องเที่ยว แนะนำให้แลกเป็นเงินดอลล่าห์ที่สามารถใช้ได้ตามรีสอร์ทต่างๆ หรือจะใช้เป็นบัตรเครดิตหรือ traveler cheque ก็ได้เช่นเดียวกัน 

ภูมิอากาศของประเทศมัลดีฟส์ 

ในส่วนของอากาศ จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี มีลมทะเลพัดตลอดทั้งวัน ยกเว้นในช่วงที่ได้รับอิทธิพลมรสุมจากทางทิศใต้และตะวันตกก็อาจจะส่งผลให้มีฝนตกบ้าง

การเดินทางไปมัลดีฟส์

มีสายการบินมากมายที่มีไฟลท์บินไปมัลดีฟส์ ทั้งสายการบินที่มีเที่ยวบินบินตรงอย่าง Bangkok Airway หรือ Air Asia และสายการบินที่มีการแวะพักก่อนอย่าง Srilankan Airline แต่โดยเฉลี่ยหากบินตรงก็จะใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง เมื่อไปถึงสนามบินปลายทาง Male Airport หรือสนามบินนานาชาติอิบราฮิม นาซีร์แล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางต่อโดยใช้เรือเร็ว (Speed Boat) เครื่องบินน้ำ (Sea Plane) หรือเที่ยวบินภายในประเทศ (Domestic Flight) เพื่อเข้าไปยังรีสอร์ทที่พัก ที่จะตั้งอยู่ตามเกาะต่างๆ อันแสนจะเป็นส่วนตัว

ไปมัลดีฟส์จะต้องทำวีซ่าหรือไม่?

สำหรับคนไทย สามารถเดินทางไปเที่ยวชิวๆ ที่มัลดีฟส์ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าก่อน เพียงแค่มีพาสปอร์ตที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนและสามารถอยู่ได้ 30 วัน

กิจกรรมที่น่าสนใจในมัลดีฟส์

แต่ละโรงแรมจะมีบริการกิจกรรมต่างๆ สำหรับแขกที่เข้ามาพักในโรงแรมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือแคนู แล่นเรือใบ เล่นวินด์เซิร์ฟ ล่องเรือชมธรรมชาติและปลาโลมา ไปจนถึงดำน้ำดูปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอย่างกระเบนแมนตาที่หาชมกันได้ที่มัลดีฟส์ 

แนะนำที่พักสุด Exclusive ในมัลดีฟส์ 

ที่พักสำหรับการมาเที่ยวมัลดีฟส์มีอยู่ด้วยกันหลายเกรดและหลายราคา โดยจะมีทั้งที่พักที่อยู่บนเกาะ ที่พักติดชายหาดและที่พักกลางน้ำ เรียงจากราคาต่ำไปสูง 

centara hotels resorts

Centara Ras Fushi – รีสอร์ทสุดหรูระดับ 4 ดาวในเครือเซ็นทาร่า ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ใน Mal Atoll โดยห้องพักออกแบบให้สวยแบบโมเดิร์น โปร่งสบาย เหมาะกับคู่รักที่ต้องการมาฮันนีมูน โดยมีให้เลือกพักตั้งแต่ที่พักบนเกาะติดทะเลและที่พักกลางน้ำ มีกิจกรรมให้ทำมากมายตั้งแต่ผ่อนคลายในห้องสปาและกิจกรรมกีฬาต่างๆ ราคาค่าที่พักเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 บาทต่อคืน 

Banyan Villa Maldives – รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Dhangethi island โดยเป็นที่พักบนเกาะ ไม่มีที่พักกลางน้ำ มีความเงียบสงบ ตกแต่งแบบเรียบง่าย ราคาย่อมเยาว์ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะพักผ่อนหย่อนใจ เพราะรีสอร์ทแบบวิลล่านี้มีห้องพักเพียงแค่ 5 ห้องเท่านั้น มีทั้งกิจกรรมสนุกๆ โซนในร่มและกลางแจ้ง ราคาค่าที่พักเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000  บาทต่อคืน 

Adaaran Prestige Ocean Villas – อีกหนึ่งรีสอร์ทระดับ 4 ดาวหรูหราและตั้งอยู่ใน Note Male Atoll ไม่ไกลจากสนามบิน Male มากนัก ตัวรีสอร์ทตกแต่งแบบ Tropical มีสีสันสดใส มีให้เลือกทั้งที่พักบนเกาะ ริมทะเลและกลางน้ำที่มีกระจกใสที่พื้นกลางห้องทำให้คุณสัมผัสได้ถึงบรรยากาศสดชื่นของน้ำทะเลใสสะอาด พร้อมกับกีฬาทางน้ำอีกมากมายที่รอให้คุณไปลองร่วมสนุก ราคาค่าที่พักเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000  บาทต่อคืน

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในมัลดีฟส์

สำหรับผู้ที่อยากจะออกเที่ยวมัลดีฟส์นอกโรงแรมบ้าง ก็สามารถไปเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจที่เมืองหลวงของประเทศอย่างเมือง Male นอกจากนั้นเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายมาฝากกันด้วยนะ 

Visualhunt | D-Stanley

มัสยิด Malé Friday Mosque (Malé Hukuru Miskiy) – มัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดยสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1656 โดยโครงสร้างแสนสวยนี้สร้างจากหินปะการังและมีการตกแต่งอย่างงดงาม ภายในมีหน้าบันทึกอัลกุรอานประดิษฐานอยู่ หากผู้ที่ไม่ได้เป็นมุสลิมมีความประสงค์จะเข้าไปชมมัสยิดแห่งนี้จะต้องขออนุญาตจาก Ministry of Islamic Affairs เสียก่อน โดยผู้เข้าชมจะต้องแต่งกายให้เรียบร้อยและไม่เข้าเยี่ยมชมในเวลาสวดมนต์

ตลาดปลาในเมือง Male – จะมีตลาดปลาที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหลวงของมัลดีฟส์อย่าง Male โดยตลาดปลาที่นี้มีสินค้าและอาหารทะเลท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ปลาหมึกหรือปลาเก๋าให้ได้เลือกไปย่างทานที่ที่พักกัน

ต้นหมันทะเลแห่งเกาะ Maroshi (Kaani tree in Maroshi) – ต้นหมันทะเล Kaani ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Maroshi ใน Shaviyani atoll เป็นต้นหมันทะเลที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ผิดจากต้นหมันทะเลต้นอื่น อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปีเพราะเป็นต้นไม้ที่นักต่อสู้เพื่ออิสระภาพชาวมัลดีฟส์อย่าง Sultan Mohamed Thakurufaanu ใช้เป็นที่ทอดสมอเรือในช่วงศตวรรษที่ 16