หากพูดถึงเมืองท่องเที่ยวที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมตะวันออก เชื่อได้เลยว่า   ไต้หวัน น่าจะเป็นเมืองที่ติดอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะหลากหลายอารยธรรมทั้งจากจีนและญี่ปุ่นต่างก็หลอมรวมให้ไต้หวันมีมนตร์เสน่ห์แบบเฉพาะตัวที่น่าค้นหา และสถานที่ที่จะพาเราเดินทางย้อนเวลากลับไปชมบรรยากาศเก่าแก่ และร่วมค้นหาเสน่ห์ในวันวานกันอีกครั้ง อย่าง การเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณ ที่รวมเอาวัฒนธรรมเก่าแก่ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์จากแต่ละท้องถิ่นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี 

ไต้หวันจึงเป็นหนึ่งในปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จะมีที่ไหนที่ไม่ควรพลาดบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมเอา 5 หมู่บ้านโบราณที่มีชื่อเสียงและเป็นไฮไลต์ของไต้หวันมาฝากกัน

1. หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street)

หากใครเคยดูแอนิเมชันเรื่อง Spirited Away หนังดังจากค่าย Studio Ghibli ล่ะก็ น่าจะจดจำภาพบรรยากาศของเมืองที่สวยงามนั้นได้ และเมืองที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังเรื่องนี้ ต้นแบบก็มาจาก เมืองโบราณจิ่วเฟิ่น แห่งนี้นี่แหละ โดยบรรยากาศจะเป็นภูมิทัศน์แบบภูเขาสูงที่อยู่ติดกับทะเลสองสีซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มีอาคารบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์ให้เป็นสถาปัตยกรรมโบราณเหมือนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ทั้งโรงน้ำชา หรือร้านขายของที่ระลึกที่มีการประดับประดาด้วยโคมสีแดงทั่วทุกอาคารบ้านเรือนและตามท้องถนนทั้งสองข้างทาง การจัดการพื้นที่ที่ถูกจัดสรรปันส่วนให้อาคารแต่ละหลังมีความลดหลั่นกันก็ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี

ในส่วนของร้านอาหารเองก็มีทั้งของคาว ของหวานที่ขึ้นชื่อ เพราะมีสูตรเฉพาะตัวของเมืองนี้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ส่วนเมนูที่เราอยากแนะนำว่าพลาดไม่ได้เลยในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วต้องหาโอกาสลิ้มลองให้ได้สักครั้ง นั่นก็คือ ลูกชิ้นปลาสูตรโบราณ บัวลอยเผือก และไอศกรีมถั่วตัด แต่นอกจากเรื่องวิวทิวทัศน์ ความสวยงาม หรืออาหารแสนอร่อยแล้ว เมืองนี้ยังมีความน่าสนใจอยู่ที่ประวัติความเป็นมาด้วย เพราะมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายและการขุดค้นพบทองเป็นจำนวนมากในอดีต นี่เลยทำให้เราพอจะนึกออกว่าจิวเฟิ่นในอดีตนั้นจะสวยงามและรุ่งเรืองมากขนาดไหน 

แต่ความน่าสนใจของเมืองโบราณจิ่วเฟิ่นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากใครอยากจะหาเที่ยวสถานที่ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านหรือถนนโบราณด้วยแล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้หาโอกาสไปใกล้ชิดกับธรรมชาติใน อุทยานเย่หลิว ด้วยจะดีมาก หรือใครอยากจะฟังเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์และความเป็นมาของเมืองนี้ก็หาไกด์สักคนไปด้วยก็จะดีไม่น้อย โดยทั้งหมดนี้เราแนะนำว่าให้จอง วันเดย์ทัวร์จากไทเป: เที่ยวถนนโบราณจิ่วเฟิ่น สือเฟิ่น และอุทยานเย่หลิว พร้อมไกด์ภาษาอังกฤษ ไปเลยจะคุ้มค่าและสะดวกสบายมากที่สุด โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองตั๋วได้ที่:  https://www.kkday.com/th/product/2287

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 น. – 20.00 น.
วิธีการเดินทาง:
– รถบัส: สถานี Zhongxiao Fuxing ขึ้นรถบัสหมายเลข 1062
– รถไฟ: นั่งจากสถานี Taipei Main Staion / Nangnag Station ลง สถานี Ruifang

2. หมู่บ้านและถนนโบราณลู่กัง จางฮว่า (Lukang Old Street)

ความน่าสนใจของเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญและเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน อย่าง จางฮว่า คงอยู่ที่ความสวยงามตั้งแต่ครั้งในอดีต และเคยเป็นท่าเรือสำคัญในการขนส่งสินค้า แน่นอนว่าเมืองนี้เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองมากมาย และสิ่งที่ทำให้ทุกวันนี้ยังหลงเหลือให้เราได้พบเห็นอยู่บ้างก็คือ หมู่บ้านโบราณลู่กัง (Lukang Old Street) ที่เป็นหนึ่งในเป็นเขตอนุรักษ์พิเศษที่รักษาความดั้งเดิมไว้ทั้งหมดจนกลายเป็น แลนด์มาร์กที่มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมความงดงามกันอย่างคับคั่ง

โดยภายในหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ก็มีร้านรวงแบบดั้งเดิมมากมายให้เลือกชม ชิม ชอป กันได้เรื่อย ๆ ตลอดสองข้างทาง ทั้งร้านงานหัตถกรรม อย่าง ของเล่นโบราณ โคมไฟกระดาษ ร่ม หรือร้านของกินเก่าแก่ที่ได้รับอิทธิพลตั้งแต่ช่วงการล่าอาณานิคมของดัตช์ก็มีให้ได้ลองกัน ถึงปัจจุบันที่นี่จะเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เท่านั้นแต่ก็ยังมีอีกหลายสถานที่ ทั้ง วัดวาอารามที่งดงามที่สุดในไต้หวัน อย่าง วัดหลงซาน (Longshan) วัดเทียนโฮ่ว (Tienhou) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้าน ที่รอให้เราไปค้นหาเสน่ห์ของจางฮว่าผ่านความงดงามและความสุนทรีย์

เราแนะนำว่าหากมีเวลาไม่มากนักแต่ก็อยากไปให้ครบทุกที่ควรเลือกจองเป็น ทัวร์ครึ่งวันจากไทจง จาก KKday จะสะดวกสบายมากกว่า โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองตั๋วได้ที่: https://www.kkday.com/th/product/24947

วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟจางฮว่า

3. หมู่บ้านฉุ่ยโถว (Shuitou Village)

ที่นี่เป็นชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน สำหรับใครที่อยากชมสถาปัตยกรรมบ้านโบราณที่รวมเอาสถาปัตยกรรมจีนมาผสมผสานกับตะวันตกแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดเลย เพราะที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งรูปปั้นเทพเจ้าสิงโตแห่งลมที่สร้างขึ้นด้วยความเชื่อว่าจะช่วยปกป้องชาวบ้านจากภัยธรรมชาติและโชคร้าย อาคารโบราณแบบมินหนานที่สร้างในสมัยราชวงศ์ชิง และอาคารแบบตะวันตกสร้างในสมัยปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 รวมไปถึง แมนชันเต๋อเยว่ ที่เป็นอาคารพร้อมหอคอย 4 ชั้นแบบโบราณ ซึ่งถือเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดของจินเหมิน

โดยถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลหวง ตั้งแต่ปี 1931 ซึ่งเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในฉุ่ยโถว และสถานที่แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในระแวกนั้นยังมีตึกแถวแบบฝูเจี้ยนให้ชมกันอีกด้วยตลอดทั้งแนว แต่ถ้าใครอยากจะชมความสวยงามของธรรมชาติก็อย่าลืมแวะไปชมอุโมงค์ไจ๋ซาน (Zhaishan Tunnel) อุโมงค์ที่ทำจากหินแกรนิต และจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของอุทยานแห่งชาติจินเหมิน (Kinmen National Park) ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย แต่ถ้ามีเวลาสักหนึ่งวันเต็ม ๆ และมีแพลนว่าอยากจะเที่ยวจินเหมินอย่างจุใจ แนะนำให้จอง วันเดย์ทัวร์จินเหมิน จาก KKday ไปเลย โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองตั๋วได้ที่: https://www.kkday.com/th/product/19843

วิธีการเดินทาง: รถบัสจาก Jincheng Bus Stop ลงป้าย Shuitou 

4. หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)

ก่อนจะมาเป็นหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงามอย่างที่เราเห็นกันในทุกวัน เดิมทีหมู่บ้านสายรุ้ง เป็นหมู่บ้านเก่าของทหารผ่านศึกยุคสงครามกลางเมืองของจีนที่ลี้ภัยมาตั้งรกรากอยู่ที่ไต้หวัน ซึ่งสร้างเพื่ออยู่อาศัย ไม่ได้เน้นความสวยงามแต่อย่างใด และส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายลงและนำมาปรับปรุงเป็นที่อพาร์ตเมนต์ และในระหว่างนั้นก็มีการตกแต่งและวาดลวดลายด้วยสีสันต่าง ๆ จนกลายเป็นแลนด์มาร์กที่รู้จักกันไปทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน เพราะด้วยสีสันที่สะดุดตา ภาพที่วาดลงบนกำแพงและพื้นทางเดินที่มีลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์  สำหรับใครที่รักการถ่ายรูป และอยากได้โลเคชันสีสันสดใส ก็ไม่ควรพลาดหมู่บ้านสายรุ้งแห่งนี้เลย ลองมาดูให้เห็นกับตาว่าศิลปะสามารถเปลี่ยนอาคารเก่า ๆ ที่แสนจะทรุดโทรมในอดีตให้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างไร 

แต่ถ้าใครมีเวลาเหลือล่ะก็ ลองหาสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กในไทจงเที่ยวต่ออีกสักหน่อยจะดีกว่า อย่าง อย่างเกาเหม่ย (Gaomei Wetlands) พื้นที่ชุ่มน้ำอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ที่อยู่ใกล้ ๆ หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากก็แนะนำให้จอง แพ็กเกจวันเดย์ทัวร์จากไทเป ก็รวมที่เที่ยวที่เป็นไฮไลต์เมืองไทจง ไปเลยจะดีกว่า โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองตั๋วได้ที่: https://www.kkday.com/th/product/18438

วิธีการเดินทาง: นั่งรถบัสสาย 30 จากสถานีรถไฟ Taichung 

5. หมู่บ้านปีศาจซีโถว (Xitou Monster Village)

Visualhunt | Chi-Hung Lin

และแล้วก็มาถึงหมู่บ้านสุดท้าย เราเชื่อว่าหลายคนที่อ่านแค่ชื่อหมู่บ้านก็ไม่อยากไปแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน แม้ว่าชื่อหมู่บ้านจะฟังดูน่าขนหัวลุกไปสักหน่อย แต่ความจริงแล้วหมู่บ้านปีศาจแห่งนี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

เพราะหมู่บ้านปีศาจซีโถว หรือ หมู่บ้านซีโถว เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กสไตล์ญี่ปุ่นที่เดิมทีพื้นที่บริเวณนี้เป็นอุทยานป่าไม้ซีโถวที่มีการตัดไม้ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก พอถึงยุคที่ญี่ปุ่นเข้ามาปกครองก็ไม่อนุญาตให้ตัดไม้ และใช้การสร้างรูปปั้นปีศาจ Tengo ขึ้นเพื่อทำให้คนที่จะเข้ามาลักลอบตัดไม้ไปรู้สึกหวาดกลัวและทำให้เชื่อว่ามีปีศาจจากผืนป่าที่คอยปกป้องรักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ ฟังดูไม่น่าเชื่อสักเท่าไรใช่ไหมล่ะ แต่มันกลับได้ผลมากจนไม่มีใครกล้าเข้าไปตัดไม้อีกเลย และในปี 2011 หมู่บ้านแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโบราณที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไต้หวันเองและนักท่องเที่ยว

Visualhunt | Chi-Hung Lin

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เขตศึกษาธรรมชาติซีโถว (Xitou Nature Education Area) และ ป่าต้นไผ่ Daan Bamboo Sea ตลาดโบราณ ร้านขายของ ทั้งของกิน ของฝาก หรือถ้าอยากถ่ายรูปกับโลเคชันธีมปีศาจต่าง ๆ และ รูปปั้นรูปปีศาจ Tian Gou ก็มีเช่นกัน และในวันหยุดยังมีการแสดงพิเศษสุดตื่นตาตื่นใจที่เตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะอีกด้วย

เราอยากแนะนำเพิ่มเติมว่าถ้ามีแพลนจะเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ ให้จองวันเดย์ทัวร์เลยจะประหยัดเวลาในการเดินทางมากกว่า เพราะเราอยากให้ทริปของคุณสะดวกสบายมากที่สุด และไม่ต้องกังวลใจกับการเดินทางใด ๆ ทั้งสิ้น โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและจองตั๋ว วันเดย์ทัวร์หนานโถว หมู่บ้านปีศาจซีโถว (Xitou Monster Village) โดยออกเดินทางจากไทจง (Taichung) ได้ที่: https://www.kkday.com/th/product/2717


เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปเที่ยวไต้หวันด้วย: