ในสถานการณ์ที่ออกไปเที่ยวที่ไหนไม่ได้แบบนี้ จะมีอะไรที่พอจะแก้ขัดได้ดีไปกว่า การกิน! ถ้าได้ลองทานอาหารจากประเทศที่เราอยากไปดู อาจจะทำให้รู้สึกเติมเต็มขึ้นมาได้บ้าง วันนี้เราเลยมีสูตรอาหารจาก 7 ชาติ ทำง่าย ๆ มาแจกกัน เตรียมจดลงรายการ #เมนูกักตัว ได้เลย!
1. เกาหลี: ซุปกิมจิหรือกิมจิชิเก
ซุปกิมจิเป็นเมนูประจำบ้านของคนเกาหลีเลย เหมือนที่เราได้เห็นกันบ่อย ๆ ในซีรีส์ต่าง ๆ ตอนนี้ไปเที่ยวเกาหลีไม่ได้ ก็ทำกิมจิชิเกทานแก้ขัดไปก่อน ซึ่งวิธีทำนี่ก็ไม่ยากเลย
วัตถุดิบ
- กิมจิ 2 ถ้วย
- น้ำ 2 ถ้วย
- เนื้อหมูติดมัน
- เต้าหู้ขาวแข็ง 1 ก้อน
- หอมใหญ่ 1/2 หัว
- ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
- โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกบ่นเกาหลี 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้มหอมสำหรับโรยหน้า
วิธีการทำ
- หั่นกิมจิ หมู หอมใหญ่ เต้าหู้ขาว และต้นหอมญี่ปุ่นเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้
- นำหมูและหอมใหญ่ลงไปผัดในหม้อ พอหมูเริ่มสุกให้ใส่กิมจิลงไปผัดด้วยกัน เพื่อให้กิมจิมีรสชาติยิ่งขึ้น
- ผัดต่อแค่พอให้มีกลิ่นหอม ก็ใส่น้ำเติมลงไป ตั้งไฟจนเดือดแล้วใส่ต้นหอมญี่ปุ่น
- เมื่อทุกอย่างเปื่อยดีแล้ว ใส่เต้าหู้ลงไป ต้มต่อให้เดือด
- ตักเสิร์ฟใส่ชาม และโรยต้นหอมเพิ่มสีสัน ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ จะฟินมาก
2. เวียดนาม: พิซซ่าเวียดนาม
พิซซ่าเวียดนามเป็นเมนูที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในเวียดนาม จะเป็นร้านแผงลอยตั้งเตาย่างให้ทานกันสด ๆ เป็น Street Food ยอดนิยมเลยล่ะ เพราะความกรุบกรอบของแป้งเมี่ยงเข้ากันดีกับไส้และซอส ถ้าไปเที่ยวเวียดนามต้องลอง ยามที่บินไปไม่ได้แบบนี้มาดูวิธีทำพิซซ่าเวียดนามกัน
วัตถุดิบ
- ใบเมี่ยงญวน
- น้ำพริกเผา
- ไส้กรอก (สามารถเปลี่ยนเป็นไส้ที่ชอบได้)
- ไข่ไก่ใบใหญ่
- ต้นหอมและแครอทซอย
- มายองเนส
- ซอสพริก
- พริกบ่น
วิธีการทำ
- ลวกไส้กรอกให้สุก แล้วนำมาหั่นบาง ๆ แนวยาว
- นำกระทะขึ้นตั้งไฟอ่อน – ปานกลาง แล้ววางแผ่นแป้งใบเมี่ยงญวนลงไป
(สตรีทฟู้ดในเวียดนามจะใช้เตาถ่าน แต่ใช้เตาแก๊สทำก็ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกันค่ะ) - โรยต้นหอมและแครอทซอยละเอียดลงไปบนแป้ง
- ใส่น้ำพริกเผา และตอกไข่ไก่ตามลงไป แล้วใช้ช้อนตีไข่ผสมกับน้ำพริกเผา เกลี่ยให้ทั่วแป้ง
- ใส่ไส้กรอก ราดซอสพริก มายองเนส และโรยพริกบ่นเล็กน้อย
- พอไข่เริ่มสุกก็พับครึ่ง หรือม้วน ตักใส่จาน ก็จะได้เป็นอาหารทานเล่นสไตล์เวียดนามแล้ว
3. ญี่ปุ่น: โซบะห่อไข่
คิดถึงญี่ปุ่นกันไหมคะ? งั้นเรามาทำอาหารญี่ปุ่นทานเองที่บ้านดีกว่า อย่างโซบะห่อไข่ อาจจะฟังดูเหมือนทำยาก แต่จริง ๆ แล้วง่ายมาก เหมือนได้ฟีลไปกินที่ร้านยากิซบะในโอซาก้าแน่นอน
วัตถุดิบ
- เส้นยากิโซบะ
- เนื้อหมู
- หอมใหญ่
- กะหล่ำปลี
- ถั่วงอก
- น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
- โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสยากิโซบะ 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ พริกไทย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ครีม 1 ช้อนโต๊ะ
- มายองเนส (สำหรับแต่งหน้า)
- สาหร่ายป่นและปลาโอแห้ง (สำหรับแต่งหน้า)
วิธีการทำ
- หั่นหอมใหญ่และเนื้อหมูเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้
- ตั้งกระทะใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป แล้วนำหมูและหอมใหญ่ลงผัดจนสุก ตักออกมาพักไว้ก่อน
- ใช้กระทะใบเดิม ใส่เส้นยาบิโซบะลงไปผัด ให้เส้นพอมีสีสัน แล้วจึงใส่หมูและหอมใหญ่ที่ผัดแล้วลงไป พร้อมกับกะหล่ำปลีและถั่วงอก ปรุงรสด้วยโชยุและซอสยากิโซบะ
- ผัดให้เข้ากันจนผักเริ่มสลด ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยเล็กน้อย แล้วตักออกมาพักไว้
- ตอกไข่ไก่ 2 ฟองใส่ชาม ตีผสมกับครีมเพื่อเพิ่มความนุ่ม
- ใช้กระทะเทฟล่อนตั้งไฟให้กระทะร้อน แล้วลดไฟลง ใส่ส่วนผสมไข่ลงไปและคนเบา ๆ พอไข่เริ่มเซ็ตตัวให้ยกกระทะออกจากความร้อน นำยากิโซบะที่พักไว้มาวางตรงกลางไข่ ใช้ตะหลิวพับขอบ ๆ ไข่ขึ้นมาคลุมยากิโซบะ แล้วคว่ำลงบนจาน
- แต่งหน้าด้วยซอสยากิโซบะ มายองเนส สาหร่ายป่นและปลาโอแห้ง เป็นอันเสร็จ ก็จะได้ยากิโซบะหอม ๆ ทานคู่กับไข่นุ่ม ๆ แล้ว
4. ไต้หวัน: ชาบูหม่าล่า
สุขใดเล่า จะเท่ากินชาบู เชื่อว่าหลายคนคงอยากออกไปกินชาบูปิ้งย่างกันใจจะขาดแล้ว โดยเฉพาะชาบูหม่าล่ารสเผ็ดร้อนเหมาะกับฤดูกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง วันนี้เราจะบอกวิธีการทำชาบูหมาล่าที่บ้านเอง ให้เหมือนกับว่าได้บินไปกินที่ไต้หวันเลย
วัตถุดิบ
- น้ำซุปกระดูกหมู 1 ลิตร
- น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมใหญ่ 1 หัว
- เก๋ากี้ 1 ช้อนชา
- ลูกกระวาน 1 ช้อนชา
- โป๊ยกั้ก 1 ช้อนชา
- ขิงหั่นแว่น 1 หัว
- ตังกุย 10 กรัม
- อบเชย 2 แท่ง
- พริกแห้ง 1 กำมือ
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- เกลือ 2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกหม่าล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- วัตถุดิบสำหรับน้ำจิ้ม
- น้ำพริกหมาล่า
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำส้มสายชู
- พริกแดงซอย
- กระเทียมสับ
- ต้นหอมซอย
วิธีการทำ
- เริ่มจากคั่วเครื่องเทศน์เพื่อทำน้ำซุปหม่าล่า โดยตั้งหม้อใส่น้ำมันงาลงไป ตามด้วยกระเทียม เก๋ากี้ ลูกกระวาน ขิง โป๊ยกั้ก ตังกุย อบเชยแท่ง และพริกแห้ง ผัดจนมีกลิ่นหอม ระวังอย่าให้ไหม้
- จากนั้นใส่น้ำซุปกระดูกหมูตามลงไป (จะต้มกระดูกเอง หรือใช้ผงปรุงสำเร็จรูปก็ได้) พร้อมกับน้ำพริกหม่าล่า เกลือ น้ำตาล และซีอิ๊วขาว ต้มไว้จนเดือด
- เท่านี้ก็จะได้น้ำซุปหม่าล่าแล้ว เครื่องชาบูก็เลือกได้ตามใจ แนะนำเป็นหมู/เนื้อสไลด์ ลูกชิ้นอย่างดี และผักรวม
- ก่อนเสิร์ฟ ให้ปรุงน้ำจิ้มด้วยน้ำพริกหม่าล่า ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชูอย่าง 1 ช้อน เติมพริก กระเทียม ต้นหอมซอยได้ตามชอบ
5. อเมริกา: โฮมเมดชีสเบอร์เกอร์
อยากไปเที่ยวฝั่งอเมริกา แต่ต้องยู่บ้าน งั้นทำแฮมเบอร์เกอร์กินเองไปเลย ซึ่งวิธีทำเจ้าชีสเบอร์เกอร์นี้จริง ๆ แล้วทำง่ายมาก แค่ต้องใช้เนื้อที่ดีหน่อยเพื่อรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
วัตถุดิบ
- เนื้อบด 1 กก.
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ดิจองมัสตาร์ด (Dijon mustard) 2 ช้อนโต๊ะ
- วูสเตอร์ซอส (Worcestershire sauce) 1.5 ช้อนโต๊ะ
- เบอร์เกอร์บัน
- ผักกาดแก้ว หรือผักกาดหอม
- มะเขือเทศลูกใหญ่หั่นแว่น
- หอมใหญ่หันแว่น
- อเมริกันชีสแผ่น
- แตงกวาดอง
วิธีการทำ
- ผสมเนื้อบด พริกไทย เกลือ ดิจองมัสตาร์ด และวูสเตอร์ซอส ผสมแค่พอเข้ากัน
- แบ่งเนื้อมาปั้นแพตตี้ 8 ชิ้น แล้วนำไปใส่ตู้เย็นให้แพ็ตตี้เซ็ตตัวเล็กน้อย เพื่อที่เวลาย่างจะได้ไม่แตก
- ตั้งกระทะก้นแบน หรือกระทะย่างจนกระทะร้อน วางแพตตี้เนื้อลงไป ย่างด้านละประมาณ 2-3 นาที วางชีสแผ่นลงไปบนแพตตี้ที่ยังร้อนอยู่
- ใช้กระทะเดียวกันย่างเบอร์เกอร์บันด้านในเล็กน้อย
- ทาซอสมะเขือเทศและมัสตาร์ดบนบันชิ้นบน เสิร์ฟพร้อมกับแตงกวาดอง หอมใหญ่ มะเขือเทศ อเมริกันชีส แพตตี้ และผักกาด
6. อิตาลี: สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
จุดหมายอันแสนโรแมนติกอย่างประเทศอิตาลี ตอนนี้คงได้แต่เลื่อนแผนเที่ยวไปก่อน แต่เราสามารถทำพาสต้าสูตรออริจินัลกินได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ใช้เวลาทำไม่นานแถมวัตถุดิบไม่เยอะอีกด้วย
วัตถุดิบ
- เส้นสปาเก็ตตี้ 220 กรัม
- แพนเชตต้า หรือเบค่อน หั่นเป็นเต๋า 25 กรัม
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ 2 ฟอง
- ไข่แดง 1 ฟอง
- พาเมซานชีสขูดสด 50 กรัม
- พริกไทยดำ
วิธีการทำ
- ตั้งน้ำใส่เกลือจนเดือด แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปต้มจนเส้นพอสุก (al dente) ใช้เวลาประมาณ 8 – 10 นาที
- ระหว่างรอเส้นสุก ให้ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกลงไปเพื่อทอดแพนเชตต้าหรือเบค่อนจนสุก ไม่ต้องให้กรอบมาก
- ตอกไข่ 2 ฟองและไข่แดง 1 ฟองลงในชาม พร้อมกับพาเมซานชีสที่ขูดสด และพริกไทยดำลงไป แล้วตีจนเข้ากัน
- เมื่อเส้นสุกพร้อมแล้ว ให้ปิดไฟกระทะที่ทอดแพนเชตต้า แล้วยกกระทะลงจากความร้อน จากนั้นตักเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ลงไป แล้วคลุกผสมให้ทั่วเส้น
- ใส่ส่วนผสมไข่และชีสลงไป คลุกให้ซอสโดนทั่วเส้น ถ้าหากไข่แห้งหรือสุกไป ให้ใส่น้ำต้มเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความ creamy (คาโบนาร่าของแท้ต้องไม่ใส่ครีม!)
- ตักเสิร์ฟ โรยพริกไทย แนะนำให้รับประทานเลยทันที เพราะจะหอมซอสมากกกก
7. อังกฤษ: ฟิช แอนด์ ชิปส์
เมนูอาหารประจำชาติอังกฤษที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ได้รสชาติเหมือนนั่งทานอยู่ในลอนดอน ปลาทอดแป้งกรอบเนื้อฉ่ำ ๆ ทานคู่กับชิปส์ (หรือเฟรนช์ฟรายส์นั่นเอง) และทาร์ทาร์ซอส เป็นมื้อหลักหรือของว่างทานเพลินที่ดีมาก
วัตถุดิบ
- ปลาค็อดหั่นแท่งชิ้นหนา
- แป้งสาลี 120 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- น้ำโซดา 130 มล.
- เบียร์ 170 มล.
- เกลือ พริกไทย
- น้ำมันพืชสำหรับทอดแบบ Deep fry
- มันฝรั่ง หรือมันฝรั่งแช่แข็ง
- วัตถุดิบทำทาร์ทาร์ซอส
- มายองเนส
- แตงกวาดอง
- เคเปอร์ดอง
- ไข่ต้มสุก
- หอมใหญ่
- ใบพาสลีย์
วิธีการทำ
- เริ่มจากการทำแป้งชุบทอดปลา ด้วยการผสมแป้งสาลี แป้งข้าวจ้าว และผงฟูในชามใบใหญ่
- ใส่น้ำโซดา เบียร์ และเกลือ แล้วผสมให้แป้งเนื้อเนียนเข้ากัน ระวังอย่าผสมกันมากจนเกินไป
- อีกชามนึง ผสมแป้งอเนกประสงค์ และพริกไทยไว้ สามารถเติมผงปาปิก้าเพิ่มได้ถ้าชอบให้เผ็ดเล็กน้อย
- นำปลาค็อดที่หั่นแล้วซับมาน้ำออก เอามาชุบแป้งผสมพริกไทยบาง ๆ จากนั้นเอาไปชุบส่วนผสมชุบทอดให้ทั่วชิ้นปลา
- ตั้งน้ำมันให้ร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส
- ค่อย ๆ ใส่ปลาที่ชุบแล้วลงไปในน้ำมัน ทอดประมาณ 8 – 10 นาที จนกว่าแป้งจะกรอบและมีสีเหลืองทอง
- ตักออกใส่ตะแกรงหรือกระดาษซับน้ำมัน
- ทอดมันฝรั่ง หรือมันฝรั่งแช่แข็ง เสร็จแล้วตักขึ้นมาพัก โรยเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
- ทำทาร์ทาร์ซอส เริ่มจากสับแตงกวาดอง เคเปอร์ดอง หอมใหญ่ พาสลีย์ และไข่ต้มให้ละเอียด
- ผสมทุกอย่างเข้ากับมายองเนส เติมน้ำมะนาวและพริกไทยเล็กน้อย ใช้ทานคู่ได้ทั้งกับปลาและชิปส์