กาญจนบุรี เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คนที่อยากจะไปพักผ่อน ชาร์จแบตร่างกายในบรรยากาศอันเงียบสงบ แต่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชมมากมาย ทั้งยังมีธรรมชาติสวยๆ แบบ Unseen ให้ได้เซอร์ไพรส์กับความสวยงามอยู่ตลอดเวลา เราขอแนะนำ 10 แลนด์มาร์กห้ามพลาดที่เที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี 

1. วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีPhoto by Kanchanaburi Center

วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในจังหวัดกาญจนบุรี มีชื่อในเรื่องความสวยงามสะดุดตาของพระรูปองค์ใหญ่หลวงพ่อชินน์ประทานพร ที่ประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์และมีเจดีย์สร้างกั้นด้านหลังไว้อีกที ทำให้สวยงามแปลกตา นอกจากนี้ คนยังนิยมขึ้นไปสำรวจใน พระเจดีย์เกษุแก้วมหาปราสาท เจดีย์แปดเหลี่ยมสูง 9 ชั้น แต่ละชั้นมีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ กัน และประดิษฐานพระพุทธรูปและพระบรมสารีริกธาติเอาไว้ ทำให้คนนิยมมากราบไหว้บูชาและชื่นชมในความยิ่งใหญ่งดงามของวัดนี้

2. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี

สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกาญจนบุรีและของประเทศไทยเลย เพราะสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดในเส้นทางของรถไฟสายมรณะ เนื่องจากเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า การก่อสร้างสะพานนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากของเชลยสงครามมากมายที่ต้องจบชีวิตลง แต่ในปัจจุบันได้มีการยกย่องให้สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และการเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีที่คนจากทั่วโลกต้องมาซักครั้งเมื่อเดินทางมาประเทศไทย

3. น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีVisualhunt | Ant‫‬hony

น้ำตกเอราวัณ คือน้ำตก 7 ชั้นชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี แต่ละชั้นมีแอ่งให้ลงเล่นได้ และมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป แต่ในทุกๆ ชั้นทุกคนจะได้พบกับธรรมชาติป่าไม้อันร่มรื่น และน้ำที่ใสมองเห็นตัวปลาได้อย่างชัดเจนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ความพิเศษของน้ำตกเอราวัณ ก็คือน้ำสีฟ้าอมเขียว ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ยิ่งมีความสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก หากใครสนใจเรื่องธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติผ่านป่าดิบเขาซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางให้ด้วย

4. ต้นจามจุรียักษ์

ต้นจามจุรียักษ์ ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีPhoto by Kanchanaburi Center

ต้นจามจุรียักษ์ หรือต้นก้ามปูยักษ์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งแห่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกาญจนบุรี โดยต้นไม้ยักษ์นี้เติบโตมานานกว่าร้อยปีแล้ว มีความสูงกว่า 20 เมตร และต้องใช้คนกว่า 10 คนถึงจะโอบรอบลำต้นได้ ความสวยงามอยู่ที่กิ่งก้านสาขาของพุ่มไม้ที่สร้างร่มเงาให้พื้นที่กว่า 1 ไร่เศษ บริเวณรอบลำต้นมีสะพานไม้ที่เพิ่มความสวยงามให้ทัศนียภาพ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเหยียบรากไม้อีกด้วย ใครที่ชอบบรรยากาศร่มรื่น หรืออยากนั่งปิกนิกชิลๆ ต้องมาที่นี่เลย

5. เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

เมืองมัลลิกา ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีกิจกรรม เมืองมัลลิกา กาญจนบุรี

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ตั้งอยู่บนพื้นที่ถึง 60 ไร่ ใช้งบกว่า 200 ล้านบาทในการสร้าง แลนด์มาร์กแห่งนี้ในกาญจนบุรี จะพาทุกคนย้อนกลับไปในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5 โดยจะไม่ใช่แค่การเดินชมบ้านเมืองเก่าเท่านั้น แต่จะได้ทดลองใช้ชีวิตแบบผู้คนในสมัยนั้นเลย ตั้งแต่เครื่องแต่งกาย ของใช้ อาหารและขนมสูตรต้นตำรับ เช่น  ขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมชั้น ขนมทองเอก เป็นต้น รวมถึงชาวบ้านกว่าร้อยคนที่อยู่ในเมืองก็จะใช้ภาษาโบราณในการสื่อสารกับเราอีกด้วย รับรองว่าสมจริงและได้เที่ยวรูปแบบใหม่อย่างเพลิดเพลินกันแน่นอน

จองบัตรเข้าชมเมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 กาญจนบุรี

6. ห้วยซองกาเรีย (สังขละบุรี)

อำเภอสังขละบุรี เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่คนเริ่มนิยมไม่มากขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรี โดยหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดของสังขละบุรีก็คือ ห้วยซองกาเรีย เป็นที่มีซุ้มแพริมแม่น้ำให้เราได้นั่งกินข้าว พักผ่อนหย่อนขาสบายๆ ได้ หรือจะกระโดดลงเล่นได้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งน้ำบริเวณนี้ก็ใสแจ๋วมาจนเห็นตัวปลาได้เลย และถ้าหากมีเวลาเหลือหลังจากตรงนี้ แนะนำให้ไปชมสะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ ที่อยู่ในสังขละบุรีเหมือนกัน ไปชมสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและเป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย

7. บ้านอีต่อง (เหมืองปิล็อก)

บ้านอีต่อง ปิล็อก ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีPhoto by Kanchanaburi Center

ใครที่เป็นสายถ่ายรูปกล้องฟิล์ม สายเที่ยวแบบเน้นความสงบ ไม่ควรพลาดมาที่ บ้านอีต่อง เป็นอันขาด เพราะที่นี่มีบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ ทั้งเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย และมีวิวสวยเต็มไปด้วยภูเขาสีเขียวชอุ่มและหมอกจางๆ โดยหมู่บ้านนี้เคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก เหมืองแร่ดีบุกที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนจะปิดตัวลง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและโฮมสเตย์แสนสงบ ที่จะให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านในชายแดนไทย-พม่า

8. เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีPhoto by Thailand Tourism Directory 

เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สามารถขึ้นเข้าและกางเต้นท์นอนบนเขาได้ แต่มีข้อจำกัด คือ ต้องจองล่วงหน้ากับทางอุทยานฯก่อน และให้ขึ้นได้ไม่เกิน 60 คนต่อวัน โดยจะใช้เวลาเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 6 ชั่วโมง ระยะทางรวม 8 กิโลเมตร และค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางและมีบริการจ้างคนหาบของให้ด้วย และเปิดให้ท่องเที่ยวได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น ใครที่ชอบเดินเขารักการผจญภัย และอยากไปสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเขาช้างเผือก

9. ปราสาทเมืองสิงห์

ปราสาทเมืองสิงห์ ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีPhoto by Kanchanaburi Center

ปราสาทเมืองสิงห์ หรืออุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสต์ในกาญจนบุรี และเป็นเมืองโบราณขอมแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน อายุกว่า 800 ปี เราจะได้ชมศิลปะโบราณของขอม ผ่านซากปราสาทหิน ภายในปราสาทจะมี QR Code บอกข้อมูลในหลากหลายภาษาอีกด้วย ทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้และเดินเที่ยว

10. เขื่อนศรีนครินทร์

เขื่อนศรีนครินทร์ ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีPhoto by Ananta River Hills Resort

แลนด์มาร์กสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของจังหวัดกาญจนบุรี คือ เขื่อนศรีนครินทร์  เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นบนแม่น้ำแควใหญ่ เพื่ออำนวยประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้ประชาชน ปัจจุบันได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งพักผ่อนสำคัญของกาญจน์ เพราะมีรีสอร์ทแพสวยๆ มากมายให้บริการ สำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองไปสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

แนะนำ 8 แพรีสอร์ทมาแรงยอดฮิตในจังหวัดกาญจนบุรี

 


เที่ยวกาญจนบุรีกับ KKday ง่าย สะดวก ปลอดภัย พาไปเก็บทุกแลนด์มาร์ก