ไปญี่ปุ่น ไปเที่ยวไหนดี? เมื่อเกิดคำถามนี้ คำตอบที่พุ่งเข้ามาในหัวของแต่ละคนคงจะหนีไม่พ้น โตเกียว โอซาก้า ฮอกไกโด ซัปโปโร หรือหัวเมืองใหญ่ๆ แต่ใครจะรู้บ้างมั้ยน้า ว่าที่ญี่ปุ่นนั้นมีเมืองเล็กๆ นับไม่ถ้วนที่แฝงไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ วันนี้เมืองที่ KKday อยากจะมาแนะนำก็เป็นอีกหนึ่งเมืองเล็กพริกขี้หนูอย่างเมืองนิกโก้ (Nikko)  นิกโก้นั้นเป็นเมืองเล็กๆ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ทางภูเขาเยื้องไปทางเหนือของโตเกียว เป็นเมืองมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยวันนี้สถานที่เที่ยวในนิกโก้ที่ KKday นั้นภูมิใจเสนอก็คือ ศาลเจ้าโทโชกุ นั่นเอง

ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของโชกุนอิเอะยาสุ โชกุนคนแรกของตระกูลโทคุกาว่า ที่ปกครองญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 250 ปี มีการตกแต่งที่เรียกได้ว่าปราณีตวิจิตรสวยงามเป็นอย่างมาก ใช้เงินในการสร้างกว่า 4 หมื่นล้านเยน ต้องใช้ช่างไม้กว่า 400,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่า 17 ปี แต่ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป เพราะได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก (World Heritage Site) เมื่อปี 1999 นี่เอง

เมื่อเดินมายังศาลเจ้าโทโชกุก็จะเจอ เจดีย์สีแดงห้าชั้น ที่มีการทาสีสันและมีลวดลายสวยงาม จากนั้นเมื่อเข้าไปก็จะได้เห็นคลังเก็บสมบัติ ที่มีรูปสลักช้างชื่อว่า Sozonozo Elephant ซึ่งเป็นช้างในจินตนาการ เพราะว่าช่างที่แกะสลักนั้นไม่เคยเห็นช้างมาก่อน

เจดีย์แดงห้าชั้นบริเวณใกล้ทางเข้า รูปสลักช้างในจินตนาการ Sozonozo Elephant เหนือประตูคลังสมบัติ

อาคารตรงข้ามกับคลังสมบัติจะเป็นอาคารไม้โบราณ ที่เป็นที่อยู่ของรูปสลัก “Wise Moneky” อันโด่งดังจนได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอันสำคัญ โดยเพื่อนๆ ต้องเคยเห็นกันมาบ้างแหละ เพราะแม้แต่อิโมจิในโทรศัพท์มือถือก็มีรูปลิง 3 ตัวเช่นเดียวกัน โดยลิงตัวแรกนั้นจะปิดหู ลิงตัวที่สองปิดปาก และลิงตัวสุดท้ายปิดตา ซึ่งลิงแต่ละตัวนั้นก็มีความหมายนะ โดยมีความหมายว่า “See no evil” “Hear no evil” “Speak no evil” หรือพูดง่ายๆ ว่า ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูด ในสิ่งที่ไม่ดีนั่นเอง โดยภาพแกะสลักนี้เป็นการแกะสลักจากคัมภีร์หลักขงจื๊อของจีน

จากนั้นเพื่อนๆ ก็สามารถเดินเล่นในบริเวณโดยรอบซึ่งจะมีอาคารหลักของศาลเจ้าให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปทำบุญสวดมนต์ โดยอาคารหลักนี้จะเป็นอาคารที่มีความสวยงามมาก หากใครได้แวะไปอยากให้เดินเข้าไปดูรายละเอียดใกล้ๆ จะเห็นว่าการแกะสลักนั้นต้องใช้ความสามารถมาก และมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซ่อนอยู่มากมาย หลังจากเพื่อนๆ เดินภายในศาลเจ้าได้ซักพักก็อาจจะสังเกตุได้ว่าในบริเวณศาลเจ้ามีถังสาเกวางอยู่มาก นั่นก็เพราะว่าคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเทพเจ้าชอบดื่มสาเกนั่นเอง

เมื่อเดินชมข้างล่างกันเสร็จแล้ว ก็สามารถเดินผ่านประตูซาคาชิทามอนเพื่อขึ้นไปชมสุสานของโชกุนอิเอะยาสุได้เลย ซึ่งที่ซุ้มประตูนี้เองก็มีรูปแกะสลักที่มีชื่อเสียงอีกรูปหนึ่งที่เป็นรูปแมวหลับ ที่สรรสร้างมาจากช่างไม้คนเดียวกับที่แกะสลัก Wise Monkey ซึ่งแมวหลับนี้ก็มีความหมายแฝงอยู่เช่นเดียวกัน โดยหมายความถึงสันติภาพอันสงบสุข ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะสัมผัสได้เช่นนั้นจริงๆ เพราะพอเพื่อนๆ เดินผ่านพ้นประตูขึ้นมาก็จะเป็นบันไดดิน 200 ขั้น ล้อมรอบไปด้วยป่าสนที่ทั้งสวยงามและสัมผัสได้ถึงความสงบสุขในเวลาเดียวกัน เมื่อเดินขึ้นมาถึงข้างบนเพื่อนๆ ก็สามารถเยี่ยมชมและทำการเคารพสุสานของท่านโชกุน แล้วเดินเก็บบรรยากาศอันสวยงามโดยรอบได้ตามสบาย

ศาลเจ้าโทโชกุเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 8.00 – 17.00 น. ยกเว้นเดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม ที่จะเปิดให้เข้าชมถึงแค่เวลา 16.00 เท่านั้น

การเดินทาง : จากโตเกียวสามารถนั่งรถไฟโทบุ (Tobu Railway) จากสถานีอาซากุสะตรงมาได้เลย จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อถึงสถานี โทบุ-นิกโก้ (Tobu-Nikko) สามารถเดินต่อมาที่ศาลเจ้าหรือจะนั่งรถบัสมาลงที่ป้ายชินเกียว (Shinkyo) ก็ได้เช่นกันค่ะ