คิดว่าหลายคนน่าจะกำลังมองหามื้อพิเศษกับคนพิเศษอยู่ใช่มั้ยล่ะ?

ไม่ว่าจะเป็นโอกาสพิเศษไหน ๆ กับคนรัก ครอบครัว หรือเพื่อนสนิท ห้องอาหารที่เรากำลังจะแนะนำต่อไปนี้รับรองว่าประทับใจแน่นอน เพราะนอกจากรสชาติและความพรีเมียมของอาหารที่ขึ้นชื่อแล้ว บรรยากาศของที่นี่ก็ไม่แพ้ที่ไหนเลย เพราะคุณจะได้ชมวิวรอบ ๆ จากชั้น 61 บนตึกหรูของโรงแรมบันยันทรี โรงแรมย่านธุรกิจกลางใจเมืองแบบชิล ๆ พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องดื่มนานาชนิดแบบจุใจตลอดในยามค่ำคืนสุดพิเศษของคุณ แล้วห้องอาหารและบุฟเฟต์เครื่องดื่มที่ว่าจะน่าสนใจขนาดไหน เราจะพาคุณไปชมแบบเอ็กคลูซีฟสุด ๆ เลย

เมื่อก้าวพ้นประตูเข้ามาในโรงแรมขอบอกเลยว่าความประทับใจแรกก็น่าจะเป็นความหรูหราของที่นี่นี่แหละ และเพื่อไม่ให้เสียเวลาเรากดลิฟต์ชั้น 59 เพื่อเดินทางไปยังห้องอาหาร Vertigo ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมในชั้นที่ 61 กันเลย แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่ากว่าจะถึงดาดฟ้าต้องเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกนะ แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปก่อนล่ะ ข้างบนมีอาหารดี ๆ วิวดี ๆ รอเราอยู่!

พอมาถึงแล้วสิ่งแรกที่จะเห็นเลยคือวิวของเมือง ตึกสูง แสงไฟจากตึกอาคารต่าง ๆ ที่เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ยังเห็นโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย เรียกว่าได้ชมทั้งวิวเมืองและแม่น้ำไปพร้อม ๆ กันเลย ลงตัวสุด ๆ สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปก็อย่าลืมชาร์จแบตโทรศัพท์หรือกล้องให้เต็ม พกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วยนะ เพราะมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก

อีกอย่างหนึ่งที่ควรทราบคือห้องอาหาร  Vertigo และ Vertigo TOO มีข้อกำหนดของการแต่งกายที่เคร่งครัด คือให้ใส่ชุดสไตล์ Smart Casual โดยทางร้านไม่อนุญาตให้สวมใส่รองเท้าแตะ ชุดกีฬา เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น หรือสะพายเป้แบ็กแพ็กไปนะ เพราะฉะนั้นเรื่องเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งสำคัญ ไหน ๆ เป็นมื้อพิเศษทั้งทีก็เลือกชุดสวย ๆ หล่อ ๆ แบบจัดเต็มกันไปเลย!

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Tanat Patagape (@patagape)

สำหรับแพ็กเกจของเราในวันนี้คือแพ็กเกจดินเนอร์มื้อค่ำ เซตเมนู 4 คอร์ส จาก KKday โดยทางร้านจะเสิร์ฟไล่เรียงเมนูไปเลย คือเมนูเรียกน้ำย่อย ซุป จานหลัก และของหวาน อาหารจะเป็นอาหารสไตล์นานาชาติ

ข้อดีของแพ็กเกจที่จองผ่าน KKday ก็คือ ถ้าจองไปแล้วเราสามารถยกเลิกการจองได้ฟรีก่อน 3 วัน แถมยังยืนยันการจองได้ทันที โดยได้รับ E-voucher ภายใน 4 ชั่วโมงอีกด้วย เรียกว่าใครที่มีแพลนอยากไป แต่ไม่แน่ใจในตารางงาน ตารางชีวิตของตัวเอง แพ็กเกจนี้ก็ค่อนข้างยืดหยุ่นเลย แถมช่วงเวลาก็มีให้เลือกได้ตั้งแต่ 18.00 – 20.30 น. ทั้งหมด 6 รอบด้วยกัน

เอาล่ะ! เวลาที่รอคอยมาถึงแล้ว มาที่เรื่องอาหารกันดีกว่า สำหรับเซตเมนู 4 คอร์ส เราสามารถเลือกเมนูเรียกน้ำย่อย ซุป จานหลัก และของหวานได้อย่างละหนึ่งเมนู สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อยเมนูที่ขึ้นชื่อเลยก็น่าจะเป็น Tuna Tataki ทูน่าที่กริลผิวด้านนอกให้สุก แต่ด้านในยังสีแดงอมชมพูอยู่ราดด้วยซอสพอนสึ

ภาพ: Tuna Tataki

หรือใครไม่ทานของดิบก็ขอให้เลือกอีกเมนูอย่าง สลัดเป็ดทอดกรอบ Crispy Duck Salad และ เทมปุระมากิไส้ปูยักษ์ King Crab Tempura Maki ไปแทน

ภาพ: สลัดเป็ดทอดกรอบ Crispy Duck Salad

ภาพ: เทมปุระมากิไส้ปูยักษ์ King Crab Tempura Maki

มาต่อกันที่เมนูซุป หนึ่งเมนูที่ถูกใจหลายคนคือ Pumpkin Cream Soup เพราะเป็นซุปฟักทองเนื้อเนียน หอมมัน เข้มข้นสุด ๆ เป็นเมนูรองท้องที่ทำให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไปได้อย่างดี ส่วนเมนูหลัก เราสามารถเลือกเมนูเด็ดอย่างสเต๊ก Australian Prime Beef เนื้อสันในนุ่ม ๆ หอม ๆ ที่มีสัมผัสของเนื้อให้เคี้ยว ไม่นุ่มจนละลาย ทานเพลิน ๆ ได้แบบไม่เลี่ยน หรือถ้าใครไม่ทานเนื้อวัวก็มีสเต๊กแซลมอน Grilled Salmon Fillet เนื้อแซลมอนฉ่ำ ๆ หนังกรอบ ๆ ให้เลือกด้วยนะ และสำหรับของหวาน อาจเป็นพานาคอตตาเบอร์รีโยเกิร์ต Berries Yoghurt Panna Cotta ปิดท้ายมื้ออาหารกันแบบสดชื่น ๆ

ไหน ๆ ก็มาทั้งทีแล้ว ยิ่งเป็นมื้อพิเศษแบบนี้ เราจึงของแนะนำให้แวะไปจิบบุฟเฟต์เครื่องดื่มต่อที่ Vertigo TOO ห้องอาหารและบาร์สุดหรูชั้น 60 ของโรงแรม พร้อมกับฟังดนตรีสด และลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งในห้องแอร์กันอีกด้วย

ห้องอาหาร Vertigo TOO ตกแต่งสวยหรู ถ้าเลือกนั่งติดหน้าต่างก็สามารถชมวิวสวย ๆ ได้เช่นกัน และถ้าจองแพ็กเกจบุฟเฟต์เครื่องดื่มผ่าน KKday ก็จะสามารถเลือกสั่งเครื่องดื่มนานาชนิดได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเบียร์ ไวน์ ค็อกเทล ม็อกเทล หรือซอฟต์ดริงก์ ใครสายแอล สายม็อกเทล ถูกใจแน่นอน!

บุฟเฟต์เครื่องดื่ม Vertigo TOO

 

ถ้าใครอยากมีมื้ออาหารสุดพิเศษแบบนี้ แถมยังจ่ายในราคาสุดคุ้ม ก็สามารถเลือกจองผ่าน KKday ได้เลย โดยสามารถคลิกจองและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้: