เชื่อว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาหลายคนคงมีแพลนทริปเที่ยวต่างประเทศเข้าคิวรออยู่เต็มไปหมด เรียกว่าเตรียมเที่ยว เตรียมลุย เตรียมไปพักผ่อนกันเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมีความหวังในการไปต่างประเทศให้เราได้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลายประเทศเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ COVID-19 ครบโดสแล้ว แถมยังมีหลายประเทศก็มีทัวร์วัคซีนที่รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตัวเองด้วยเช่นกัน ฝันที่ไม่กล้าฝันที่จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว แต่ก่อนจะทำฝันให้เป็นจริงได้ เรามาเช็กจุดหมายปลายทางกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้มีประเทศไหนที่เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว หรือที่ไหนมีทัวร์ฉีดวัคซีนให้เราได้เลือกไปบ้าง มาดูกันเลย!

มีประเทศไหนที่น่าสนใจและเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วบ้าง?

 

1. เอกวาดอร์

รูปภาพ: wikipedia

มาเริ่มที่ประเทศในทวีปอเมริกาใต้อย่าง เอกวาดอร์ กันก่อน ประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะกาลาปาโกส (Galapagos) ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติ Cotopaxi และ Cajas และเมืองหลวงอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่าง เมืองกีโต (Quito) รับรองว่าถ้าได้ไปเห็นกับตาตัวเองครั้งหนึ่งในชีวิตต้องประทับใจแน่นอน และตอนนี้เอกวาดอร์ก็เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสตามกำหนดแล้วด้วย และแน่นอนว่าต้องทำตามระเบียบการเว้นระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดด้วยนะ

 

2. จอร์เจีย

รูปภาพ: nationalflags.shop

ดินแดนที่ตั้งอยู่บนจุดตัดของทวีปเอเชียและยุโรปที่ผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นยุโรปและโซเวียตได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และธรรมชาติสุดอลังการ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเป็นจุดมุ่งหมายของคนจากทั่วโลกก็มีทั้ง เมืองหลวงอย่าง ทบิลิซี (Tbilisi) หมู่บ้านมรดกโลก อูชกูลี (Ushguli) เมืองริมทะเลดำอย่าง บาทูมิ (Batumi) แถมค่าครองชีพค่อนข้างใกล้เคียงกับบ้านเรามาก ๆ และไม่ต้องยุ่งยากในการขอวีซ่าด้วยนะ

 

และเมื่อเร็ว ๆ จอร์เจียยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยเครื่องบิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสตามกำหนดแล้ว ไม่ต้องตรวจหาเชื้อ COVID-19 ก่อนเดินทางหรือกักตัวใด ๆ ขอแค่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนมาด้วยเท่านั้นก็พอ

 

3. โครเอเชีย

รูปภาพ: countryflags

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงและได้เห็นความงดงามทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติของประเทศโครเอเชียกันมาบ้าง พื้นที่ของโครเอเชียตั้งอยู่ในทั้งยุโรปกลาง ยุโรปใต้ และยุโรปตะวันออก นี่จึงเป็นที่มาของชื่อเล่นที่ว่า ดินแดนพระจันทร์เสี้ยว นั่นเอง และแลนด์มาร์กสุดฮิตที่ใคร ๆ ก็บอกว่าต้องไปให้เห็นกับตาสักครั้งถ้าได้ไปเยือนโครเอเชียก็มีตั้งแต่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (Plitvice National Park) อุทยานแห่งชาติคอร์นาติ (Kornati National Park) เมืองเก่าโทรเกียร์ (Trogir) มหาวิหารเซนต์เจมส์ (Cathedral of St. James) ไปจนถึง พระราชวังของจักรพรรดิดิโอคลีเชียน (Palace of Diocletian) เพราะทุกที่สวยอลังการตระการตามากจริง ๆ

 

และที่สำคัญเลยคือตอนนี้โครเอเชียยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบแล้วจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามกำหนดจะต้องเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง และเมื่อไปถึงไม่ต้องมีการทดสอบหรือกักตัว แต่ต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติที่รัฐบาลโครเอเชียระบุ โดยต้องกรอกเอกสารแบบฟอร์มประกาศการเดินทางเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://entercroatia.mup.hr/

 

4. กรีซ

รูปภาพ: britannica

ความสวยงามอลังการของ กรุงเอเธนส์ (Athens) เกาะซานโตรินี (Santorini) หรือเกาะครีต (Crete) คงทำให้เรารู้จักและเคยได้ยินชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวในกรีซเป็นอย่างดี และกรีซคงเป็นประเทศในใจขอ

งใครหลายคนเช่นกัน ตอนนี้ประเทศกรีซมีแผนจะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีผลการตรวจยืนยันเชื้อหรือมีผลการทดสอบ RT-PCR ที่เป็นลบที่ตรวจไว้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ที่สำคัญเลยคือจะต้องกรอกแบบฟอร์มระบุตำแหน่งผู้โดยสารที่เว็บไซต์ https://travel.gov.gr/#/

ภายในเวลา 23.59 น. ของวันก่อนออกเดินทาง และต้องแสดง QR Code ที่มาจากแบบฟอร์มนี้เมื่อเดินทางไปถึง

 

คำแนะนำเพิ่มเติม: ควรติดตามข่าวสารและข้อมูลการเดินทางของประเทศที่จะเดินทางไปอย่างสม่ำเสมอเพราะอาจมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และควรศึกษาข้อมูลของประเทศที่จะไปว่ารองรับวัคซีนยี่ห้อไหนบ้างในการเดินทางไปยังประเทศนั้น ๆ

 

แล้วประเทศไหนบ้างที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปฉีดวัคซีนหรือไปทัวร์ฉีดวัคซีน?

 

1. ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

รูปภาพ: wikipedia

ดูไบ เมืองที่รู้จักกันดีในชื่อของเมืองแห่งความร่ำรวยและความงดงามมหัศจรรย์ระดับโลกก็เป็นอีกเมืองที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศให้เข้ามาฉีดวัคซีนได้แล้ว โดยนักท่องเที่ยวจะต้องมีผลการทดสอบหาเชื้อเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาด้วย แต่ยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่มาจากแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอินเดีย เข้าการรับวัคซีนในตอนนี้

 

2. มัลดีฟส์

รูปภาพ: wikipedia

มัลดีฟส์ เกาะสวรรค์ที่เป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งในใจใครหลายคน ตอนนี้มัลดีฟส์เองก็มีการวางแผนให้นักท่องเที่ยวเข้ามารับวัคซีนด้วยแล้วเช่นกัน โดยจะต้องอยู่ที่มัลดีฟส์เป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อรอฉีดวัคซีนจนครบกำหนด เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบาย 3V คือ Visit (เข้าประเทศ) Vaccinate (ฉีดวัคซีน) และ Vacation (ท่องเที่ยว) โดยมีเงื่อนไขว่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่มัลดีฟส์จะต้องมีผลตรวจยืนยันว่าไม่พบเชื้อมาแสดง และรัฐบาลจะเริ่มนโยบายทันทีที่ประชากรมัลดีฟส์ได้รับวัคซีนครบทุกคน

 

3. สหรัฐอเมริกา

รูปภาพ: wikipedia

ช่วงนี้เราคงเห็นเหล่า YouTuber หรือใครหลาย ๆ คนรอบตัวเริ่มเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อไปฉีดวัคซีนกันบ้างแล้ว เพราะสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปแบบฟรี ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ โดย 18 รัฐที่ฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็คือ New York, Alabama, Arizona, Colorado, Iova, Louisiana, Maryland, Michigan, Montana, Nevada, New Hampshire, New Mexico, Ohio, Oklahoma, Texas, Virginia, South Carolina และ Pennsylvania

 

4. เซอร์เบีย

รูปภาพ:wikipedia 

เราอาจจะไม่คุ้นชื่อประเทศเซอร์เบีย ประเทศที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรปเท่าไรนัก แต่ประเทศนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายซ่อนตัวอยู่เต็มไปหมด และก่อนหน้านี้ไม่นานเซอร์เบียร์เป็นประเทศที่มีวัคซีนเพียงพอที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวมาฉีดวัคซีนหลากหลายยี่ห้อ ทั้ง ไฟเซอร์ (Pfizer) แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) สปุตนิก วี (Sputnik V)  และ ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) แต่ขณะนี้ได้มีหยุดฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชั่วคราว เราอาจจะต้องติดตามข่าวสารเรื่อย ๆ เพราะถ้าหากประชาชนชาวเซอร์เบียได้ฉีดกันครบเมื่อไหร่ ทางรัฐบาลก็อาจจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปฉีดวัคซีนอีกครั้ง

 

5. มอริเชียส

รูปภาพ: commons.wikimedia

นอกจากเซอร์เบียแล้ว สาธารณรัฐมอริเชียส เกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาก็คงเป็นประเทศที่เราอาจจะไม่คุ้นเช่นกัน แต่ทางมอริเชียสได้มีนโยบายฉีดวัคซีนฟรียี่ห้อ โควิชีลด์ (Covishield) และ โควาซิน (​Covaxin) ของอินเดียให้กับชาวต่างชาติที่มีอายุมากกว่า 18 ปีเช่นกัน

 

คำแนะนำเพิ่มเติม: ควรติดตามข่าวสารและข้อมูลการเดินทางของประเทศที่จะเดินทางไปอย่างสม่ำเสมอเพราะอาจมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา