ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดนานนับปี การออกไปเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เคยไปอาจไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป หลาย ๆ คนจึงได้แต่เที่ยวทิพย์รอวนไป แต่แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวใน 6 จังหวัดท่องเที่ยวนำร่องที่กำลังเกิดขึ้นน่าจะนับเป็นข่าวดีอยู่บ้างสำหรับสายเที่ยว ในคอนเทนต์นี้ KKday จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแผนที่ว่านี้ว่ามีจังหวัดนำร่องจังหวัดไหนบ้าง จะได้เตรียมตัวเที่ยวจริง ไม่ต้องนั่งดูรูปเก่า ๆ วนไปอีกแล้ว!

 

แผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 ระยะ นำร่อง 6 พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว

ในเบื้องต้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบโรดแมปเปิดประเทศรับท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมี 6 พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จังหวัดเชียงใหม่ เกาะสมุย (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) และเมืองพัทยา (จังหวัดชลบุรี) โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้

 

  1. ระยะแรก เริ่มวันที่ 1 เม.ย. 64 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางไป 6 พื้นที่จังหวัดนำร่อง คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เชียงใหม่ เกาะสมุย (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) และเมืองพัทยา (จังหวัดชลบุรี) ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน และต้องกักตัว 7 วันภายในโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ Area Quarantine

 

  1. ระยะที่สอง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป เฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสไม่จำเป็นต้องกักตัว ภายใต้โมเดลภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่นต่อไป โดยสำหรับพื้นที่อื่นอีก 5 จังหวัดยังต้องกักตัว 7 วันเหมือนเดิมไปก่อน

 

  1. ระยะที่สาม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 เป็นต้นไป เฉพาะพื้นที่นำร่องทั้ง 6 แห่ง (รวมภูเก็ตที่นำร่องไปก่อนหน้านี้) นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกักตัว หากรับการฉีดวัคซีนครบโดสและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน

 

  1. ระยะที่สี่ เริ่มวันที่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยไม่ต้องกักตัว หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง

 

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่ต้องแสดงผลรับรองการฉีดวัคซีนครบโดส และต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย

 

ที่เที่ยวแนะนำใน 6 จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง

เพื่อเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง KKday ได้รวบรวมที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ ที่ทุกคนควรรีบไปมาฝากเผื่อเป็นตัวเลือก มีทั้งที่เที่ยวยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วและที่เที่ยวใหม่ ๆ เพราะหลังจากการท่องเที่ยวหยุดชะงักชั่วคราว ธรรมชาติจึงได้มีเวลาฟื้นฟูตัวเองให้สวยงามมากขึ้น นักท่องเที่ยวก็เบาบางลง เหมาะกับการพักผ่อนแบบชิล ๆ และเงียบสงบ ไม่ต้องเจอผู้คนจำนวนมากเบียดเสียดแย่งกันใช้ทรัพยากร

 

1. เล่นกิจกรรมทางน้ำที่เกาะเฮ เกาะราชา และเกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องจังหวัดแรกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ต้องกักตัวภายใต้โมเดลภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เราเชื่อว่าหนึ่งในที่เที่ยวทางธรรมชาติของภูเก็ตที่ทุกคนรอคอยต้องเป็นทะเลแน่นอน  เราเลยขอแนะนำให้เล่นกิจกรรมทางน้ำอย่างการดำน้ำดูปะการังหรือเล่นกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมที่เกาะเฮ เกาะราชา และเกาะไม้ท่อน ซึ่งเป็นเส้นทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนมักจะไปเที่ยวพร้อมกันในทริปเดียว และอยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินใหญ่เท่าไหร่

นอกจากนี้ ทั้ง 3 เกาะนี้ยังมีหาดทรายเนียนละเอียดสวย น้ำทะเลใส และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังและเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์น้ำนานาชนิด หากมีโอกาสได้ไปเยือนในช่วงที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ ทุกคนจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่เงียบสงบและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

2. ปีนผาที่อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่

รูปภาพ: trip-attractive

จังหวัดกระบี่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีที่เที่ยวทางธรรมชาติฮอตฮิตติดอันดับโลก อย่างเช่นที่อ่าวไร่เลย์ แลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมมาปีนหน้าผากัน เพราะราคาย่อมเยา แถมวิวทิวทัศน์โดยรอบยังงดงามมาก

ในช่วงเวลาปกติ อ่าวไร่เลย์จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก จนอาจมีการเบียดเสียดกันหรือทำให้รู้สึกกดดัน แต่ถ้าได้เที่ยวตอนนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจะเบาบางลงมาก ทำให้เราสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

 

3. เขาตะปู จังหวัดพังงา

รูปภาพ:teawlay

หากจังหวัดพังงาเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้กลับไปเที่ยวอีกครั้ง เขาตะปู หรือ เขาตาปู หรือ เกาะเจมส์บอนด์ เป็นที่เที่ยวที่เราอยากแนะนำให้ลองกลับไปเที่ยวดูอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่ที่เที่ยวใหม่อะไร และหลาย ๆ คนก็น่าจะเคยไปมาแล้ว แต่เชื่อว่าน้อยคนจะเคยเห็นเขาตะปูในแบบที่แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย! เพราะเขาตะปูเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องมาจากทัศนียภาพที่สวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เป็นหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเลคล้ายตะปูยักษ์ลอยบนผิวน้ำ และที่ได้ชื่อว่าเกาะเจมส์บอนด์นั้นมีที่มาจากการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอนเพชฌฆาตปืนทอง (The Man with the Golden Gun) นั่นเอง

และที่สำคัญที่สุด เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีข่าวที่น่าใจหายออกมาว่าเขาตะปูอาจเสี่ยงต่อการพังทลายจากการกัดเซาะของน้ำทะเล ดังนั้นหากมีโอกาสก็ควรรีบไปเที่ยวไว้ก่อนดีกว่า!

 

4. Rainbow Rice บ้านซาง – จังหวัดเชียงใหม่

รูปภาพ: reviewchiangmai

เมื่อนึกถึงจังหวัดเชียงใหม่ ภาพจำของเราส่วนใหญ่อาจจะเป็นการเที่ยวดอยหรือสวนดอกไม้ แต่เปิดจังหวัดคราวนี้ลองแวะแปลงนาข้าวสรรพสี “Rainbow Rice บ้านซาง” ทุ่งนาที่ไม่ใช่ทุ่งนาธรรมดาดู เพราะนาข้าวของที่นี่มี 7 สีจากข้าว 7 สายพันธุ์ ถือเป็นแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของเชียงใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ได้รับความนิยมไม่น้อยจากนักท่องเที่ยว ใครที่ชื่นชอบการเที่ยวแนวธรรมชาติ หรือกำลังมองหาโลเคชั่นใหม่ ๆ ปัง ๆ ไว้เช็คอิน ต้องหาโอกาสแวะมาที่นี่ให้ได้

 

5. เกาะมัดสุม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

รูปภาพ: travel.trueid

หนึ่งในที่เที่ยวทางทะเลที่ดังที่สุดของประเทศไทยต้องมีเกาะสมุยรวมอยู่ด้วยแน่นอน เปิดพื้นที่เที่ยวคราวนี้ KKday ขอแนะนำให้รู้จักกับ เกาะมัดสุม หรือ เกาะหมูทะเล เกาะเล็ก ๆ เงียบสงบ ชายหาดสวย น้ำทะเลใส แนวปะการังสมบูรณ์ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะสมุย เป็นไฮไลต์แห่งใหม่ของเกาะสมุยที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงหลังเลยก็ว่าได้ มีจุดเด่นที่ทุกคนที่ขึ้นเกาะมาจะต้องเหลียวหลังมองคือน้องหมูน่ารักหลายตัวที่เดินอวดโฉมไปมาคอยทำความรู้จักกับเหล่านักท่องเที่ยวนั่นเอง

 

6. เกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

รูปภาพ: bestreview

แม้พัทยาจะเป็นเมืองแห่งสีสัน ไนท์ไลฟ์ และธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่พัทยาในวันที่เงียบสงบก็ไม่ได้มีเสน่ห์น้อยลงเลย อย่างเช่นที่เกาะล้าน ที่โดยปกติจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายสัญชาติ แต่เพราะโควิด-19 ทำให้บรรยากาศสงบเงียบ ไม่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลแออัดเหมือนแต่เดิม ชายหาดและน้ำทะเลก็สวยสะอาดขึ้นตามไปด้วย ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวใกล้กรุงเทพแบบไปเช้า-เย็นกลับที่ควรเก็บไว้ในลิสต์เลยล่ะ

 

 

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.thansettakij.com/content/business/474099

https://mgronline.com/south/detail/9640000036311