ช่วงนี้คุณมีอาการผิดปกติทางด้านอารมณ์ ขาดความกระตือรือร้น รู้สึกไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อนอยู่หรือเปล่า?

สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ระบาดมานานนับปี ตอนนี้กำลังทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเพราะกังวลในความปลอดภัยของสุขภาพ ความมั่นคงทางการงานและการเงิน หรือแม้แต่การที่ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ที่บ้าน ไม่มีอิสระเหมือนเมื่อก่อน ก่อนที่ความเครียดจะสะสมจนส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว KKday ขอชวนทุกคนมาลองทำแบบประเมินความเครียดสั้น ๆ จากกรมสุขภาพจิตกันดู พร้อมรับมือกับความเครียดด้วย 5 วิธีคลายเครียดแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

 

แบบประเมินความเครียด โดยกรมสุขภาพจิต

คะแนน 0 หมายถึง แทบไม่มี

คะแนน 1 หมายถึง เป็นบางครั้ง

คะแนน 2 หมายถึง บ่อยครั้ง

คะแนน 3 หมายถึง เป็นประจำ

 

ข้อที่ อาการหรือความรู้สึกที่เกิดในระยะ 2-4 สัปดาห์ คะแนน
0 1 2 3
1. มีปัญหาการนอน นอนไม่หลับหรือนอนมาก
2. มีสมาธิน้อยลง
3. หงุดหงิด/กระวนกระวาย/ว้าวุ่นใจ
4. รู้สึกเบื่อ เซ็ง
5. ไม่อยากพบปะผู้คน

 

การแปลผล

คะแนน 0-4 เครียดน้อย

คะแนน 5-7 เครียดปานกลาง

คะแนน 8-9 เครียดมาก

คะแนน 10-15 เครียดมากที่สุด

 

แนะนำ 5 วิธีคลายเครียดง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้

 

1. ลดการใช้โซเชียลมีเดีย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้โซเชียลมีเดียแทบจะอยู่ในสายเลือดของเราอยู่แล้ว และมันก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว แม้การอัปเดตข่าวสารเป็นประจำจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การเสพติดมากเกินพอดีก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจได้อย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามมือ นิ้ว คอ หลัง แสบตา หรือทำให้เกิดความกระวนกระวายใจ และเกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้

เราเลยขอแนะนำให้ลองลดการใช้โซเชียลมีเดียลง โดยอาจลองเริ่มจากการจัดตารางการใช้โซเชียลมีเดียแบบจำกัดเวลารายวัน ตอบเฉพาะข้อความสำคัญ ๆ ของเพื่อน ๆ เท่านั้น งดการโพสต์ หรือไถหน้าโซเชียลมีเดียไปเรื่อย ๆ เวลาไม่มีอะไรทำแบบเมื่อก่อน หรือจะลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นช่วยบล็อกการทำงานของแอปหรือเว็บไซต์ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดก็ได้เหมือนกัน

 

2. ทำสมาธิบำบัดความเครียด

วิธียอดนิยมในการช่วยผ่อนคลายจัดการความเครียดอีกวิธีคือการทำสมาธิ โดยเน้นการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เริ่มต้นโดยการนั่งหรือนอนในท่าที่สบาย หลับตา จากนั้นค่อย ๆ หายใจเข้า แล้วผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ นับเลข 1 จากนั้นหายใจเข้า-ออกช้า ๆ เหมือนเดิม นับ 2 แล้วทำซ้ำแบบเดิมไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกสงบ หรือจะใช้คำว่ายุบหนอ-พองหนอแทนการนับเลขก็ได้เหมือนกัน

 

3. ทานอาหารต้านเครียด

รู้หรือไม่ว่าอาหารก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมองเหมือนกันนะ ลองเปลี่ยนมาทานข้าว แป้ง หรือธัญพืชไม่ขัดสีดู เพราะอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่มีส่วนช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบาย รวมไปถึงกล้วย ถั่วเปลือกแข็ง เนื้อสัตว์ และไข่ ที่ก็มีสารตั้งต้นที่ช่วยผลิตฮอร์โมนเซโรโทนินด้วยเหมือนกัน

นอกจากนี้ยังควรเลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เพราะมีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระและคลายความเครียดกังวลได้อีกด้วย

นอกจากการทานอาหารที่ช่วยคลายเครียด การลดอาหารที่อาจมีส่วนเพิ่มความตึงเครียดอย่างชา กาแฟ และน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีนก็เป็นอีกหนทางที่จะช่วยลดความเครียดได้เช่นกัน

 

4. ออกกำลังกายเบา ๆ

แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย! ลองเปลี่ยนจากการนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่กับที่มาขยับร่างกายออกกำลังกายเบา ๆ ดูสัก 10 นาทีในแต่ละวันในช่วงแรก แล้วค่อย ๆ ตั้งเป้าหมายออกกำลังให้นานขึ้น ก็จะช่วยคลายความเครียดได้ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้สบายตัวมากขึ้น ช่วยให้หลับลึกขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มระดับสารในสมองที่ช่วยปรับให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน อีกทั้งหากเราสามารถออกกำลังกายได้ตามเป้าหมาย ก็จะส่งผลทางจิตใจให้เรามีความสุขมากขึ้น

 

5. ดูซีรีส์หรือภาพยนตร์คลายเครียด

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยคลายความเครียดคือการดูภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องโปรด แต่ขอแนะนำให้ลองเลือกเรื่องที่บทไม่ซับซ้อนมาก ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ ไม่เศร้าไม่หดหู่ เช่น แนวแอคชั่นบู๊ล้างผลาญ แนวผี ๆ สยองขวัญ หรือแนวฟีลกู๊ด ส่วนแนวตลก เวลาเครียด ๆ ดูแล้วอาจจะไม่ตลกอย่างที่ควรจะเป็นก็ได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น แนวที่แนะนำถือเป็นแค่แนวทางเลือกเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกดูแนวที่ชอบ แม้ว่าจะเป็นแนวลึกลับซับซ้อน หรือดราม่าเคล้าน้ำตาสุด ๆ ก็ตาม ถึงคนอื่นจะไม่เข้าใจ แต่ตราบใดที่คุณชอบ คุณก็จะมีความสุขกับมันแน่นอน!

 

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. https://www.dmh.go.th/test/qtest5/
  2. https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/121-food-for-relaxation
  3. https://www.bangkokhealth.com/17099