ใช้เวลานั่งรถเพียงประมาณ 50 นาทีจากเมืองฮัวเหลียน พวกเราก็จะได้พบกับทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของไต้หวันนั่นก็คือ ทะเลสาบหลี่หยู (Liyu Lake : 鯉魚潭) ชื่อของทะเลสาบมาจากชื่อภูเขาหลี่หยู ซึ่งตั้งอยู่ข้างทะเลสาบ ถึงแม้ทะเลสาบหลี่หยูจะไม่ได้กว้างใหญ่เทียบเท่ากับทะเลสาบสุริยันจันทรา หรือ Sun Moon Lake แต่ความเงียบสงบของที่นี่ก็มีบรรยากาศชวนให้น่ามานั่งทอดกายอยู่ไม่น้อย แถมมีหลากหลายกิจกรรมชวนให้ลองทำด้วย วันนี้ KKday ขอแนะนำกิจกรรมพักผ่อนแบบชิล ชิลที่ ทะเลสาบหลี่หยู ไปดูกันเลยค่ะ

ถีบเรือ พายเรือ นั่งเรือ

บริเวณทะเลสาบหลี่หยูจะมีบริการเรืออยู่หลายแบบ หลายเจ้า แค่เรือถีบอย่างเดียวก็มีให้เลือกหลายแบบแล้ว ทั้งนั่งสองคน นั่งสี่คน ใครมาเป็นคู่มาเป็นแก๊งก็แนะนำเลยค่ะ (แต่ถ้าใครไปคนเดียวก็อาจจะเหงาหน่อยๆ นะคะ ?) รูปแบบเรือก็มีหลายสี หลายแบบ แต่ดูแล้วเจ้ามังกรจะดูเด่นและสวยสุดน้า สนนราคาเริ่มต้นที่ 300 NT

ถ้าใครอยากออกแรงหน่อยก็ลองพายเรือคายัก หรือนั่งเรือเครื่องก็ได้ แต่เตือนไว้นิดนึงนะว่าทะเลสาบนี้ค่อนข้างเล็กนั่งเรือเครื่องไปแป๊บเดียวก็รอบแล้วค่า

เรือถีบ กิจกรรมยอดฮิตที่ทะเลสาบหลี่หยู

ปั่นจักรยาน

การปั่นจักรยานดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่สุดของที่นี่เลย มีร้านให้เช่าจักรยานอยู่หลายร้าน เราได้ลองเช่าแบบปั่นคนเดียวมาในราคา 150 NT ไม่จำกัดเวลา เฮียเจ้าของร้านจะย้ำบอกเราตลอดเลยว่าค่อยๆ ปั่นน้า ไม่ต้องรีบ สงสัยระยะทางสั้นมาก กลัวจะปั่นเสร็จเร็ว ?

ปั่นจักรยานชมวิวรอบทะเลสาบ

ส่วนถ้าใครมาเป็นคู่ จักรยานแบบปั่นคู่ก็มี หรือมาเป็นครอบครัวก็มีแบบจักรยานปั่นทั้งครอบครัวให้เช่าด้วยนะคะ ระยะทางรอบทะเลสาบแค่ประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ปั่นชิลๆ ไม่เหนื่อยมาก ค่อยๆ ปั่นไป ชมวิวไป ถ่ายรูปไป อ่อ…แต่จะมีหลายช่วงเป็นเนินอยู่นะคะ ดูไม่ชัน แต่เราปั่นไม่ขึ้นเลย ถึงกับต้องลงเข็น ฮ่าๆๆ ดังนั้นขอให้เพื่อนๆ เลือกจักรยานสมรรถนะดีๆ สักหน่อย ไม่งั้นปั่นกันจนปวดน่องแน่นอนจ้า

จักรยานปั่นได้ทั้งครอบครัว

เดินเล่น

บางคนก็อาจจะชวนกันมาเดินเล่นที่ริมทะเลสาบ รับอากาศบริสุทธิ์ ชมดอกไม้ ชมสัตว์ต่างๆ (เราเห็นมีป้ายให้ระวังลิงอยู่นะ แต่ไม่เห็นตัวเลย) ทางเดินก็ค่อนข้างปลอดภัยค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะทำทางเดินไว้ให้โดยเฉพาะ หรือกั้นเป็นถนนสำหรับเดินหรือปั่นจักรยานเท่านั้น รถยนต์ห้ามผ่าน รอบทะเลสาบจะมีจุดแวะพัก และจุดให้นั่งปิคนิคกินลมชมวิวกันได้ การเดินรอบทะเลสาบใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ

เส้นทางเดินรอบทะเลสาบ

เดินป่า

ถ้าไม่สนใจการถีบเรือ หรือปั่นจักรยานแล้วล่ะก็การเดินป่าชมธรรมชาติก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย  ภูเขาที่อยู่รอบๆ ทะเลสาบนี้จะมีทางเดินชมธรรมชาติที่น่าสนใจอยู่หลายเส้นทาง แต่ละเส้นทางก็มีชื่อเรียกแสดงจุดเด่นของเส้นทางนั้นๆ เช่น Wild walk, Bird-watching trail, Health trail, Overlook trail เป็นต้น เคยอ่านในรีวิวเจอว่ามีนก ผีเสื้อ แมงมุมเยอะมาก และบางเส้นทางก็มีงูด้วยนะเออ แต่เค้าจะมีป้ายเตือนไว้ ใครไปก็เดินก็อย่ามัวเพลินกับความสวยงามอย่างเดียว ต้องระวังๆ ด้วยนะคะ

เส้นทางเดินขึ้นไปยังทางเดินชมธรรมชาติ

ตกปลา

เป็นกิจกรรมที่เห็นคนมาทำกันเยอะพอสมควรเลย แบบนั่งตกไปเรื่อยๆ ชิล ชิล ไม่ได้เน้นว่าต้องได้เอากลับไปทำกับข้าวทีละหลายโล บางทีก็มานั่งตกกันทั้งครอบครัว แต่เราลองมองลงไปในทะเลสาบก็ไม่เห็นปลาเท่าไหร่นะคะ สงสัยจะเขิน ?

ครอบครัวพากันมาตกปลาที่ทะเลสาบหลี่หยู

กินกุ้งเต้น

เค้าบอกกุ้งเต้นเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ หน้าตาก็เหมือนกุ้งเต้นบ้านเรา แต่ไม่รู้รสชาติเป็นยังไงนะคะ เราไม่ได้ชิม เพราะแพ้กุ้งดิบ เลยลองกินเป็นกุ้งฝอยคั่วเกลือกระเทียมแทน เค็มไปหน่อย แต่กรอบอร่อยดีค่ะ หรือจะสั่งแบบผสมปลาตัวน้อยทอดกรอบก็ได้ แบบกุ้งฝอยชุบแป้งทอดเป็นแพ ๆ ก็มีค่ะ แล้วอย่าลืมตบท้ายด้วย นมมะละกอ ของขึ้นชื่อของที่นี่เลยล่ะค่ะ

กุ้งฝอยคั่วเกลือกระเทียม อาหารที่ควรมาลองชิม

ดูหิ่งห้อย

ประมาณเดือนเมษายน ช่วงเย็นหิ่งห้อยจำนวนมากจะมาบินวนเหนือทะเลสาบ ทำให้ทั้งทะเลสาบดูเหมือนมีไฟประดับระยิบระยับสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

เทศกาลแข่งขันเรือมังกร

เทศกาลแข่งขันเรือมังกรนี้จะจัดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี มีการแข่งขันเรือ และงานประเพณีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาก

 

ถ้าเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสมาเที่ยวฮัวเหลียนแล้ว นอกจากออกวันเดย์ทัวร์ไปทาโรโกะซึ่งเป็นเส้นทางยอดฮิตติดอันดับแล้วล่ะก็ ลองมาสัมผัสกับบรรยากาศชิล ชิล แสนสบายกันที่ทะเลสาบหลี่หยูอีกสักวันก็ดีนะคะ จากทะเลสาบหลี่หยูนี้เรายังอาจไปเที่ยวที่อื่นๆ ได้ต่ออีกเช่น Hualien Lintienshan Forestry Cultural Area หรือ Butterfly Valley Resort ที่มีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งให้แช่ตัวผ่อนคลายความเมื่อยล้า

การเดินทางมาทะเลสาบหลี่หยูนี้สามารถขึ้นรถบัสมาจากในเมืองฮัวเหลียน หรือซื้อวันเดย์ทัวร์เที่ยวทะเลสาบหลี่หยูรวมที่เที่ยวอื่น ๆ เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ