หลังจากเราสไลด์หน้าจอมือถือไปมาเพื่อหาที่เที่ยวใกล้ ๆ ไทเปไม่ให้ซ้ำกับทริปไต้หวันของเราในครั้งก่อน ๆ เป็นเวลาอยู่นานหลายสัปดาห์ เราก็ได้ข้อสรุปที่ว่าจะลองใช้บริการวันเดย์ทัวร์แหลมปี๋โถว ลานหินหนานยา และแหลมซานเตียว ของ KKday ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่เลียบริมชายฝั่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันทั้งหมดเลย

เช้าวันเดินทาง คนขับรถนัดเราที่บริเวณประตูทางออกที่ 3 ฝั่งตะวันออกของสถานีรถไฟไทเป เวลา 9 โมงเช้า คนขับมาก่อนเวลานะคะ ระหว่างรอคนอื่น ๆ เค้าก็ให้คนที่มาก่อนไปซื้ออะไรกินรองท้องกันก่อน ซึ่งทริปเราวันนี้มีผู้ร่วมทางเฉพาะคันของเราก็ทั้งหมด 9 คนค่ะ ลูกทัวร์คันของเราเป็นชาวฟิลิปปินส์ทั้งหมดยกเว้นเรา ส่วนอีกคันไม่แน่ใจว่ากี่คน เป็นรถตู้ไซส์เล็กเหมือนกัน ขับ ๆ ตามกันไป อ่อ…คนขับรถคันของเราก็คือ ไกด์ในวันนี้ด้วยนะคะ

พอเริ่มออกเดินทางสายฝนก็โปรยปรายลงมา เราก็ได้แต่หวังว่าเดี๋ยวมันก็คงจะหยุดค่า

จุดชมวิวหยินหยาง อันที่จริงไม่รู้ว่าชื่อแบบเป็นทางการของจุดนี้เรียกว่าอะไรนะคะ แต่นี่เป็นชื่อที่จำได้จากคำบอกเล่าของไกด์มองลงไปจากจุดชมวิวจะเห็นสีน้ำทะเลเป็นสองสี น้ำตาล-ฟ้า แบ่งออกจากกันอย่างชัดเจน

มองขึ้นไปด้านขวามือจะเห็นภาพของจินกวาสือ หรือเหมืองแร่ทองคำเก่าในสายหมอก อืมมมม สวยอ่ะ!!! ให้อารมณ์เหมือนเดินไปเจอซากอารยธรรมโบราณที่เพิ่งถูกค้นพบเลย ระหว่างนี้ฝนก็ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกราวกับมาผจญภัยอย่างแท้ทรู

ไปกันต่อที่ แหลมปี๋โถว (Bitou cape) มาชมวิวเครื่องกีดขวางหน้าตาประหลาดที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้อย่างดีเยี่ยม และหน้าผาหินที่เป็นที่มาของชื่อ ปี๋โถว ซึ่งหมายถึง บริเวณปลายจมูก ดูหน้าผาตรงนี้สิ! เหมือนกับปลายจมูกที่ยื่นออกมาเลย

นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเรือจับปลาหมึกที่จอดเรียงรายกัน และก็มีรูปปั้นปลาหมึกตั้งวางเรียงรับลมทะเล

สายฝนยังตกลงมาแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ไกด์ของเราก็อารมณ์ดี เชียร์อัพพวกเราไม่ให้อารมณ์หม่นไปตามฟ้าฝนด้วย พาพวกเรามาถึงลานหินหนานยา (Nanya rock formations) ลงรถปุ๊บ ชวนไปกินไอติมกันทันที ตอนแรกก็งงนะว่า หนาว ๆ เปียก ๆ แบบนี้นะจะไปกินไอติมกัน แต่แล้วก็อ๋อ…  ลองไปหาคำตอบกันดูนะคะ

แล้วก็ได้เวลากินอาหารกลางวันกัน เรามาแวะพักกันที่ร้านอาหารริมทางร้านหนึ่ง มีซุปร้อน ๆ ให้กินคู่กับข้าวกล่องรถไฟซึ่งด้านในเป็นข้าวหน้าพะโล้ ผักดอง และของทอด อิ่มกำลังพอดีเลย พร้อมออกผจญฝนต่อแล้ว

ไกด์บอกกินอิ่ม ๆ จะเที่ยวต่อเลยเดี๋ยวจะง่วง ๆ  เพลีย ๆ เลยปล่อยให้ลงมาเดินเล่นใน ศูนย์นักท่องเที่ยวฝูหลง (Fulong visitor center) ด้านในมีโชว์งานศิลปะแกะสลักจากไม้ที่โดนลมมรสุมพัดมาเกยฝั่งบริเวณนี้ และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ส่วนด้านนอกนั้นไม่ได้เดินออกไปสำรวจเลย เนื่องจากพระพิรุณยังไม่เลิกโกรธพวกเรา

ไปต่อกันที่ ประภาคารแหลมซานเตียว (Sandiao cape lighthouse) ตรงจุดนี้ตอนแรกที่ดูในรูปเราคิดว่าคือ ปี๋โถว มาตลอด แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ พวกเรารีบจ้ำไปยังจุดชมวิว ตรงที่เป็นติ่งในแผนที่เหมือนยกนิ้วหัวแม่มือ รีบกดชัตเตอร์รัว ๆ แล้วก็เดินกลับไปยังประภาคาร

ถ้าวันนี้อากาศดีเดินชมวิวไป ถ่ายรูปไป ตรงนี้คงบรรยากาศดีมากทีเดียว แต่ตอนที่เราไปฝนเริ่มตกหนักมาก ขนาดเพื่อนร่วมทางชาวฟิลิปปินส์ที่ชอบถ่ายรูปกัน ยังต้องหยุดถ่ายเลย หลังจากนั้นเข้าไปฟังไกด์เล่าเรื่องน่าสนใจต่าง ๆ ในประภาคาร แล้วก็ทยอยกันออกไปขึ้นรถ

จุดชมวิวเป่ยกวน (Beiguan tidal park) ดูแล้วก็เริ่มงง ๆ เพราะเป็นผาหินรูปทรงต่าง ๆ คล้ายจุดที่ผ่านมา แต่จุดนี้มีขายของแห้งพวกสาหร่าย ปลาตัวเล็กตัวน้อย ปลาหมึกด้วย

หลังจากนั้นรถก็พาขับขึ้นเขาโค้งไป โค้งมา โค้งไป โค้งมา โค้งไป โค้งมา โค้งไป โค้งมา…แล้วก็มาถึง Mr. Brown Coffee Castel เพื่อมาพักผ่อนดื่มชา กาแฟ ร้อน ๆ พร้อมชมวิวชายฝั่งในมุมสูงกัน เราเป็นคนไม่กินกาแฟ เลยสั่ง Honey citron tea มาลอง ร้อน ๆ เปรี้ยว ๆ ทำให้สดชื่นขึ้นเยอะเลย จิบชาเสร็จก็เดินขึ้นไปชั้นบนสุดของปราสาทเพื่อชมวิวที่ยังพอมองเห็นอยู่บ้างในบรรยากาศมัว ๆ ของวันนี้

ตอนขาลงเขา ไกด์บอกว่ามองจากตรงนี้จะเห็น Lanyang museum ด้วยนะเออ เราเพิ่งไปเที่ยวมาเมื่อวันก่อนเอง เฮ้ย! ขับรถเลาะมาเรื่อย ๆ จากไทเปใกล้แค่นี้เองหรอนี่ ก็วันก่อนเรามาเที่ยว Lanyang museum จากเจียวซีไง หลังจากนั้นรถจะขับผ่าน อุโมงค์สวี่ซาน (Hsuehshan tunnel) อุโมงค์สำหรับรถวิ่งที่เจาะภูเขาเป็นระยะทางเกือบ 13 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในไต้หวันด้วย

ขากลับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ทุกคนจะไปลงที่ตลาดกลางคืนแห่งหนึ่ง มีแต่เราคนเดียวที่จะไปลงไทเป 101 เค้าเลยมาส่งเราที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน Bannan Line แล้วให้นั่ง MRT ต่อไปลงที่สถานี Taipei city hall โบกมืออำลากันด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าลูกทัวร์หรือไกด์ทุกคนยังยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนถ่านยังไม่หมด ทั้ง ๆ ที่ฝ่าฝนด้วยกันมาตลอดทั้งวัน ข้อดีที่สุดของวันนี้คือ พวกเรายังเดินเที่ยวกันได้แม้ว่าฝนจะตกทั้งวัน โดยมีคุณไกด์คอยเชียร์อัพพวกเราให้สนุกสนานตลอดเวลา ถ้ามากันเองคนจะกร่อยน่าดูเลยเนอะ ต้องขอบคุณ วันเดย์ทัวร์แหลมปี๋โถว ลานหินหนานยา และแหลมซานเตียว จริง ๆ