ภูมิภาคคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนและออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมายาวนาน แม้แต่ชาวญี่ปุ่นจากภูมิภาคอื่นๆ ก็นิยมเดินทางมาพักผ่อนและแช่ออนเซ็นที่คิวชูกันเป็นประจำ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบการแช่ออนเซ็นเป็นพิเศษ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนที่แถบคิวชู ก็อย่าลืมไปนอนแช่ออนเซ็นให้สบายตัวสบายใจกันนะคะ แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้ก็มีเมืองออนเซ็นที่น่าสนใจมาแนะนำให้ลองเดินทางไปเที่ยวกัน จะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ

 

ยุฟุอิน ออนเซ็น (Yufuin Onsen Town)

(Source | welcomekyushu)

ยุฟุอินเป็นเมืองตากอากาศเล็กๆ บรรยากาศสงบ น่ารักและอบอุ่นมากแห่งหนึ่งในจังหวัดโออิตะ (Oita) ภูมิภาคคิวชู เหมาะกับการมาท่องเที่ยว พักผ่อนนอนแช่ออนเซ็นในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูหนาว ถ้าได้แช่ออนเซ็นอุ่นๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ เชื่อว่าต้องเป็นที่ถูกใจเพื่อนๆ แน่นอนค่ะ

และนอกจากออนเซ็นตามเรียวกังในยุฟุอินแล้ว ที่เมืองนี้ก็แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจที่สามารถเดินเที่ยวชมหรือถ่ายภาพสวยๆ ได้ด้วยนะคะ เช่น ภูเขายุฟุดาเกะ (Yufudake Mt.) แม่น้ำยุฟุ เป็นต้น ขอแนะนำว่าถ้ามีโอกาสได้มาค้างสักคืนจะดีมากเลยค่ะ

บรรยากาศในเมืองยุฟุอิน ออนเซ็น ที่มา

การเดินทาง : ใครที่มีบัตร JR  All Kyushu Area Pass สำหรับเดินทางในภูมิภาคคิวชู สามารถใช้จองรถไฟขบวนพิเศษที่ชื่อ Yufuin No Mori รถไฟขบวนท่องเที่ยวในการเดินทางได้เลยค่ะ หรือจะเดินทางด้วยรถไฟขบวน Limited Express Yufu จากสถานี Oita sta. ถึงสถานี Yufuin sta. ด้วยรถไฟขบวน Limited Express Yufu ก็ได้เช่นกันค่ะ

 

เบปปุออนเซ็น (Beppu Onsen Town)

เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งในจังหวัดโออิตะใกล้กับภูเขาไฟอาโซะ (Aso san) มีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง  ไฮไลท์ของที่นี่คือ ทัวร์บ่อออนเซ็นเบปปุที่ได้ชื่อว่าเป็นบ่อนรก (Beppu Hell Tour) มีทั้งหมด 8 บ่อ 8 สีสัน เช่น บ่อสีแดงสด หรือบ่อสีฟ้าที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ค่ะ

บ่อออนเซ็นที่ให้บริการอยู่ทั่วเมือง มีทั้งในรูปแบบเรียวกัง กับการแช่ออนเซ็นส่วนตัว หรือออนเซ็นในถังไม้ ที่ลงไปแช่พร้อมกันได้ครั้งละ 3 – 4 คน  รวมทั้งโรงอาบน้ำสาธารณะและบ่อออนเซ็นสาธารณะสำหรับบุคคลทั่วไป ความพิเศษอีกอย่างที่เบปปุก็คือ รูปแบบของบ่อออนเซ็นที่มีหลากหลาย สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองอะไรใหม่ๆ บ้าง ไม่ว่าจะเป็น การอบตัวในบ่อทรายร้อนทั้งแบบในร่วมและกลางแจ้ง เหมาะกับหน้าหนาวไม่น้อยเลยทีเดียว หรือจะเป็นการแช่บ่อออนเซ็นแบบไอน้ำ แช่ออนเซ็นบ่อโคลนจากน้ำแร่ ทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมานี้เรียกว่า ได้รับความนิยมมากเลยค่ะ

การเดินทาง : ถ้ามี บัตร  JR All Kyushu Area Pass ก็สามารถเดินทางได้ง่ายๆ และสะดวกสบาย กับรถไฟ JR สาย Nippo line ไปลงที่สถานี Beppu sta. ใกล้ๆกับสถานี จะได้พบกับออนเซ็นสาธารณะให้เลือกใช้บริการจำนวนมาก รวมถึงจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองเบปปุด้วยนะคะ

 

คุโรคาวะ ออนเซ็น (Kurokawa Onsen Town)

บรรยากาศใน Kurokawa Onsen (Source | wikimedia)

เมืองออนเซ็นเก่าแก่ในจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) ที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นมานานนับร้อยปีแล้ว บรรยากาศของเมืองนี้ต้องบอกว่า เหมาะกับใครที่ชอบสไตล์วินเทจและธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยความที่ยังคงสภาพความเป็นเมืองเก่าไว้ได้อย่างดี แล้วก็ไม่มีสิ่งปลูกสร้างประเภทตึกสมัยใหม่หรือป้ายโฆษณาต่างๆ ด้วย อาคารบ้านเรือนก็อนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบโบราณเอาไว้ แล้วยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์โอบล้อมอยู่รอบเมืองด้วย

ในส่วนของบ่อออนเซ็นในเมืองนี้ แน่นอนว่า เป็นแบบดั้งเดิมในเรียวกัง โรงอาบน้ำออนเซ็นสาธารณะในรูปแบบออนเซ็นส่วนตัว ออนเซ็นรวมในอ่างไม้แบบแยกเพศ ทั้งแบบในร่มและกลางธรรมชาติ เช่น ป่าหรือน้ำตก  ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ มีชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่นให้แขกที่มาใช้บริการได้ลองสวมใส่เพื่อให้เข้าถึงบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ในเมืองนี้ด้วยค่ะ ถ้ามีโอกาสขอแนะนำเลยค่ะว่าให้ค้างคืนเรียวกังที่เมืองนี้ครั้ง จะต้องประทับใจไม่รู้ลืมแน่ๆ ค่ะ

คุโรคาวะ ออนเซ็น (Source | explore-kumamoto)

การเดินทาง : เมืองคุโรคาวะ ไม่มีรถไฟเข้าไปถึงตัวเมือง ที่สะดวกที่สุดคือ ใช้ บัตร JR  All Kyushu Area Pass ไปลงที่ สถานีรถไฟ JR Kumamoto แล้วต่อรถบัสสาย Kyushu-Odan ไปลงที่ Kurokawa Onsen  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หรืออีกวิธีหนึ่ง จากสถานีฟุกุโอกะ สามารถนั่งรถบัสไปยังคุโรคาวะได้โดยตรง โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเช่นกันค่ะ

 

อูเรชิโนะ ออนเซ็น (Ureshino Onsen Town)

อุเรชิโนะ ออนเซ็น (Source | welcomekyushu)

เมืองออนเซ็นในจังหวัดซากะ (Saga) ที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับผิวโดยเฉพาะ (Top 3  Bihada Hot Spring) สาวๆ ไม่ควรพลาดเลยนะคะ ด้วยความที่เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของในคิวชู  อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำแร่มากถึง 17 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างเกลือ และกรดคาร์บอนิกในส่วนผสมที่ลงตัว มีอุณหภูมิสูงประมาณ 100 องศา เหมาะกับการไปพักผ่อนและดูแลสุขภาพผิวในหน้าหนาวอย่างยิ่ง

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกอย่างของชื่อ Ureshino Onsen ชื่อนี้มีที่มาจากคำในภาษาญี่ปุ่นว่า “Ureshii” ที่แปลว่า “ความสุข”  ซึ่งเป็นคำอุทานของราชวงศ์ตั้งแต่สมัยโบราณที่มีได้มาพักผ่อนที่เมืองออนเซ็นแห่งนี้ค่ะ และถ้ามองย้อนกลับไปในสมัยเอโดะ อูเรชิโนะออนเซ็น และย่านถนนนากาซากิ ถือว่าเป็นย่านที่มีความคึกคักอยู่เสมอ ส่งผลให้มีที่พักแบบเรียวกังให้บริการหลายแห่งบนถนนย่านนี้ โดยเฉพาะที่ริมแม่น้ำอูเรชิโนะ นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งผลิตชาเขียวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของญี่ปุ่นด้วยค่ะ

บรรยากาศบ่อออนเซ็นในอุเรชิโนะ ออนเซ็น (Source | tabirai)

การเดินทาง :  สามารถใช้ บัตร JR  All Kyushu Area Pass ไปลงที่สถานี JR Takeo Onsen Sta. แล้วต่อรถบัส JR ไปลงที่ป้าย Ureshino Onsen bus sta. ใช้เวลาเดินทาง 30 นาทีค่ะ

 

ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นและมีโอกาสได้แช่ออนเซ็นบ้างแล้ว เชื่อว่าแทบทุกคนต้องติดใจกับความสบายและผ่อนคลายใช่ไหมคะ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว การได้แช่น้ำพุร้อนอุ่นๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ ในภูมิภาคคิวชูก็คงจะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่มีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว แถมการเดินทางก็สะดวกสบายด้วยตั๋ว JR  All Kyushu Area Pass ถ้าใครมีแผนจะไปเที่ยวคิวชูช่วงหน้าหนาวนี้ อย่าลืมแพลนไปเมืองออนเซ็นไว้ด้วยนะคะ