เคเคเดย์ (KKday) แพลตฟอร์มเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเอเชีย สามารถเรียกเงินระดมทุนได้ถึง 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นอย่าง เอช.ไอ.เอส (H.I.S.) และนักลงทุนรายเก่าอย่างมายด์เวิร์ก เวนเจอร์ (MindWorks Ventures) ซึ่งความร่วมมือและการระดมทุนในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยให้เคเคเดย์สามารถขยายธุรกิจไปในส่วนภูมิภาค และเพิ่มความหลากหลายของกิจกรรมและสินค้าราคาประหยัดมาให้กับนักเดินทางได้

KKday ร่วมมือกับบริษัทแนวหน้ายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น H.I.S. เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและกิจกรรม ในภาพคือ นายหมิง เฉิน CEO ของ KKday

ใช้ Big Data พัฒนาประสบการณ์ท่องเที่ยว

เคเคเดย์เป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยรวบรวมสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวไว้กว่า 10,000 ชนิดจาก 500 เมืองใน 80 ประเทศทั่วโลก ในแต่ละเดือนเคเคเดย์ดึงดูดผู้ใช้งานกว่า 4 ล้านคน และให้บริการนักท่องเที่ยวกว่าแสนคน

จากผลการวิจัยของโฟคัสไรท์ (Phocuswright) แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมทัวร์และกิจกรรมท่องเที่ยวจะสามารถขยายไปได้ถึง 183 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020 จาก 135 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2016 ด้วยตลาดที่มีขนาดใหญ่ เคเคเดย์ได้ดำเนินการตามกลยุทธ์แบบ globalized โดยการจัดหาและมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวราคาประหยัดคุณภาพดีมาให้กับนักเดินทางทั่วโลก ดังนั้นเคเคเดย์จึงเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซ startup เพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถดึงดูดได้ทั้งตลาดภายในภูมิภาคและตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังนำการวิเคราะห์ big data มาใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจและปรับเปลี่ยนสินค้าที่มีในปัจจุบัน เพื่อจัดหาประสบการณ์ลูกค้าที่ดีที่สุด และด้วยการเติบโตทางรายได้ที่มั่นคงและคำวิจารณ์ในเชิงบวก ทำให้ผลงานของเคเคเดย์ในปีที่ผ่านมาสามารถดึงความสนใจของบริษัทเอช.ไอ.เอส. (H.I.S.) ยักษ์ใหญ่ของวงการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นมาได้

เอช.ไอ.เอส. คือผู้นำระดับโลกในธุรกิจอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว และสำนักงานมากมายตั้งอยู่ในกว่า 130 เมืองทั่วโลก เอช.ไอ.เอส.มีเครือข่ายที่กว้างขวางและทรัพยากรข้อมูลจำนวนมหาศาล นายหมิง เฉิน (Ming Chen) CEO ของเคเคเดย์ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า “เอช.ไอ.เอส.ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ลงทุนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ลงทุนในเชิงกลยุทธ์อีกด้วย ด้วยการนำทรัพยากรทั่วโลกของเอช.ไอ.เอส.มาบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์การตลาดอันแข็งแกร่งและโปรแกรม big data ของเคเคเดย์ เราจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการของการท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้”

สร้างความสัมพันธ์ด้วยเทคโนโลยี

นายเฉินกล่าวว่า “เราจะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของสินค้าและความสัมพันธ์อันดีกับผู้ให้บริการของเรา เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น”

การลงทุนร่วมกันในครั้งนี้จะสร้างโอกาสทางความร่วมมือต่างๆ ได้มากมาย ดังที่คุณเฉินกล่าวไว้ว่า “เคเคเดย์จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการ (suppliers) ของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ทั้ง 2 ข้อนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก คุณไม่สามารถพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าได้หากคุณไม่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ให้บริการ เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นนั้นมีส่วนประกอบสำคัญหลายส่วน การจัดการโซ่อุปทาน (supply chain) จึงเป็นความท้าทายที่ใหญ่มาก นี่จึงเป็นเหตุผลให้เคเคเดย์มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบ SCM (Supply Chain Management) ที่จะทำให้ผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายเล็ก สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น และจัดการคำสั่งซื้อได้โดยไม่ต้องมีการลงทุนด้าน IT ซึ่งระบบ SCM ของเคเคเดย์ประกอบไปด้วยการใช้ QR โค้ดในการแลกรับ และการผสานรวมเอา API ของผู้ให้บริการทัวร์รายใหญ่เข้าสู่แพลตฟอร์มของเคเคเดย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานของผู้ใช้ ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือเสร็จสรรพนี้ ทำให้ลูกค้าได้รับเอกสารยืนยันการจองและอัพเดตต่างๆ ตามเวลาจริง ในขณะที่ผู้ให้บริการสามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ”   

โดยธรรมชาติแล้ว ธุรกิจการท่องเที่ยวในท้องถิ่นจะได้รับผลกระทบจากฤดูกาลและเทศกาลเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจัยนี้ทำให้ผู้ให้บริการบริหารความจุการให้บริการได้ยากมาก แต่การทำงานร่วมกับเคเคเดย์ ทำให้ผู้ให้บริการสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จากทั่วทั้งเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความผันผวนในช่วงฤดูกาลและเทศกาลได้ นายหมิง เฉินได้อธิบายไว้ว่า “ยกตัวอย่างเช่น เดือนเมษายน อาทิตย์แรกของเดือนคือช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิของชาวไต้หวัน และช่วงกลางเดือนจะเป็นวันหยุดยาวเทศกาลอีสเตอร์ของชาวฮ่องกง ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ประเทศไทยก็จะมีเทศกาลวันสงกรานต์ และยังมี Golden Week ของชาวญี่ปุ่นที่ตามมาติดๆ อีกด้วย แพลตฟอร์มของเคเคเดย์สามารถจัดหารายได้ที่สม่ำเสมอและมั่นคงให้กับผู้ให้บริการได้ เพราะทุกวันเป็นวันหยุดสำหรับที่ไหนสักแห่ง”

 

แผนการขยายธุรกิจ: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และไกลออกไป

นอกเหนือจากการขยายตลาดไปทั่วเอเชียแล้ว เคเคเดย์จะพัฒนาและขยายตลาดเข้าสู่ประเทศจีน รวมไปถึงตลาดการท่องเที่ยวเอเชียในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และเคเคเดย์จะพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เสนอแผนการเดินทางที่ปรับเปลี่ยนเองได้ และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าแบบ end-to-end ด้วยเงินทุนใหม่และการสนับสนุนจากเอช.ไอ.เอส. และมายด์เวิร์ค เวนเจอร์ เคเคเดย์จะสามารถครองตำแหน่งการเป็นแพลตฟอร์มการจองประสบการณ์ท่องเที่ยวชั้นนำสำหรับนักเดินทางทั่วโลกได้ต่อไป

 

 

 


เกี่ยวกับเคเคเดย์

เคเคเดย์ (KKday) คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์และไกด์ท้องถิ่นในสถานที่ท่องเที่ยว เคเคเดย์จัดหาและรวบรวมประสบการณ์คุณภาพดีไว้มากมายเพื่อให้นักเดินทางสามารถค้นหากิจกรรมแปลกใหม่ที่น่าสนใจ และจองได้อย่างง่ายๆ ผ่านแพลตฟอร์มของเคเคเดย์ ภายใต้การนำของ CEO หมิง หมิง เฉิน (Ming Ming Chen) บริษัทได้เติบโตขึ้นมากจากการมีพนักงานเพียง 20 คนในปี 2015 จนในปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 250 คน พร้อมกับสำนักงานในประเทศไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน ทำให้เคเคเดย์เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ในขณะนี้เคเคเดย์ได้รวบรวมประสบการณ์ท่องเที่ยวไว้มากกว่า 10,000 กิจกรรม ในกว่า 80 ประเทศและ 500 เมือง แพลตฟอร์มของเคเคเดย์มีหลากหลายภาษา รองรับทั้งภาษาจีนตัวเต็มและตัวย่อ ภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย และภาษาอื่นๆ เป้าหมายของเคเคเดย์คือสามารถเข้าถึงและเป็นผู้ช่วยให้กับนักเดินทางทุกประเภทในการออกไปค้นหาและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปที่ KKday.com เพื่อศึกษาเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเอช.ไอ.เอส.

เอช.ไอ.เอส. (H.I.S.) ในปัจจุบันมีร้านค้าขายปลีกทั้งหมด 271 ร้าน ตั้งอยู่ใน 156 เมืองใน 70 ประเทศทั่วโลก เจ้าหน้าที่มากประสบการณ์และความสามารถของเราจะคอยให้บริการคุณอย่างดีที่สุด เพื่อที่คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวของคุณได้ เครือข่ายระหว่างประเทศของเราช่วยให้ได้รับข้อมูลการท่องเที่ยวใหม่ล่าสุด ทำให้เราสามารถจัดเตรียมตั๋วและการจองโรงแรมที่ดีที่สุดได้ ในสถานที่แต่ละแห่งจะมีทัวร์พิเศษที่เราจัดการดำเนินการเอง เราหวังที่จะมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดให้กับคุณไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็ตาม

เกี่ยวกับมายด์เวิร์ค เวนเจอร์

มายด์เวิร์ค เวนเจอร์ (MindWorks Ventures) คือบริษัทร่วมลงทุนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศฮ่องกง โดยจะลงทุนกับบริษัท startup เทคโนโลยีการเจริญเติบโตสูง โดยมุ่งเน้นไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งกองทุน multi-stage venture ของมายด์เวิร์ค เวนเจอร์จะลงทุนในบริษัทต่างๆ และช่วยผู้ก่อตั้งบริษัทนั้นๆ ในการสร้างเทคโนโลยีเพื่อการนำไปใช้ ความยืดหยุ่น และการกระจายอย่างรวดเร็ว บริษัทใน Portfolio ของมายด์เวิร์ค เวนเจอร์ได้แก่ บริษัท Lalamove บริษัท Wonder Workshop และบริษัท KKday  http://www.mindworks.vc