เขาว่ากันว่า “ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ”

หน้าฝนนี้เลิกนอนเหงา ๆ อยู่บ้านแล้วเปลี่ยนบรรยากาศออกไปสัมผัสธรรมชาติ ฝ่าดงพงไพร ฟังเสียงสายน้ำไหล หรือดูทะเลหมอกยามเช้าที่ 5 ที่เที่ยวหน้าฝนที่ KKday รวบรวมมาฝากกันดีกว่า ยิ่งช่วงฤดูฝนแบบนี้ ต้นไม้ใบหญ้า พืชพรรณนานาชนิดจะยิ่งอุดมสมบูรณ์เขียวขจีเป็นพิเศษ แถมบรรยากาศยังชุ่มฉ่ำเย็นสบาย หลีกหนีเมืองกรุงที่แสนวุ่นวายไปฮีลร่างกายท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ที่ดีต่อทั้งใจและปอดแทนดีกว่า

 

การเตรียมตัวและข้อควรระวังในการเที่ยวป่าและขึ้นเขาช่วงหน้าฝน

ที่เที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าฝนส่วนใหญ่น่าจะเป็นแนวธรรมชาติ อย่างการเดินป่าขึ้นเขา ชมธรรมชาติ หรือการชมทะเลหมอก เพื่อให้ทริปของทุกคนมีความปลอดภัยและสนุกได้แบบไม่ขาดตอนในช่วงหน้าฝน เราได้รวบรวมข้อแนะนำวิธีการเตรียมตัว ของที่ควรพกติดตัวเอาไว้ และข้อควรระวังมาฝากทุกคนค่ะ

  1. ตรวจสอบสภาพอากาศ

ควรวางแผนการเดินทางให้พร้อมก่อนออกเดินทาง หมั่นตรวจสอบสภาพอากาศอยู่เสมอและคอยติดต่อประสานงานกับทางที่พักหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออัปเดตสถานการณ์ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยจริง ๆ  ก็ไม่ควรฝืน เช่น เกิดพายุฝนกระหน่ำ หรือ น้ำป่าไหลหลาก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

  1. ทำเลที่พัก

ควรเลือกจองที่พักในที่ที่เดินทางสะดวก หรือมีเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาในกรณีฉุกเฉิน หรือหากกางเต็นท์ก็ควรเลือกทำเลที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงบริเวณที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

  1. เลือกรองเท้าที่เหมาะสม

ควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบาย ซัพพอร์ตดี พื้นแข็งแรงยึดเกาะพื้นผิวได้ดี กันน้ำและเป็นแบบหุ้มข้อมิดชิดเพื่อป้องกันน้ำและแมลงเข้า

  1. เลือกเสื้อผ้าที่แห้งง่าย

ควรสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดแต่สบาย เนื้อผ้าแห้งง่าย ไม่อุ้มน้ำ

  1. สิ่งของที่ควรพกไปด้วย

เช่น เข็มทิศ ไฟฉาย แผนที่ น้ำดื่ม ถ่านและแบตสำรอง เสื้อกันฝน ยารักษาโรคประจำตัว ยาสามัญและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล เสบียงอาหาร (หากต้องเดินทางไกลหรือค้างคืน) ฯลฯ

  1. กระเป๋ากันน้ำ

ควรเลือกใช้กระเป๋าแบบกันน้ำ และอาจห่อของใช้จำเป็นที่ห้ามเปียกไว้ในถุงกันน้ำก่อนหนึ่งชั้นแล้วค่อยใส่ในกระเป๋า

  1. ระวังแมลงและสัตว์มีพิษ!

คอยตรวจตราตัวเองและสัมภาระไม่ให้มีแมลงและสัตว์มีพิษ เช่น ยุง ตะขาบ แมงป่อง หรืองู ย่างกรายเข้าใกล้ ควรเตรียมยากันแมลง ยาแก้แพ้แก้คันติดไปด้วย

  1. ระวังทาก!

ศัตรูตัวฉกาจของนักเดินป่าที่ต้องระวังคือทากจอมดูดเลือด สามารถป้องกันได้โดยใช้ถุงกันทาก สเปรย์ยากันทาก หรือใช้ยาฉุน/ยาเส้นป้องกันไว้ก่อน

 

5 ที่เที่ยวหน้าฝนที่ไม่ควรพลาด

อุทยานแห่งชาติเขาสก และ เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เที่ยวสุด Unseen ใน จ.สุราษฎร์ธานีที่สวยงามจนได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” อย่างเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลานนั้นตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสก ผืนป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ และด้วยทัศนียภาพที่งดงามและหลากหลายของธรรมชาติ ทำให้นิตยสาร Vogue ยกให้ที่นี่เป็น 1 ใน 8 อุทยานที่สวยที่สุดในโลก

ข้อดีของการไปเที่ยวในช่วงหน้าฝนคือทุกคนจะสามารถชมวิวหลักล้านของทะเลหมอกที่ลอยละล่องคลอเคลียกับหน้าผาหินปูนในทะเลสาบเชี่ยวหลานได้เกือบตลอดทั้งวันหรือหลังฝนตก และอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมในช่วงนี้ก็คือการเดินป่า สำรวจความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาตินั่นเอง

 

วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

ไปต่อกันที่ “สวิตเซอร์แลนด์แดนอิสาน” หรือ วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงฤดูฝนที่มีแลนด์มาร์คเด่น ๆ หลายที่ทั้งภูเขา ป่าไม้เขียวชอุ่ม สวนดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่ง และจุดชมวิวทะเลหมอกสวย ๆ ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ อย่างที่ผาเก็บตะวัน, อ่างเก็บน้ำลำพระเพิง, น้ำตกม่านฟ้า และที่เที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ เช่น ไร่องุ่น Village Farm & Winery, สวนดอกไม้ฟ้าประทาน ฟลอร่าพาร์ค เป็นต้น

 

ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ภูทับเบิกเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ด้วยความงดงามอลังการของวิวทิวทัศน์ทำให้ภูทับเบิกเป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่หลาย ๆ คนมักจะกลับไปเยือนเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว

แต่รู้หรือไม่ว่าภูทับเบิกก็สวยงามน่าเที่ยวไม่แพ้กันในช่วงฤดูฝนและปลายฝนต้นหนาว โดยเฉพาะทัศนียภาพที่สวยงามของฟ้าหลังฝนอย่างทะเลหมอกที่ลอยอยู่ใกล้เราแค่เอื้อมเกือบตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ทุกคนจะได้พบกับไร่กะหล่ำปลีที่ผุดขึ้นเต็มภูเขา บานละลานตาอวดโฉมนักท่องเที่ยวบนพื้นที่นับพันไร่ในช่วงฤดูฝน

 

บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่

บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในพื้นที่นาขั้นบันไดที่สวยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ผืนนาขั้นบันไดเปลี่ยนเป็นสีเขียวขจีเต็มพื้นที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และถูกโอบล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามราวภาพวาดของภูเขาและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ เคล้าเคลียไปด้วยไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือท้องทุ่ง โดยเฉพาะในตอนเช้าและหลังฝนตก

 

ภูสอยดาว ครอบคลุมพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.พิษณุโลก

ภูสอยดาว เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ท้าทายนักเดินป่าในหน้าฝน นักเดินทางหลายคนถูกวัดใจด้วยเส้นทางภูเขาลาดชันที่ต้องฝ่าขึ้นไปจนถึงระดับความสูงกว่า 1,600 เมตร มีระยะทางเดินเท้ากว่า 6.5 กิโลเมตร แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หลาย ๆ คนถอดใจ แต่ยังดั้นด้นฝ่าสายฝนขึ้นไปโดยมีปลายทางคือทุ่งดอกหงอนนาค ดอกไม้ป่าสีม่วงอ่อนที่ออกดอกชูช่อท้าทายสายหมอกเต็มลานสนในช่วงฤดูฝน ราว ๆ เดือนสิงหาคม – กันยายนของทุกปี

นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงลานสนภูสอยดาวยังมีลำธารเล็ก ๆ น้ำตก และเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ผู้มาเยือนได้ออกสำรวจแมกไม้นานาพันธุ์และดอกไม้ป่าแปลกตาหลากหลายชนิด