กรุงเทพมหานครเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ใช่แค่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น แต่คนไทยเองก็เที่ยวได้ไม่มีเบื่อเหมือนกัน คอนเทนต์นี้ KKday จะพาทุกคนไปเช็คอินที่เที่ยวรอบกรุงเทพฯ แบบไทย ๆ ทั้งไทยสมัยโบราณและสมัยใหม่ วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีแพลนจะไปไหน ปักหมุดแล้วมาออกตามหาเสน่ห์แห่งเมืองบางกอกไปพร้อม ๆ กับเราดีกว่า!

สำหรับใครที่อยากได้รูปสวย ๆ เข้ากับบรรยากาศไทย ๆ สามารถเช่าชุดไทยหลากหลายสไตล์จากร้าน Sense Of Thai ท่ามหาราช เอาไว้ถ่ายรูปคุมโทนได้ ที่นี่ เลยค่ะ

วัดพระแก้ว

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว คือหนึ่งในสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงเทพฯ และประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) เป็นวัดในพระบรมมหาราชวังและเป็นที่ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต รวมถึงใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญ

วัดพระแก้วถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญในกรุงเทพฯ ที่ควรค่าแก่การไปเยือนอย่างยิ่ง ทั้งเพื่อเคารพสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อยลศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ผ่านสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมอันวิจิตรงดงามข้ามกาลสมัย ที่ไม่ว่าจะไปเยือนสักกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ

 

ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา

เปลี่ยนมื้อธรรมดาในวันเกิด วันครบรอบ วันพิเศษหรือวันไหน ๆ ให้เป็นมื้อพิเศษด้วยการทานมื้อค่ำพร้อมล่องเรือรับลมเย็น ๆ ชมบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายสำคัญที่เปรียบเสมือนสายเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตผู้คนในทุกยุคสมัย ล่องผ่านวัดวาอารามโบราณ สู่แลนด์มาร์คทางธุรกิจสมัยใหม่ที่ประดับประดาไปด้วยแสงสี นี่น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

เสาชิงช้า

เสาชิงช้า เสาไม้สีแดงคู่ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม บริเวณลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หรือ ลานคนเมือง เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพฯ ที่มีมาตั้งแต่ช่วงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ในอดีตถูกใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมปวายของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู แม้ในปัจจุบันพิธีจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่เสาชิงช้าที่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้งคู่นี้ยังคงตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์คสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเก็บภาพที่ระลึกท่ามกลางอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่รายล้อมอยู่โดยรอบ

 

สวนรถไฟ จตุจักร

กรุงเทพฯ ไม่ได้มีแค่ป่าคอนกรีตเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่รอบเมือง อย่างที่สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ สวนสาธารณะใจกลางกรุงเนื้อที่กว่า 375 ไร่ ส่วนหนึ่งของอุทยานสวนจตุจักร สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “สวนครอบครัว” ที่มีกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายเหมาะกับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับปั่นจักรยาน วิ่ง ออกกำลังกาย เล่นกีฬา ปิกนิก หรือจะเดินชมธรรมชาติเพลิน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ได้ดีเหมือนกัน

 

ภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

ภูเขาทอง หรือ บรมบรรพต ภูเขาจำลองสีทองแวววาว ตั้งอยู่ในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร บนยอดพระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5

ในปัจจุบัน นอกจากเจดีย์ภูเขาทองจะเป็นพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนมักมาสักการะบูชาแล้ว ความสูงกว่า 59 เมตรของสิ่งก่อสร้างยังทำให้บริเวณด้านบนของภูเขาทองเป็นจุดชมวิวอีกด้านหนึ่งของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาที่สวยงามไม่แพ้จุดชมวิวอื่น ๆ ในเมืองเลยล่ะค่ะ

 

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Center: BACC)

ว่ากันว่าศิลปะคือชีวิต เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากชีวิตมนุษย์ได้ และตราบใดที่มนุษย์ไม่หยุดเรียนรู้ ศิลปะก็จะไม่หยุดพัฒนา

สุดสัปดาห์นี้ ลองเปลี่ยนจากการอยู่บ้านหรือเดินชอปปิ้งแล้วไปเสพงานศิลป์ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือที่เรียกกันว่า “หอศิลป์” พื้นที่และเวทีสำหรับศิลปะร่วมสมัย ที่จัดแสดงนิทรรศการ ผลงานศิลปะ และกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมมากมาย ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยในการผ่อนคลายและหาแรงบันดาลใจ พร้อมกับเรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ ที่บรรดาศิลปินบรรจงเรียงร้อยเอาไว้ในงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ

 

4 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

ปิดท้ายกันที่จุดถ่ายรูปสวย ๆ สุดคลาสสิกในกรุงเทพฯ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตและประวัติความเป็นมาของบริเวณพื้นที่โดยรอบ ได้แก่ 4 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย!

(1) สถานีวัดมังกร เป็นสถานีที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านการค้าของชาวไทยเชื้อสายจีน บริเวณถนนเยาวราช วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) และย่านไชน่าทาวน์ จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบโดยใช้สีมงคลของชาวจีนอย่างสีแดงและสีทองตกแต่งภายใน และประดับประดาด้วยลวดลายแบบจีน และใช้มังกรเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตและเอกลักษณ์แบบจีน

(2) สถานีสามยอด มีเขตที่ตั้งอยู่ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ มีกลิ่นอายของอาคารบ้านเรือนโบราณด้วยสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 และสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีส และมีการใช้ลักษณะของประตูสามยอดเป็นสัญลักษณ์ของสถานีแห่งนี้

(3) สถานีสนามไชย ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางพื้นที่ชั้นในของเกาะรัตนโกสินทร์ ใกล้พระบรมมหาราชวัง การออกแบบภายในประยุกต์มาจากรูปแบบสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ตอนต้น ให้ความรู้สึกโอ่อ่าเหมือนเดินเข้าไปในท้องพระโรงของพระราชวังเลยก็ว่าได้

(4) สถานีอิสรภาพ มีเขตตั้งอยู่ในฝั่งธนบุรี การตกแต่งภายในมีการใช้หงส์เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัตว์สิริมงคลของไทย และสื่อถึงวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานี