เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะมีที่เที่ยวในฝันอยู่ใน Bucket list ที่ต้องได้ไปเห็นกับตา สัมผัสด้วยตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต สำหรับเราการออกตามล่าหาแสงเหนือคือหนึ่งในภารกิจที่เราอยากทำสักครั้ง (หรือหลาย ๆ ครั้งหากมีโอกาส) ก่อนตาย แล้ววันนี้เราก็มีโอกาสได้ไปสัมผัสความน่าอัศจรรย์นี้ที่เมืองไวต์ฮอร์ส (Whitehorse) ประเทศแคนาดาในที่สุด

ดูแสงสีที่ราวกับพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นโลกแล้วเริงระบำอยู่บนท้องฟ้าพวกนี้สิ มันคือความมหัศจรรย์ที่ช่วยเติมสีสันและความมีชีวิตชีวาให้กับท้องฟ้ามืดมิดในค่ำคืนเงียบสงัดได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ เรามองว่านอกจากความงดงามทางสายตาที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ทำให้แสงเหนือมีความพิเศษจนต้องใช้คำว่า “ออกตามล่า” ก็เพราะไม่ใช่ว่าเราจะพบเจอได้ง่าย ๆ โดยปกติแสงเหนือจะปรากฏให้เห็นในบริเวณแถบขั้วโลก ช่วงฤดูหนาวในคืนที่มืดมิดท้องฟ้าปลอดโปร่งเท่านั้น แต่สิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่าก็คือความไม่แน่นอนของธรรมชาตินี่ล่ะ

เราเคยได้ยินมาว่าบางคนดั้นด้นไปจนถึงหนึ่งในดินแดนที่เขาว่ากันว่าเห็นแสงเหนือได้ชัดเจนและบ่อยครั้งที่สุด ปักหลักอยู่ในตำแหน่งและช่วงเวลาที่เหมาะสมอยู่เป็นอาทิตย์ บางคนกลับได้เห็นลำแสงเต้นระบำอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าอย่างชัดเจนอยู่แค่วันหรือสองวันเท่านั้น บางครั้งปรากฏให้เห็นเพียงเลือนราง หรือบางคนโชคร้ายไม่เห็นเลยก็มีเพราะสภาพอากาศไม่เป็นใจ ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนผู้โชคดีที่ได้เห็นความมหัศจรรย์นี้อย่างชัดเจนช่วงนอกฤดูกาลล่าแสงเหนืออยู่ประปราย

เราเองเคยวางแผนไปเที่ยวไอซ์แลนด์ หนึ่งในจุดชมแสงเหนือที่เขาว่ากันว่าดีที่สุดในโลก แต่สุดท้ายแผนก็ล่มไปก่อน ทริปนี้เราเลยตั้งใจมากว่าไม่ว่ายังไงเราก็ต้องได้เก็บภาพแสงออโรร่าในฝันของเรา โดยทริปนี้เราตั้งใจออกตามล่าหาแสงเหนือกันที่เมืองไวต์ฮอร์ส เมืองหลวงของดินแดนยูคอน (Yukon) ในภาคเหนือของประเทศแคนาดา ซึ่งถือเป็นจุดชมแสงเหนือยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง สำหรับทริปนี้ เราได้จองแพ็กเกจทัวร์ 3 วันจากแวนคูเวอร์ ชมแสงเหนือฤดูหนาวเมืองไวต์ฮอร์ส (รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับแวนคูเวอร์ – ไวต์ฮอร์ส) กับ KKday ซึ่งจะมีคนมารับเราจากสนามบิน Erik Nielsen Whitehorse International Airport แล้วพาเราเที่ยว city tour เมืองไวต์ฮอร์สในตอนกลางวัน และพาเราออกล่าหาแสงเหนือในยามค่ำคืนกัน 2 คืนเต็ม ๆ พร้อมคำแนะนำจากไกด์มืออาชีพในการถ่ายภาพแสงเหนือให้ออกมาสวยสมจริงที่สุด

ตอนแรกเราก็แอบกังวลอยู่ว่าอาจจะไม่ได้เห็นแสงเหนือที่รอคอย แต่สุดท้ายวันนั้นท้องฟ้าก็เป็นใจให้เราได้เห็นลำแสงสีเขียวเหลืองสลับม่วงพาดผ่านผืนฟ้ามืดสนิ โดยมีฉากหลังเป็นแนวทิวสนตัดกับเนินหิมะขาวโพลน โอบล้อมกระท่อมไม้ที่เราใช้เป็นฐานที่มั่น ความรู้สึกในวันนั้นคือเรากลับโรงแรมมานอนร้องไห้เลย ภาพที่เห็น เสียงธรรมชาติที่ได้ยิน บวกกับลมหนาวที่สัมผัสลงบนผิวเราคือมันฟินมาก ทุกอย่างสวยงามลงตัวไปหมด การที่ได้มาเห็นของจริงกับตาตัวเองมันสวยงามยิ่งกว่าการดูจากภาพถ่ายเป็นไหน ๆ วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์อันล้ำค่า (ของเราเอง) เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักเมืองไวต์ฮอร์สมากขึ้น และเผื่อมีโอกาสเราอาจจะได้เป็นเพื่อนร่วมทางกันออกตามล่าแสงเหนือด้วยกันในทริปต่อ ๆ ไปในอนาคตก็ได้

ทำไมถึงควรมาดูแสงเหนือออโรร่าที่เมืองไวต์ฮอร์ส?

เมืองไวต์ฮอร์สอยู่ในเขตยูคอน ดินแดนทางตะวันตกสุดของแคนาดา ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทำให้เมืองไวต์ฮอร์สและเขตยูคอนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในโลก ไม่แพ้ประเทศทางทวีปยุโรปหรือรัสเซียเลยล่ะ นอกจากนี้ นักล่าแสงเหนือยังสามารถสัมผัสประสบการณ์สุดตื่นเต้นไปกับกิจกรรมท้าลมหนาวที่เมืองร้อนอย่างบ้านเราไม่ มีแน่นอน อาทิ นั่งรถสุนัขลากเลื่อน, ส่องสัตว์และธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายูคอน (Yukon Wildlife Preserve), ขี่สโนว์โมบิลที่ Lake Laberge หรือแช่บ่อน้ำพุร้อนทาคินี (Takhini Hot Springs) ก็ฟินดีไม่น้อยเลย

นอกจากดูแสงเหนือ ที่เมืองไวต์ฮอร์สมีอะไรน่าสนใจบ้าง?

อย่างที่เราได้เกริ่นไปข้างต้น นอกจากโปรแกรมยามดึก ตอนกลางวันเรามีโอกาสได้เที่ยวในเมืองหลายที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการชมแม่น้ำยูคอน (Yukon River), แหล่งประวัติศาสตร์แห่งชาติ S.S. Klondike (S.S. Klondike National Historic Site) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายูคอน (Yukon Wildlife Preserve) แม่น้ำยูคอน แหล่งคมนาคมสำคัญในอเมริกาเหนือ ความยาวกว่า 3,000 กม. ไหลผ่านดินแดนยูคอน และส่วนปลายแม่น้ำไหลผ่านรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา แหล่งประวัติศาสตร์แห่งชาติ S.S. Klondike ชมพิพิธภัณฑ์เรือ Klondike เรือลำประวัติศาสตร์ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไวต์ฮอร์ส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยูคอน

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายูคอน

ทำความรู้จักกับสัตว์ท้องถิ่นของยูคอนกว่า 12 สายพันธุ์แบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นกวางเอลก์, วัวกระทิง, กวางมูส, แกะ, แพะภูเขา, กวางเรนเดียร์, ลิงซ์ (lynx) และวัวมัสค์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ระหว่างทางเรายังมีโอกาสได้แวะชมแลนด์มาร์คสำคัญอื่น ๆ ของเมืองอีกนิดหน่อย เนื่องจากยังพอมีเวลาเหลือ เช่น รูปปั้นม้าเหล็ก, พิพิธภัณฑ์โอลด์ล็อกเชิร์ช (Old Log Church Museum), บันไดปลา, ไมล์แคนยอน (Miles Canyon), สถานีรถไฟเก่า, จัตุรัสริมแม่น้ำ และเสาโทเทม