อยากไปไต้หวันใจจะขาด แต่ไม่อยากพลาดแลนด์มาร์กสำคัญต้องทำยังไงดี?

แนะนำว่าวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดคือใช้แพลนเที่ยวจาก KKday ไปเลย! เพราะเรารวบรวมเอาสถานที่ดี ๆ แลนด์มาร์กเด็ด ๆ ไว้ให้คุณหมดแล้ว ไปดูกันเลย

วันที่ 1 เที่ยวชิล ๆ ชมเมืองไทเป

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Veen Muse (@veenmuse)

 

วัดหลงซาน (Lungshan Temple)

เริ่มประเดิมทริปด้วยการไหว้ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อย เพราะชื่อเสียงอันโด่งดังเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงชาวไต้หวันเองเดินทางมาสักการะบูชากันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเรื่องการขอพรเรื่องความสำเร็จในด้านการเรียน การงาน และที่คนนิยมมาขอกันมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความรัก โดยที่นี่มีเครื่องรางให้บูชาด้วย สายมูห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด!

 

อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)

อนุสรณ์สถานเจียงไคเชกแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทเป สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชกที่ชาวไต้หวันให้ความเคารพรักและศรัทธา โดยนอกจากการชมสถาปัตยกรรมสุดอลังการแล้ว ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหาร และแสดงความเคารพต่อรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชกนั่นเอง

 

ตึกไทเป 101 (Taipei101)

สำหรับตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน และสูงเป็นอันดับที่สองของโลกในขณะนี้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ และมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย แน่นอนว่าไฮไลต์ของกิจกรรมของที่นี่ก็คือการชมวิวที่จุดชมวิวที่มีอยู่ 2 จุด คือ จุดชมวิวในร่มชั้น 89 และลานชมวิวกลางแจ้งชั้น 91 ที่จะทำให้เรามองเห็นวิวทิวทัศน์ของไทเปจากมุมสูงได้แบบ 360 องศา ใครที่อยากชมไทเปจากมุมสูง หรืออยากได้บรรยากาศสุดโรแมนติก ต้องมาให้ได้!

 

ตลาดกลางคืนเหราเหอ (Raohe Night Market) 

ปิดท้ายวันด้วยการเติมพลังมื้อเย็นหรือมื้อดึกที่ตลาดกลางคืนเหราเหอ หลังจากที่เที่ยวมาทั้งวันแล้ว นี่ก็เป็นเวลาดีที่เราจะได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแบบชาวไต้หวันแท้ ๆ โดยตลาดแห่งนี้มีของกินทั้งคาวหวานให้เลือกมากมาย และเป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนที่เก่าแก่ของไทเปด้วย เพราะฉะนั้นหลายร้านการันตีความอร่อยแบบดั้งเดิมได้เลย อย่างเมนูที่เราอยากแนะนำให้ไปลอง ก็มีทั้ง ซาลาเปาอบโอ่ง กระดูกหมูตุ๋นยาจีน หมูหมักซอสอบเตาถ่าน น้ำแข็งไส และบัวลอยในน้ำเชื่อมเกสรดอกลำใย นั่นเอง หรือใครจะเลือกซื้อของฝากกลับไปก็มีให้ได้เลือกซื้อเช่นกัน

 

วันที่ 2 เที่ยวชมธรรมชาติในนิวไทเป

หินหนานยา (Nanya Rock Formations)

ขอเริ่มต้นวันที่ 2 ด้วยการพาไปชมธรรมชาติของแลนด์มาร์กที่อยู่ไกลออกไปสักหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการเดินทางไปชมแน่นอน โดยที่หินหนานยาแห่งนี้ มีชื่อเสียงเรื่องรูปทรงในการก่อตัวของหิน จนกลายเป็นรูปทรงแปลกตา ซึ่งสิ่งที่ทำให้หินกลายเป็นรูปทรงในลักษณะนี้ได้ก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากการผุกร่อนของหิน ที่เกิดจากลมและน้ำนั่นเอง ที่นี่จึงกลายเป็นแกลอรีสวนหินขนาดมหึมา ที่มีหินรูปทรงสวยงามเป็นเอกลักษณ์วางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ใครที่ชอบชมวิวธรรมชาติ และชอบถ่ายรูปสวย ๆ โลเคชันนี้เหมาะมาก

 

หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen)

สำหรับใครที่เคยดูอนิเมชัน Spirited Away จะต้องรู้สึกคุ้น ๆ กับหมู่บ้านโบราณแห่งนี้แน่นอน เพราะที่นี่เป็นฉากของเมืองในเรื่องนั่นเอง โดยเสน่ห์ของหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น คือสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทางเดินเป็นบันไดแคบ และโคมไฟสีแดงที่เปิดยามค่ำคืน นั่นเอง โดยที่นี่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันด้วย และสำหรับใครที่อยากมาชมสถาปัตยกรรมโบราณสวย ๆ หรืออยากตามรอย อนิเมชัน Spirited Away แล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่เสียเที่ยวที่มาเลยจริง ๆ 

 

หมู่บ้านแมวหูต่ง (Houtong Cat Village) 

ไม่ว่าคุณจะเป็นทาสเจ้าเหมียวหรือไม่ เราอยากแนะนำให้คุณมาที่นี่ เพราะบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามนั่นเอง และที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำจี้หลงสายน้ำสีเขียวใสบริสุทธิ์อีกด้วย และยิ่งถ้าคุณเป็นคนรักแมวด้วยแล้วล่ะก็ ที่นี่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับแมวกว่าร้อยชีวิตที่เป็นมิตรกับผู้คน โดยความน่ารักที่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของหมู่บ้านแห่งนี้คือในบริเวณหมู่บ้านจะมีการตกแต่งด้วยภาพน่ารัก ๆ ของน้องแมว และร้านค้าที่ขายของที่ระลึกเกี่ยวกับแมวอยู่ทั่วบริเวณ แต่การเยี่ยมชมหมู่บ้านแมวหูต่ง ก็มีข้อควรระวังในการจับและการให้อาหารน้องแมวด้วยนะ อย่าลืมปฏิบัติตามกฎด้วยล่ะ เพื่อความปลอดภัยของทั้งเราและน้องแมว

 

น้ำตกซือเฟิ่น (Shifen Waterfall) 

สำหรับสถานที่ต่อไป ที่เราอยากแนะนำก็คือน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากมาเยือนให้ได้ เพราะด้วยความสวยงามของน้ำตกรูปโค้งเกือกม้า ที่มีน้ำสีฟ้าสวยงาม คล้ายกับน้ำตกไนแองการ่านั่นเอง แถมธรรมชาติโดยรอบของน้ำตกแห่งนี้ก็สวยไม่แพ้กัน แนะนำให้ปั่นจักรยานหรือเดินเล่น เพื่อสำรวจเส้นทางธรรมชาติด้วยนะ บรรยากาศและอากาศดีสุด ๆ 

 

ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)

และแล้วสถานที่สุดท้ายของวันก็มาถึง และคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการแวะปิดท้ายมื้อเย็นที่ตลาดปลาด้วยอาหารทะเลสด ๆ อย่าง ปลา ปูยักษ์ ล็อบสเตอร์ กุ้ง หอยเป๋าฮื้อ โดยคุณสามารถเลือกอาหารทะเลชนิดต่าง ๆ ไปให้เชฟปรุงอาหารให้ได้ด้วย หรือจะเลือกทานในโซน บาร์อาหารทะเล หรืออาหารกล่อง ก็สะดวกและวัตถุดิบสดใหม่ไม่ต่างกัน

 

วันที่ 3 ชอปปิงของฝากส่งท้ายก่อนกลับ

ย่านซีเหมินติง (Ximending)

เอาใจสายชอปกันก่อนกลับ! เพราะในวันสุดท้ายนี้เราขอพาคุณไปละลายทรัพย์กันที่ย่านซีเหมินติง โดยที่นี่เป็นแหล่งชม ชิม และชอปปิงยอดนิยมของไทเป ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับแฟชัน ของฝาก ร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดัง ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นพื้นที่สาธารณะให้เหล่าศิลปินมาโชว์ความสามารถกันข้างถนนอีกด้วย เรียกว่ามาที่นี่ได้ครบทุกอย่างแน่นอน

 

ตลาดกลางคืนซื่อหลิน (Shilin Night Market)

สำหรับที่สุดท้ายก่อนกลับ ก็ต้องเดินตลาดกลางคืนทิ้งท้ายให้หนำใจกันสักหน่อย โดยที่นี่เป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนที่โด่งดังมากที่สุดของไทเปที่พลาดไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะมีทั้งร้านอาหารท้องถิ่น ร้านขนม ที่เน้นไปทางสตรีทฟู้ดขึ้นชื่อ อย่างปลาหมึกย่าง ไก่ทอด ชานมไต้หวัน และถ้าใครยังไม่ได้ซื้อของฝากหรือยังไม่รู้จะซื้ออะไรกลับไปเป็นของฝาก แนะนำว่าให้มาหาที่ตลาดกลางคืนซื่อหลินได้เลย เดินสนุกและมีให้เลือกเยอะแบบจุใจ ที่สำคัญเลยคือที่ตลาดแห่งนี้เดินทางไปได้สะดวกมาก ๆ เพราะเดินทางด้วย MRT ก็ถึงตลาดได้เลย เรียกว่าที่นี่เป็นที่ที่เหมาะกับการหาของอร่อยปิดท้ายทริป และชอปปิงของฝากติดไม้ติดมือกลับไปจริง ๆ