เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จัก คิง เพาเวอร์ มหานคร (King Power Mahanakhon) กันอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ KKday จะพามาอัปเดตว่ามีอะไรใหม่บ้างสำหรับปี 2022 นี้ ไปดูกันเลย!

เมื่อเดินผ่านจุดตรวจกระเป๋าและจุดตรวจบัตร อย่างแรกที่จะเจอก็คือมุมถ่ายรูปที่ระลึกโดยช่างภาพมืออาชีพซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดถ่ายรูปสำหรับผู้ที่ซื้อเพกเกจ Mahanakhon Memory Package เท่านั้น ซึ่งรูปภาพและอัลบัมนั้นสามารถรับได้ ณ ทางออกเมื่อเข้าชม skywalk เสร็จแล้วลงลิฟต์มาจะมีบูธรับอัลบัมภาพถ่ายที่ระลึก

 

เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆในชั้นที่ 1 ที่เป็น ล็อบบี้ ทางเข้าหลัก และจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ตกแต่งด้วยเรื่องราวของกรุงเทพมหานคร อาทิ มวยไทย อาหารไทย วัฒนธรรมไทยต่างๆ และอีกมากมาย 

เมื่อเดินเข้าไปยังลิฟต์ความเร็วสูงแล้วทางทีมงานจะแจ้งเราว่า “เรากำลังจะเดินทางขึ้นไปยังชั้น 74 ด้วยลิฟต์ความเร็วสูงด้วยเวลา 50 วินาที Enjoy your trip” จากนั้นลิฟต์ก็จะพาเราขึ้นไปยังจุดชมวิว โดยระหว่างนั้น ภายในตัวลิฟต์จะฉายภาพกราฟฟิกผจญภัยและบอกเล่าเรื่องราวของกรุงเทพมหานคร

 

โดยเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 74 เราก็จะพบกับชั้นที่เป็นกระจกบานสูงล้อมรอบ คือชั้นจุดชมวิวภายในอาหาร (Indoor Observation Deck) สามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพมหานคร ได้ 360 องศา โดยด้านข้างจะมีเครื่องดื่มขายและของที่ระลึกขาย เช่น เหรียญ, เสื้อผ้า, ปากกา, ดินสอ, สมุด 

ตามมุมต่างๆก็จะมีกล้องส่องทางไกล และจอระบบสัมผัส ให้เราได้สอดส่องไปยังมุมต่างๆของ กรุงเทพฯ เช่นกัน รวมถึงมีสื่อต่างๆ (โมเดล ผังเมือง จอ Digital) โปสเตอร์เปรียบเทียบตึกสูงทั่วโลก บอกเล่าเรื่องราวและความรู้ให้แก่ผู้เข้าชม สำหรับพื้นของชั้น 74 นั้นจะเป็นพื้นสีดำ ที่มีแผนที่สีขาวรอบๆชั้น ซึ่งก็คือแผนที่ของกรุงเทพมหานครให้เห็นถึงผังเมืองของโซนต่างๆ ส่วนเพดานด้านบนจะเป็นกระจกเพื่อสะท้อนกับพื้น วิว ผู้คนและเพิ่มความกว้างให้กับตัวชั้น 74 และนอกจากนี้ยังมีมุมจำหน่าย โปสการ์ดจากตู้ไปรษณีย์บนอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย

 

เมื่อเดินทั่วชั้น 74 อย่างหนำใจแล้ว ก็เข้าสู่ ไฮไลท์หลักของตึกมหานคร นั่นก็คือ SkyWalk หรือชั้นดาดฟ้านั่นเอง ซึ่งเราต้องเดินไปยังชั้น ชั้น 75 ก่อนเพื่อขึ้นลิฟต์แก้วไฮโดรลิกแบบ panorama เพียงแค่เข้าไปในตัวลิฟต์ก็สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แล้ว โดยก่อนเข้าลิฟต์จะมีพนักงานคอยมอบถุงครอบรองเท้าให้เพื่อใส่ด้านบนหากใครก็ต้องการเดินบนกระจกใสเพื่อกันรอยและสิ่งป้องกันสิ่งสกปรกจากรองเท้า

 

มาถึงชั้น 78 ที่เป็นจุดไฮไลท์ของตึกนี้ ออกมาจากลิฟท์ก็จะพบกับ Sky Beach ที่สามารถสั่งเครื่องดื่มค็อกเทล และมีที่นั่งจัดเตรียมไวให้สำหรับพักผ่อนตามอัธยาศัยอีกด้วย บรรยากาศดีมากๆ อากาศปลอดโปร่ง เหมาะสำหรับมานั่งพักใจกันสุดๆ

 

เดินมาอีกนิด ก็จะมาถึง SkyWalk ที่ทุกคนสามารถลงไปเดินบนพื้นกระจกได้เลย จะนั่งถ่ายรูปบนพื้นกระจกก็สามารถทำได้แต่ต้องถ่ายจากด้านนอกแนวกั้นเท่านั้น เพราะไม่สามารถนำโทรศัพท์เข้าไปถ่ายได้นะคะ สำหรับใครที่ไปคนเดียวไปต้องกังวลไปค่ะ ให้พี่ๆ พนักงานของตึกมหานครช่วยถ่ายรูปให้ได้เลย เป็นกันเองมากๆ

 

หลังจากนั้นก็สามารถอยู่รอชมวิวพระอาทิตย์ตกได้เลย หรือใครจะอยู่ยาวจนมืดไปเลย ชั้น 78 นี้ก็จะเป็น Rooftop bar ให้นั่งชิว ชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืนได้เลยค่ะ

 

เมื่อชมวิวกันจนหนำใจแล้ว ก็ลงลิฟท์มาชอปปิ้งกันต่อเลยที่ Firster ซึ่งที่นี่มีสินค้านำเข้ามากมาย รวมถึง Exclusive brand ที่ยังไม่มีที่ไหนในประเทศไทยนำเข้ามาอีกด้วย เช่น Balmain Paris Hair Couture, Abib และ Dasique

 

ชอปปิ้งเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาทานอาหารพอดี ที่ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร มีทั้งโซน Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE และ Mahanakhon Eatery ซึ่งใครที่ตั้งใจจะมาชมวิวและทานอาหารด้วยอยู่แล้ว แนะนำซื้อเป็นตั๋วแบบ Mahanakhon Food Package เลยเพราะได้คูปองส่วนลดโซนอาหารทั้งสองโซนไปอีก 200 บาท คุ้มมากๆ

 

เราเลือกมานั่งทานกาแฟที่ Other cafe ร้านสวยชิค มีเมนูกาแฟเก๋ๆเยอะเลย เราเลือกสั่งเป็นเมนู Ultraboost (แก้วซ้าย) – เบสเป็นครีมนมกับ espresso shot และด้านล่างจะเป็น Black Cacao และเมนู Kenzo Volcano (แก้วขวา) – เบสเป็นลาเต้ และมีไซรัปรสต่างๆ รสชาติจะออกเปรี้ยวนิดๆ อร่อยมาก ทานง่าย เหมาะสำหรับสาวๆ เลยค่ะ

 

สุดท้ายนี้ถ้าใครกำลังมองหาสถานที่เดตบรรยากาศดีๆ หรืออยากมาสูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดในใจกลางกรุงเทพ ทาง KKday ก็อยากจะแนะนำที่ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร นี้เลยค่ะ