ไต้หวัน นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นเกาะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันตกถึงตะวันออก สมกับชื่อเดิมของเกาะว่า “อิลลา ฟอร์โมซา” ที่ในภาษาโปรตุเกสแปลว่า “เกาะอันสวยงาม” โดดเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แหล่งประวัติศาสตร์ ชุมชนเก่าแก่ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น แม้กระทั่งความเป็นเมืองแห่งแสงสีที่มีความทันสมัย ก็หาเที่ยวได้ที่ไต้หวัน
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว ไต้หวันยังเป็นอีกดินแดนที่มีวัดวาอารามเป็นจำนวนมาก ผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างก็แวะเวียนไปทำบุญ กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพรให้สมหวัง ตามวัดที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ แห่ง ไต้หวันจึงเป็นดินแดนที่เหมาะแก่การเดินทางเที่ยวแบบสายมูให้รู้แล้วรู้รอด ดังนั้น อย่าพลาดการเที่ยวสายมูที่ไต้หวัน ถ้าคิดอยากจะเที่ยวเสริมดวงปัง ๆ ที่ไต้หวันล่ะก็ มีวัดใดบ้างที่ต้องจดลงลิสต์ว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
โชคดีที่การเดินทางรอบเกาะไต้หวันนั้นง่ายและสะดวกมาก เนื่องจากมีบริการถไฟความเร็วสูง THSR ยิ่งถ้าหากคุณตั้งใจจะเดินทางมูให้ทั่วเกาะล่ะก็ มีตั๋วโดยสารไว้จะสะดวกกว่า มีโปรโมชัน ลด 20% ด้วย (E-ticket สำหรับต่างชาติ)
วัดหลงซาน ไทเป
View this post on Instagram
หากคุณคิดจะเริ่มต้นมูในไทเป คุณจะข้าม “วัดหลงซาน” ไปไม่ได้เด็ดขาด สายมูชาวไทยหลายคนรู้จักวัดหลงซานดี เพราะล้วนแล้วแต่เคยพรีออเดอร์เครื่องรางเสริมดวงด้านต่าง ๆ จากวัดนี้กันมาแล้วทั้งนั้น เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงเครื่องรางจากเกาะไต้หวันแล้วล่ะก็ จะต้องนึกถึงเครื่องรางจากวัดหลงซานเป็นที่แรก ๆ ซึ่งเครื่องรางของวัดหลงซานเสริมดวงครอบคลุมทุกด้าน ทั้งความรัก การงาน การเรียน การเงิน สุขภาพ โชคลาภ ทำธุรกิจ ค้าขายรุ่งเรือง ปลอดภัย มีสุข ขอลูกขอหลาน แม้แต่เครื่องรางสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เช่าไปบูชาเพื่อให้คลอดง่ายก็ยังมี วัดนี้จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กสถานที่เที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในไทเป
เดิมวัดหลงซานสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นหลัก แต่เทพที่ทำให้คนไทยแทบจะจัดทัวร์ไปวัดหลงซาน ก็คือ “เทพเย่ว์เหล่า” หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ผู้เฒ่าจันทรา” เทพที่เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ผูกด้ายแดงให้กับคนที่เป็นเนื้อคู่กันได้สมหวังในความรัก ดังนั้น หนุ่มสาวสายมูที่ต้องการเจอกับเนื้อคู่ จึงมักจะมาที่วัดหลงซานเพื่อขอพรเรื่องความรักเป็นหลัก และทำพิธีไหว้ขอด้ายแดงติดข้อมือกลับมา จากนั้นก็แค่รอเวลาว่าคู่แท้ของคุณจะปรากฏตัวเมื่อไร ขอบอกว่าที่วัดโด่งดังขนาดนี้ก็เพราะมีคนมาขอและสมหวังกันไปหลายคนแล้วไง
ที่อยู่: No. 211, Guangzhou St., Wanhua Dist., Taipei City
วัดลู่กั่งเทียนโฮ่ว จางฮว่า
จากไทเป ลงไปที่จางฮว่า ตอนกลางของเกาะไต้หวัน ติดกับไถจงและหนานโถว วัดลู่กั่งเทียนโฮ่ว อยู่ในเมืองลู่กั่ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน จนถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ส่วนวัดแห่งนี้ก็นับเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของไต้หวันที่มีอายุกว่า 400 ปี ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมที่ชาวไต้หวันเคารพนับถือ อีกทั้งยังมีเทพธิดาแห่งท้องทะเล หรือเทพหมาจู่ องค์เทพที่มีบทบาทในการช่วยเหลือชีวิตผู้คน ดังนั้น การเดินทางมามูที่วัดลู่กั่งเทียนโฮ่วของผู้คนทั่วทุกสารทิศ ก็เพื่อมาขอพรให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง
นอกจากสักการะองค์เทพแล้ว ภายในวัดแห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยผลงานศิลปะอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด จิตรกรรมฝาผนัง ประติมากรรมบ่อมังกรที่อยู่ในสวนบริเวณด้านหน้าวัด ก็ล้วนดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยือนวัดแห่งนี้ หากคุณเดินทางมาจากไถจง มีแพ็กเกจทัวร์ครึ่งวันจากไถจงสำหรับท่องเที่ยวจางฮว่า สิ่งที่คุณจะได้รับ คือ ได้แวะไหว้พระและทวยเทพที่วัดลู่กั่งเทียนโฮ่ว เดินเล่นที่ถนนโบราณลู่กั่งและซอยโมหลู่ และแวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นเมืองลู่กั่ง ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงจนถึงสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รวมกว่า 6,000 ชิ้น
ที่อยู่: No.430, Zhongshan Rd., Lukang Township, Changhua County
วัดจื่อหนาน หนานโถว
View this post on Instagram
ใครอยากเป็นเศรษฐี ฉันน่ะสิ ๆ นอกจากมูเรื่องความรัก การเรียน การงานแล้ว เรื่องการเงินก็ถือเป็นอีกเรื่องใหญ่ที่สายมูเขามักจะมูกัน อุตส่าห์มามูถึงไต้หวันแล้วจะพลาดมูเรื่องเงินไปได้ยังไง มาที่วัดจื่อหนานกง ที่หนานโถวสิ ที่นี่เป็นวัดที่สามารถขอเงินได้ แม้แต่คนไต้หวันเองยังนิยมมาสักการะและขอพรกับเทพเจ้าแห่งโชคลาภในด้านทำมาค้าขาย และหน้าที่การงาน โดยจะมีพิธีกรรมที่นิยมทำกัน นั่นคือ “การยืมเงินขวัญถุง” จากองค์เทพ (ยืมได้ไม่มีดอกเบี้ย แล้วก็ควรต้องคืนภายใน 1 ปีด้วย) เพื่อนำไปต่อยอดทำมาหากิน
ขั้นตอนการทำพิธีนั้นก็จะค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานิดนึง โดยต้องโยนไม้เสี่ยงทาย 2 อันก่อนว่าเทพเจ้าจะให้ยืมเงินหรือไม่ ถ้าท่านอนุญาต ไม้เสี่ยงทายที่โยนจะต้องออกมาเป็นคว่ำ 1 อัน และหงาย 1 อัน คุณมีโอกาสโยนได้ 6 ครั้ง เริ่มต้นจาก 600 เหรียญ ถ้าโยนครั้งแรกยังไม่สำเร็จ เงินที่ยืมได้ก็จะลดลงเรื่อย ๆ ครั้งละ 100 เหรียญ ซึ่งถ้าทำพิธีจนครบ 6 ครั้งแล้ว ปรากฏว่าเทพเจ้าไม่เห็นใจ ไม่อนุญาตให้ยืมเงิน ก็อย่าเพิ่งเสียใจไป ให้มาลูบรูปปั้นไก่ทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีแทนก็ได้ เสริมดวงโชคลาภและบารมี ไก่ทองแห่งความโชคดีจะช่วยเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี ให้ชีวิตโชคดีราบรื่นมากขึ้น
ที่อยู่: No.40, Dagong Street, Zhushan Township, Nantou County
วัดเป่ยกั่งเฉาเทียน หยุนหลิน
วัดเป่ยกั่งเฉาเทียน หรือเรียกอีกชื่อว่าวัดเฉาเทียน เป็นวัดในเป่ยกั่ง พื้นที่เทศมณฑลหยุนหลิน ที่สร้างขึ้นในปี 1694 นั่นหมายความว่าวัดนี้มีความเก่าแก่มากกว่า 300 ปีเลยทีเดียว เดิมทีวัดนี้เคยถูกเรียกว่าวัดเทียนเฟย หรือวัดเทียนโฮ่วด้วย ด้วยความที่เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่และมีการผสมผสานระหว่างศาสนาและศิลปะได้อย่างลงตัว เพราะสร้างขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง ทำให้วัดมีความสวยงาม ยิ่งใหญ่ และดูขลัง จึงเป็นอีกเหตุผลที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวสายมูพากันมามูที่วัดแห่งนี้กันอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ทั้งนั้น อีกเหตุผลที่ทำให้วัดเป่ยกั่งเฉาเทียนเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวสายมูมักจะเดินทางมาขอพรเรื่องความโชคดี และเสริมสิริมงคลในเรื่องการงาน การเงิน หรือขอให้โชคลาภให้ไหลมาเทมา ก็เพราะมาทำพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าหมาจู่นั่นเอง องค์เทพที่ผู้คนเชื่อว่าช่วยปัดเป่าสิ่งร้าย ๆ ให้ออกไปและกลายเป็นเรื่องดีได้ ถ้าจะให้ดีควรหาโอกาสมาสักการะเทพหมาจู่ในวันที่ 23 เดือน 3 (ตามปฏิทินจันทรคติ) ให้ได้สักครั้ง เนื่องจากเป็นวันเกิดของท่าน นอกจากนี้ยังมีเทพอื่น ๆ ทั้งองค์เจ้าแม่ทับทิม พระโพธิสัตว์กวนอิม เทพตาทิพย์ และเทพหูทิพย์ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะบูชาอีกด้วย ดังนั้น สายมูที่ต้องการสิริมงคลจึงต้องไม่พลาดที่จะปักหมุดมาที่วัดแห่งนี้
ที่ตั้ง: No.178, Zhongshan Rd., Beigang Township, Yunlin County
วัดโฝกวงซาน เกาสง
ลงไปทางใต้ของเกาไต้หวัน ณ เมืองเกาสง ซึ่งถ้าหากคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายมูแล้วล่ะก็ คุณจะต้องไม่อยากพลาดวัดโฝกวงซานอย่างแน่นอน อันที่จริงสถานที่แห่งนี้มีความใหญ่กว่าวัดทั่วไปหลายเท่าตัว จนต้องเรียกว่าเป็นพุทธอุทยานพระใหญ่โฝกวงซานน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะสถานที่แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ จนกลายเป็นพุทธอุทยานของนิกายมหายาน ที่มีขนาดกว้างใหญ่อลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันเลยทีเดียว และถือเป็นวัดที่ยังใหม่มาก ๆ ด้วย โดยที่นี่เพิ่งเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของพุทธสถานแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ยักษ์ที่สุดในโลก ที่มีความสูงถึง 120 เมตร ซ้ายขวาเรียงรายด้วยเจดีย์ขนาดอลังการอีก 8 เจดีย์ และบริเวณจัตุรัสหลักล้อมรอบไปด้วยพระพุทธรูปยืนอีก 480 องค์ นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ล้อมรอบวิหารมากกว่า 10,000 องค์ ฉากหลังของโฝกวงซานเป็นภูเขาที่สวยงาม จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศจะเดินทางมาเยี่ยมชมตลอดทั้งปี และกลายเป็นอีกแลนด์มาร์กของไต้หวันไปในที่สุด แพ็กเกจวันเดย์ทัวร์เที่ยวเกาสง คุณจะได้แวะที่นี่ด้วย
ที่ตั้ง: No.153, Xingtian Road, Xingtian Village, Dashu District, Kaohsiung City
