โอซาก้าเป็นอีกหนึ่งเมืองของญี่ปุ่นที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะมากๆ แทบทุกจะฤดูไม่ว่าจะฤดูใบไม้ผลิชมซากุระ หรือฤดูใบไม้ร่วงดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือแม้กระทั่งฤดูหนาว เป็นเมืองที่มีทั้งความเจริญและประวัติศาสตร์ที่สวยงามอยู่มากมาย เพราะใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศญี่ปุ่นและอยู่ห่างจากเกียวโต (เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น) เพียง 15 นาทีเท่านั้นเอง แถมยังมียูนิเวอร์ซอล สตูดิโอ สวนสนุกที่เป็นที่นิยมอยู่ที่เมืองนี้ด้วย สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ในช่วงตุลาคมถึงธันวาคมวางแผนที่จะไปเที่ยวโอซาก้า อย่าลืมที่จะแวะไปยังสถานที่เหล่านี้นะคะ เพราะนอกจากสีสันสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีแล้วยังได้ชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เหล่านี้อีกด้วย

1.สวนไดเซ็น

      สวนสาธารณะไดเซ็น (Daisen park) เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 100 สวนสาธารณะทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่กว่า 35 ไร่ สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และทัศนียภาพอันงดงามของสุสานขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ประปราย เพื่อนๆควรเดินไปตามเส้นทางของสวนเพื่อสำรวจสวนซึ่งตกแต่งไสตล์สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และบ่อน้ำ ที่ในวันอากาศแจ่มใสนั้น ภาพของหมู่มวลต้นไม้ที่สะท้อนลงบนผิวน้ำราบเรียบราวผิวกระจกเป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆค่ะ นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนแห่งนี้ยังมีเรือนน้ำชาที่เปิดให้เข้าชมพิธีชงชาซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และชมประวัติของเมืองที่ Sakai City Museum ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนได้่ด้วย ในฤดูใบไม้ร่วงถือที่นี่ถือเป็นอีกที่นึงในการดูใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าจดจำมากจริงๆ

2. หุบเขามิโนะ (Minoh Park)

      หุบเขามิโนะ หรือ หุบเขามิโนะโอะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการมองเห็นสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามในเขตคันไซ ที่นี่จะมีเส้นทางเดิน ซึ่งปลอดภัยไม่ลาดชัน รัดเราะไปตามแม่น้ำมิโนะโอะเพื่อขึ้นไปยังน้ำตกมิโนะโอะ ซึ่งระหว่างทางเดินก็จะพบวัดเรียวอันจิ ซึ่งมีสวนฮิระนิวะ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น และที่สำคัญอย่าลืมลิ้มรสอาหารพื้นเมืองของมิโตะ “โมมิจิ เทมปุระ” (momiji tempura) ใบเม้เปิ้ลชุบแป้งทอดกันด้วยนะคะ

3. วัดคัตสึโอจิ

      วัดคัตสึโอจิตั้งอยู่บนหุบเขาเมืองมิโนะทางทิศเหนือของโอซากา เป็นสถานที่ที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบตลอดทั้งปี นอกจากความสวยงามแล้วที่นี่เป็นวัดที่รู้จักกันในด้านพลังงานทางจิต บ่อยครั้งที่เรียกว่าเป็นวัดแห่งโชคของผู้ชนะ เพราะในสมัยก่อนจักรพรรดิได้มาสักการะที่วัดแห่งนี้และหายจากการประชวร ทำให้ที่ผ่านมีผู้คนจำนวนมากแวะไปที่วัดเพื่อสวดมนต์ขอพร

       นอกจากนี้เพื่อนๆจะเห็นตุ๊กตาไม้ดารุมะ (daruma) น่ารักที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณวัดเพราะถือว่าเป็นตุ๊กตานำโชค โดยตุ๊กตาดารุมะจะไม่มีดวงตาในตอนแรก เพื่อนๆต้องวาดตาลงไปข้างหนึ่งเมื่อขอพรและวาดอีกข้างหนึ่งเมื่อพรเหล่านั้นกลายเป็นจริง  เมื่อตุ๊กตาของเพื่อนๆมีตาทั้งสองข้างแล้วก็ให้นำมันกลับไปที่วัดนะคะ

4. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

     เพื่อนๆส่วนใหญ่คงพอรู้จักหรือได้ยินชื่อมากันบ้างอยู่แล้วสำหรับเจ้าปราสาทโอซาก้าแห่งนี้ เพราะถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า ที่ไม่ว่าใครมาเมืองนี้ก็ต้องแวะมาที่นี่ด้วย สำหรับปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1583 ผ่านภัยทางธรรมชาติและสงครามมาสาระพัดจนถูกบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1995 โดยที่มีทั้งทั้งหมด 8 ชั้น ก็คือตัวปราสาท 5 ชั้นและชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้นตัวปราสาทยิ่งใหญ่กว้างขวางมากๆ ต้องใช้เวลาเดินชมเยอะทีเดียวแต่แค่บรรยากาศก็ถือว่าคั้มมากค่ะ เพราะที่นี่สวยทุกฤดูเลย

5. Hoshi no Buranko

       ใครที่กลัวความสูงขอให้ข้ามที่นี่ไปเลย เพราะที่นี่เป็นสะพานแขวนยาว 280 เมตร และสูงจากพื้นดินกว่า 50 เมตรเหนือพื้นดิน เป็นสะพานแขวนที่ทำจากไม้กระดานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สามารถมองวิวได้ 360 องศาเลย แม้จะหวาเสียวแต่ที่นี่เป็นจุดชมฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากเลยนะคะ และยังมีที่ถ่ายรูปดีๆได้เยอะทีเดียว ใครชอบถ่ายรูปต้องมา ฟินแน่นอน!!  เพื่อนๆสามารถนั่งรถไฟเคฮังสาย Katanosen มาลงสถานี Kisaichi หรือ นั่งJR สาย Gakkentoshisen มาลงสถานี Hoshida Stationได้ค่ะ

6. วัดคันชินจิ

    วัดคันชินจิสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 โดยนักพรต Enno-Gyoja  เมื่อปีค.ศ. 701  ที่นี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งในการมาดูใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าประทับใจมากๆ ที่นี่มีพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตาเป็นพระประธานซึ่เป็นวัตถุโบราณแห่งชาติ แต่จะเปิดให้สักการะในช่วงวันที่ 17-18 เมษายน ของทุกปีเท่านั้นเอง ในขณะที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อมาที่นี่ยังสามารถเยี่ยมชมสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญอื่นๆที่สำคัญได้อีกด้วย และถ้าใครไปในช่วงเดือนพศจิกายนก็อาจจะได้ไป

7. ถนนมิโดซุจิ

   ถนนมิโดซุจิเป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงของโอซาก้า และเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถดูใบไม้เปลี่ยนสีแบบฟินๆได้แม้อยู่ใจกลางเมือง เพราะตลอดสองข้างถนนสายยาวนี้มีต้นแปะก๊วยปลูกอยู่กว่า 800 ต้น และแน่นอน่าสามารถเดินช็อปปิ้งชิวๆได้สบาย เพราะมีร้านค้า ห้าง ของแบรนด์เนมตามสองข้างทางให้ได้เดินช็อปกัน หรือจะไปช็อปที่ย่านแฟชั่นอย่างมินามิ เซมบะก็ได้ค่ะ