ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 ณ หมู่บ้านซีหยาง เขตหลิงถง ซึ่งเป็นแถบชานเมืองด้านตะวันออกของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ในขณะที่ชาวนากลุ่มหนึ่งของกำลังจะขุดเจาะหลุมเพื่อทำบ่อน้ำขนาดความลึกประมาณ 2.5 กิโลเมตรอยู่นั้นก็ได้พบชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเป็นเบาะแสแรกที่นำไปสู่การค้นพบทางโบราณคดีอันยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้เมื่อปี พ.ศ. 2530

สุสานจิ๋นซีเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนไทย ถ้าซื้อทัวร์ไปเที่ยวซีอาน ที่นี่เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่จะต้องมีในทัวร์ทุกครั้งไป ส่วนถ้าใครจะไปเที่ยวเองก็ไปได้ไม่ยากนะคะ อ่านข้อมูลข้างล่างนี้ก่อนไปก็จะทำให้การท่องเที่ยวของเพื่อน ๆ ง่ายและสนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ

 1.   ไป ปิงหม่าหยงกัน

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังจะไปเมืองจีนแล้วถามทางเพื่อไปสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้กันอยู่ล่ะก็ อย่าลืมจำศัพท์คำนี้ไว้ด้วยนะคะ “ปิงหม่าหยง(兵马俑)” หมายถึงสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ในภาษาจีน ถ้าใครจำเป็นภาษาอังกฤษไปว่า “Terracotta Army” ก็ไม่ค่อยเป็นประโยชน์เท่าไร เพราะคนจีนไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษกัน ใช้คำว่า “ปิงหม่าหยง” จะทำให้สื่อสารเข้าใจกันง่ายมากกว่าค่ะ

วิธีการเดินทางไปปิงหม่าหยงนั้นก็ง่าย มีรถสาธารณะเข้าถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีตั๋วรถไฟความเร็วสูง มีโปรโมชั่นโชว์ตั๋วรถไฟความเร็วสูงที่สถานี North Xian Railway Station สามารถซื้อตั๋วเข้าปิงหม่าหยงได้ที่สถานีเลย แถมขึ้นรถบัสนำเที่ยวฟรี หรือถ้าไปหลายคนซื้อเป็นแพ็กเกจรถพาเที่ยวก็จะสะดวกค่ะ เพราะไม่ต้องไปคอยรถ เบียดเสียดกับนักท่องเที่ยว และไม่ต้องกลัวพลัดหลงกันด้วย

หุ่นปั้นทหารดินเผาในพิพิธภัณฑ์

  2.    สุสานของฮ่องเต้องค์แรกแห่งแผ่นดินจีน

จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นปฐมจักรพรรดิของจีน หรือฮ่องเต้องค์แรกของแผ่นดินจีน เป็นผู้รวบรวมรัฐต่าง ๆ ที่ก่อศึกสงครามระหว่างกันมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 500 ปี ให้กลายมาเป็นแผ่นดินจีนหนึ่งเดียวในปัจจุบัน แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์แรกของแผ่นดินจีน

พระองค์เป็นผู้วางรากฐานที่สำคัญของการราชวงศ์ต่าง ๆ ในจีน เป็นจักรพรรดิองค์แรกที่มีการใช้คำว่า “หวงตี้” หรือที่คนไทยรู้จักกันว่า “ฮ่องเต้” มีการปฏิรูปการปกครอง ให้ใช้กฏหมาย ระบบเงินตรา ตัวอักษร ระบบชั่ง ตวง วัด ให้ใช้เป็นระบบเดียวกันทั้งแผ่นดิน สร้างระบบเชื่อมแต่ละเมืองด้วยถนน และคลอง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าคำว่า “China” มีที่มาจากคำว่า “Qin (ฉิน)” อันหมายถึง ราชวงศ์ฉิน นั่นเอง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าราชวงศ์ฉินคงอยู่ได้ไม่ถึง 15 ปี ก็ต้องล่มสลายลงโดยการลุกฮือขึ้นมาต่อต้านของกลุ่มกบฏชาวนา ทั้ง ๆ ที่จิ๋นซีฮ่องเต้วาดฝันเอาไว้ว่าราชวงศ์ฉินของพระองค์จะต้องอยู่จนชั่วกัลปาวสาน

จำลองลักษณะหุ่นดินเผาเมื่อแรกขุดค้นพบ

3.    พระนามของจิ๋นซีฮ่องเต้ในภาษาจีนกลาง

ถ้าไปพูดกับคนจีน บางคนอาจจะไม่รู้จักจิ๋นซีฮ่องเต้นะคะ เพราะว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ตามสำเนียงภาษาจีนกลางจะเรียกว่า “ฉินสื่อหวงตี้ (秦始皇帝)” มีความหมายว่า จักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์ฉิน และพระองค์เคยมีมีพระนามเดิมว่า “อิ๋งเจิ้ง (嬴正)”

บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์แห่งจักรพรรดิ์ฉิน

4.    สร้างสุสานเพื่อความเป็นอมตะ

เมื่อครั้งที่จิ๋นซีฮ่องเต้ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่นั้น สิ่งที่พระองค์ทรงเสาะแสวงหาเรื่อยมาก็คือ ความเป็นอมตะ ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาน้ำอมฤต หรือการสร้างสุสานขนาดใหญ่เพื่อชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ตั้งแต่จิ๋นซีฮ่องเต้ขึ้นปกครองรัฐฉินเมื่ออายุ 13 ปี พระองค์ก็ได้เริ่มวางแผนการเกี่ยวกับการฝังพระศพขององค์เอง และที่สำคัญคือการสร้างพระราชวังใต้ดินซึ่งรวมถึงกองทัพหุ่นปั้นดินเผาของทหาร ม้าศึก รถม้า และอาวุธเพื่อช่วยปกป้องพระองค์ในช่วงชีวิตหลังความตาย ใช้ระยะเวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้นถึง 38 ปี

ตามที่นักประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่นซือหม่าเฉียนได้บันทึกไว้ จิ๋นซีฮ่องเต้ยังได้ล้อมรอบที่ฝังพระศพไว้ด้วยกองสมบัติอัญมณีล้ำค่าเพื่อเป็นตัวแทนแห่งดวงดาว ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ ซึ่งพระองค์เชื่อว่าจะช่วยนำทางให้ข้ามจักรวาลผ่านไปสู่ชีวิตที่เป็นอมตะ

บรรดาหุ่นทหารดินเผาที่รอการบำรุงรักษา

 5.    ร่างของจิ๋นซีฮ่องเต้อยู่ที่ไหน

เชื่อกันว่าหลุมกองทัพทหารดินเผานี้มีด้วยกันทั้งหมด 8 หลุม แต่ปัจจุบันมีการขุดค้นขึ้นมาเพียง 3 หลุมเท่านั้น เนื่องจากยังไม่มีเทคโนโลยีการรักษาสภาพหุ่นดินเผาที่ดีพอทำให้หุ่นดินเผาที่ถูกทาสีสันไว้อย่างสวยงามกลายเป็นสีดำทันทีหลังจากขึ้นมาถูกอากาศบนพื้นดิน

จุดที่เชื่อว่าเป็นที่ฝังร่างของจิ๋นซีฮ่องเต้ ตรวจพบสิ่งที่น่าพิศวงคือ มีระดับปรอท และสารพิษไหลผ่านระบบรางใต้ดินที่ซับซ้อนสูงมากคล้ายเป็นภูมิประเทศแบบแม่น้ำ หรือทะเล ซึ่งจิ๋นซีฮ่องเต้คิดว่าการทำเช่นนี้น่าจะช่วยทำให้พระองค์มีชีวิตที่ยืนยาวเป็นนิรันดร์ได้

กระบวนการขุดค้นสุสาน

6.    บรรยากาศเสมือนจริงภายใต้สุสาน

นอกจากสร้างสุสานขนาดใหญ่มากเหมือนสร้างพระราชวังไว้ใต้ดินแล้ว ถ้าเพื่อน ๆ ลองสังเกตเหล่าบรรดาหุ่นปั้นดินเผาทั้งหลายให้ดีจะพบว่า ทหารและม้าเหล่านั้นถูกจัดวางตามหลักการรบสมัยฉิน เพื่อทำหน้าที่เฝ้ารักษาสุสานให้เหมือนครั้งยังมีชีวิตอยู่ เรื่องน่าทึ่งอีกอย่างก็คือ ทหารแต่ละคนมีหน้าตา ส่วนสูง หรือสีหน้าอารมณ์แตกต่างกันด้วย

ลักษณะความมีชีวิตชีวาที่แตกต่างของหุ่นแต่ละตัว

7.    หุ่นดินเผาต้องทายาฆ่าเชื้อรา

เมื่อครั้งที่ ดร. พอล แจนแซ่น เดินทางมาที่สุสานจิ๋นซีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2519 เค้าพบว่าพื้นที่นี้กำลังประสบกับปัญหาการถูกทำลายจากเชื้อรา และอุณหภูมิสูง ดังนั้นทางบริษัท แจนแซ่น ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยาจึงได้ทำข้อตกลงที่จะเข้ามาช่วยกันปกป้องสมบัติทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์นี้ โดยการสนับสนุนยาฆ่าเชื้อรา ผู้เชี่ยวชาญ การฝึกอบรม และห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาระดับโลก เพื่อใช้ศึกษาวิจัยวิธีป้องกันโบราณวัตถุในขั้นสูง

ปี พ.ศ. 2528 ทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลจีนที่จะสร้างโรงงานผลิตยาแห่งใหม่ในซีอาน สำหรับผลิตยาเพื่อกระจายไปทั่วประเทศจีน และได้ร่วมมือกันกับพิพิธภัณฑ์แห่งจักรพรรดิฉินของสุสานจิ๋นซี  ทำสัญญาร่วมกันทุก 3 ปี จนปัจจุบันกลายเป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศในการวิจัยเกี่ยวกับการเสื่อมสลายทางชีวภาพของโบราณวัตถุ โอ้… แม้ว่าหุ่นดินเผาไม่ได้เป็นกลาก เกลื้อน หรือน้ำกัดเท้า ก็ยังต้องทายาฆ่าเชื้อราเหมือนคนเลยนะคะนี่

เวิร์คช้อปเพื่อการดูแลรักษาหุ่นดินเผาที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สังเกตการณ์

 

เรื่องราวเกี่ยวกับสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้นี้ช่างน่ามหัศจรรย์จริง ๆ เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเมื่อได้มาเที่ยวซีอานนะคะ นอกจากนี้ระหว่างทางไปชมสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ถ้ายังมีเวลาเหลือ เพื่อน ๆ สามารถแวะเที่ยวอุทยานน้ำพุร้อนหัวชิงได้อีกแห่ง ที่นี่เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติซึ่งเสวียนจงฮ่องเต้ใช้เป็นสถานที่ประทับพักผ่อนกับสนมหยางกุ้ยเฟย หนึ่งในสี่สาวงามตามตำนานจีน