ไต้หวันถือเป็นประเทศที่กำลังฮอตฮิตที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวบ้านเรานะคะ เนื่องจากเป็นประเทศที่ไม่ไกลมากนัก อาหารอร่อย ค่าใช้จ่ายหลักหมื่นต้นๆ แต่ความงดงามทางธรรมชาติหลักล้านกันไปเลย โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินก็แสนจะเป็นมิตรกับกระเป๋า ล่าสุดไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาไปทำวีซ่าด้วย (เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง) แถมยังเป็นประเทศที่ปลอดภัย สาวๆ สามารถไปเที่ยวคนเดียวได้สบาย หรือจะหอบเดอะแกงค์ไปด้วยก็ไม่ขัดเขิน ดังนั้นประเทศนี้พลาดไมได้ด้วยประการทั้งปวงนะคะ!

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังงงๆ ระคนสงสัยว่า ประเทศนี้เล็กๆ นี้มีอะไรที่น่าไปโดนบ้าง วันนี้ Kkday จัดลิสต์สิ่งที่ต้องไปทำเมื่อไปเยือนประเทศไต้หวัน ฉบับอัพเดท เป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ ไปจัดทริปเที่ยวกันนะคะ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. ชมธรรมชาติวนไป

หมวดหมู่แรกที่เราจะพูดถึงกันคือการชมธรรมชาตินั้นเองค่ะ!

เนื่องจากลักษณะทางภูมิประเทศของไต้หวันนั้นเป็นเกาะ จึงไม่มีส่วนไหนของประเทศที่ติดกับผืนดินประเทศอื่นเลย แต่มีภูเขาอยู่ช่วงกลางของเกาะ ดังนั้นประเทศนี้จึงมีความโดดเด่นที่ทัศนิยภาพของพืชพรรณไม้ โดยสถานที่ที่ Must go เลยก็มีทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) และอาลีซาน (Alishan) ค่ะ

Sun Moon lake หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรา ข้าจะลงทัณฑ์แกเอง! แฮ่ ล้อเล่นค่ะ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ชื่อดังมากๆ ในเมืองหยูชี (Yuchi) เขตหนานเถา (Nantou) ของไต้หวัน โอบล้อมด้วยภูเขามากมาย ตัดกับน้ำสีเขียวสดใส ที่นี่มีกิจกรรมฮิปๆ ให้ทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยานรอบเกาะ (ที่นี่เค้าติดอันดับ 1 ใน 10 เส้นทางจักรยานที่สวยที่สุดในโลกโดย CNN นะคะ) นั่งเรือเฟอรี่เข้าไปที่เกาะลาลู ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่กลางทะเลสาบและเป็นจุดตัดเพื่อที่จะชมทั้งสองด้านของทะเลสาบที่เป็นรูปพระอาทิตย์และพระจันทร์ หรือจะนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมทิวทัศน์ 360 องศาของทะเลสาบที่สวยที่สุดในไต้หวันแห่งนี้ก็ได้ค่ะ

การเดินทางไปที่ Sun Moon Lake มีหลายวิธีด้วยกันค่ะ หากจะเอาสะดวกและรวดเร็วแนะนำว่าให้นั่งรถไฟด่วน HSR จาก Taipei Main Station ไป ไทจง (Taichung HSR) แล้วค่อยนั่งรถบัส Nantou ต่อไป Sun Moon Lake ค่ะ

อาลีซาน (Alishan) หรือชื่อเต็มเรียกว่า Alishan National Forest Recreation Area ตั้งอยู่ที่เมืองเจียอี้ (Chiayi)  ตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ที่นี้มี Alishan Forest Railway หรือรถไฟสายอาลีซานที่ติดอันดับเส้นทางรถไฟที่สวยติดอันดับโลก มีอายุมากว่า 100 ปี ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมอย่างมากค่ะ ถ้ามาในช่วงเดือนมีนาคมอาจจะมีโอกาสได้ชมซากุระไต้หวันด้วยนะ

ด้วยความที่สถานที่ค่อนข้างกว้าง ถ้าจะมาเที่ยวจริงๆ คงต้องใช้เวลาเป็นวันเพื่อที่จะชมไฮไลท์พระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว Zhushan Station ที่ได้รับสมยานามว่า Sea of Clouds  (แนะนำ!) และต้นไม้อายุ 3,000 ปี (Sacred Tree)

การเดินทางไปที่อาลีซาน คือนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานี Taipei Main Station มาสถานี Chiayi แล้วค่อยต่อรถบัสไป Alishan ซึ่งรถบัสนี้จะมีสองรอบต่อวันคือตอน 10.00 น. และ 11.30 น.ค่ะ

แต่ถ้าใครที่ไม่อยากพลาดทั้งทะเลสาบสุริยันจันทรา และเขาอาลีซาน ก็สามารถไปได้พร้อมๆ กันเลย ทั้งสองที่อยู่ห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ มีรถบัสเชื่อมถึงกันด้วยนะ ถ้าเริ่มจาก Alishan ไป Sun Moon Lake จะมีรถบัสให้บริการวันละ 2 รอบ คือ 13.00 น. และ 14.00 น ส่วน Sun Moon Lake ไป Alishan มีรถบัสวันละ 2 รอบเหมือนกัน  คือ 08.00 น. และ 09.00 น. ค่ะ

หรืออีกหนทางที่ง่ายที่สุดคือซื้อทัวร์ซะเลย KKday ก็มีทัวร์ Alishan and Sun Moon Lake 2-Day Tour ให้เลือกใช้บริการ แอบกระซิบว่าเค้ามีบริการที่พักโรงแรมให้ด้วยนะ สวยๆ ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ

 

2. อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน

ความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของไต้หวันนั้นอยู่ในระดับที่หาตัวจับยาก ดังนั้นจึงมีบ่อน้ำร้อนทางธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง ในราคาที่ย่อมเยาและเข้าถึงง่ายอีกด้วยน๊า เหมาะสำหรับคำที่ต้องการ Heal ตัวเองหลังจากช๊อปปิ้งมาอย่างยาวนาน เอาใจสายรักสุขภาพไปเต็มๆ บ่อน้ำร้อนที่มีชื่อในไต้หวันก็จะมีด้วยกัน 2 ที่

Xinbeitou ,Beitou หรือที่เราเรียกว่าเป่ยโถวนั้นแหละ ตรงนี้เป็นแหล่งออนเซนกำมะถันชั้นดีที่มีกิจกรรมให้เพื่อนๆ เลือกทำหลายอย่างมากมาย ทั้งมีตลาด พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว ทางเดินน้ำพุร้อน (Thermal Valley) ห้องสมุดเป่ยโถว และกิจกรรมเดินป่าชมธรรมชาติด้วย เพื่อนๆ สามารถใช้บริการโรงแช่น้ำแร่ที่มีเปิดอยู่มากมายในบริเวณนั้นหรือจะเลือกจองโรงแรมเพื่อพักผ่อนพร้อมแช่น้ำร้อนโดยเฉพาะก็ตามสะดวก

การเดินทางก็ง่ายดายแสนสะดวก เพียงแค่นั่งรถไฟฟ้าจาก Taipei Main Station มาลงที่สถานี Xinbeitou สายสีแดงเท่านั้นค่ะ

Wulai หรืออู่ไหล เป็นหมู่บ้านทางวัฒนธรรมพื้นเมืองในหุบเขาแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากไทเปนัก ถ้ามาที่นี้เพื่อนๆ ก็จะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติสีเขียวขจีพร้อมชาร้อนๆ ให้จิบ มีตลาดโบราณให้เดินเล่นกัน สายพิพิธภัณฑ์น่าจะชอบเพราะมีพิพิธภัณฑ์ชาวพื้นเมืองอูไหล (Wulai Atayal Museum) ในหมู่บ้านมีบริการรถรางให้เข้าไปชมน้ำตกอู่ไหล (Wulai Falls) ที่มีความสูงถึง 85 เมตร เพื่อนๆ จะเลือกพักที่โรงแรมเพื่อสัมผัสกับความผ่อนคลายของการแช่น้ำร้อนแบบเป็นส่วนตัวหรือจะเลือกใช้บริการแช่น้ำแร่สาธารณะที่มีให้บริการหลายๆ แห่งริมแม่น้ำก็ได้ค่ะ

การเดินทางค่อนข้างสะดวก แค่นั่งรถบัสสาย 849 จาก Taipei Main Station ออกทางออก Exit M8 ก็ถึงแล้วค่ะ

หากเพื่อนๆ มีเวลาน้อยไม่อยากนอนค้างละก็ จะเลือกแพคเกจสปาแช่น้ำออนเซ็นกับโรงแรมสุดหรูพร้อมอาหารหรือชาอุ่นๆ เลิศรสทั้งที่เป่ยโถว (Grand View Resort Beitou) หรืออู่ไหล (Volando Urai Spring Spa) ก็มีให้บริการพร้อม! สามารถไปโดนกันได้

 

นี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้นนะคะ ในตอนหน้า KKday จะพาไปดูอีก 3 สิ่งที่เหลือที่ต้องทำให้ได้เมื่อไปเยือนไต้หวัน ประเทศที่ใครๆ ก็หลงรักประเทศนี้ค่ะ อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ