เซนได (Sendai) เป็นเมืองเอกของจังหวัดมิยางิ (Miyagi) และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคโทโฮกุซึ่งอยู่ติดกับภูมิภาคคันโตและโตเกียว ทุกวันนี้การเดินทางไปเที่ยวเซนไดสะดวกสบายขึ้นมาก เพราะมีบัตร JR East Pass ภูมิภาคโทโฮกุ สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งถือว่าเป็นอีกพาสที่คุ้มค่ามากจริงๆ ค่ะ และใครที่ยังไม่เคยไปเซนไดมาก่อน หรือกำลังวางแผนจะไป อยากบอกว่าเซนไดเป็นเมืองที่ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม อีกทั้งยังเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สำหรับชมซากุระบาน และช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดมาแนะนำดังต่อไปนี้เลยค่ะ

1. นั่งรถบัส loople เที่ยวรอบเมือง

Flickr | Hideyuki KAMON

เป็นรสบัสสำหรับเที่ยวชมบรรยากาศรอบเมืองเซนได โดยจะหยุดจอดที่จุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองค่ะ ถ้าซื้อตั๋วแบบ 1 day pass  ก็สามารถขึ้นลงรถบัสกี่ครั้งก็ได้ตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่เดินทางมาเซนไดครั้งแรก วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการแวะชมจุดท่องเที่ยวทั่วเมืองประมาณ 16 แห่ง เช่น ศาลเจ้าโอซากิ หอศิลป์ มิยางิ โดยรถบัสจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ต่อรอบ มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีเซนได (Sendai Sta.) ค่ะ

2. เที่ยวเทศกาลทานาบาตะที่เซนได

Flickr | Laura Tomàs Avellana

เทศกาลทานาบาตะ  (Tanabata Matsuri) เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี แต่ที่เซนได จะจัดงานในวันที่ 7 เดือน 8 ซึ่งช้ากว่าที่อื่น แต่ก็เป็นงานที่มีผู้คนทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก งานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเขตอิจิบังโจ (Ichibancho) ตามท้องถนนและพื้นที่ทั่วไปจะถูกประดับตกแต่งไปด้วยโคมไฟ ต้นเสาและที่ขาดไม่ได้เลยคือต้นไผ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของงานทานาบาตะ ถ้าเพื่อนๆ มีแผนจะไปญี่ปุ่นช่วงเวลานี้ ก็อย่าพลาดงานนี้เลยนะคะ

3. ชิมลิ้นวัว (Gyutan)

Flickr | Lamsus Crusoe

ลิ้นวัวชื่อดังของเซนได เป็นอาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อและมีต้นกำเนิดในเมืองเซนไดค่ะ ว่ากันว่าถ้ามาถึงเซนได้แล้วไม่ได้ทานลิ้นวัว ก็เหมือนมาไม่ถึง เอกลักษณ์ของลิ้นวัวที่นี่คือ การนำลิ้นวัวไปหมักและปรุงรสอย่างดีก่อนนำไปย่างจนหอมกรุ่น ทั้งอาหารชุดลิ้นวัวย่าง ซุปหางวัวตุ๋น และมุกิเมชิ (Mugimeshi) หรือข้าวสวยหุงผสมข้าวบาร์เล่ย์ค่ะ  เรียกว่าเป็นมื้ออาหารมาตรฐานสำหรับนักชิมในเซนได ที่ต้องหาโอกาสลองลิ้มชมรสให้ได้เลย

4. เดินเล่นแบบไนท์ไลฟ์ บนถนนโจเซนจิ

Flickr | Yosi Oka
Flickr | Yuichiro Haga

ถนนโจเซนชิ (Jozenji) ย่านใจกลางเมืองเซนได ที่มีแนวต้นเคะยากิ สีเขียวสดทอดยาวตลอดทางที่รถแล่นผ่าน ย่านนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “เมืองต้นไม้แห่งเซนได” สองฝั่งซ้ายขวาของถนนเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของฝากของที่ระลึกมากมาย  อีกทั้งด้านข้างถนนทั้งสองฝั่งยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ชื่อว่า สวนโคโตไดโคเอ็น (Kotaikoen) และสวนนิชิโคเอ็น (NishiKoen)  ซึ่งถนนเส้นนี้สามารถเดินไปถึง ย่านอิจิบังโจ ถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมืองและยังเชื่อมกับย่านสีสันยามราตรีอย่าง คกคุบุงโจ (kokubuncho)  ซึ่งเป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮกุด้วยค่ะ เรียกได้ว่า ถ้าชอบช้อปปิ้งและชอบเดินชิลๆ ยามค่ำคืน ก็ได้เดินกันเพลินเลยทีเดียว

5. เที่ยวพิพิธภัณฑ์เมืองเซนได (Sendai City Museum)

Flickr | Hideyuki KAMON

พิพิธภัณฑสถานประจำเมืองเซนไดที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทเซนได ซันโนะมารุ  (Sendai Sannomaru) ภายในมีการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับบริจาคมาจากตระกูลดาเตะ รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์  ศิลปะ และวัฒนธรรมของเมืองเซนไดมากมาย เช่น ผลงานภาพจิตรกรรม เครื่องปั้นดินเผา ชุดเกราะ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ อีกทั้งยังมีนิทรรศการพิเศษแบบหมุนเวียนไปในแต่ละเดือนที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยค่ะ

6. พักผ่อนด้วยการแช่ออนเซนที่ซาคุนามิ (Sakunami onsen)

Source | sendai-travel

เป็นออนเซนเก่าแก่ของเมืองเซนไดที่มีผู้คนมาใช้บริการตลอดทั้งปี และเป็นน้ำพุร้อนแบบมีคุณสมบัติทำให้ผิวสวย มีบริการบ่อออนเซนทั้งแบบเปิดโล่ง หรือจะเป็นการอาบในห้องอาบที่ล้อมรอบด้วยหินก็มีให้เลือกเช่นกัน นอกจากนี้นี้ที่มียังมีชื่อเสียงในเรื่องการผลิต ตุ๊กตาไม้แกะสลักโคเคชิ (Kokeshi) ซึ่งหากใครสนใจก็ซื้อหาเป็นที่ระลึกก่อนกลับได้ด้วยค่ะ

7. ช้อปปิ้งที่มิตซุยเอาท์เลต ปาร์ค เซนได พอร์ท (Mitsui Outlet Park Sendai Port)

Source | tohokuandtokyo

Mitsui Outlet Park Sendai Port คือ เอาท์เลตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือเซนได และเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ ที่คัดสรรมารวมถึงร้านขายสินค้าแบรนด์ดังทั้งของญี่ปุ่นกับแบรนด์จากต่างประเทศ กว่า 100 ร้านค้า อีกทั้งยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ เครื่องดื่ม คาเฟ่ สำหรับนั่งพักผ่อนสบายๆ หลังจากช้อปปิ้ง หรือจะเดินเล่น ถ่ายรูปวิวชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ที่นี่ก็มีนะคะ

8. เที่ยวปราสาทเซนได (Sendai Castle)

Flickr | Christopher

ปราสาทเซนได หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) สร้างขึ้นโดย ดาเตะ มาซามูเนะ ซึ่งเป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคโทโฮกุ โดยเป็นป้อมปราการธรรมชาติที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ และหน้าผาทางฝั่งตะวันออก-ใต้ แม้ว่าทุกวันนี้ตัวปราสาทจะไม่มีเหลือให้เห็นแล้ว แต่กำแพงหินและประตูนั้นก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง จากบริเวณซากปราสาทสามารถเดินชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของตัวเมืองเซนไดได้

9. ชิมขนมซุนดะโมจิ (Zunda Mochi)

Source

ที่เซนได ซุนดะโมจิ คือ โมจิถั่วแระบด เป็นขนมพื้นบ้านขึ้นชื่อประจำเมืองเซนไดอีกอย่างหนึ่งค่ะ ทำจากถั่วแระญี่ปุ่นและแป้งโมจิ มีกลิ่นหอมหวาน ให้ความรู้สึกสดชื่น ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทานกับชาร้อน โดยชาวเซนไดจะนิยมรับประทานขนมซุนดะโมจิในงานมงคลต่างๆ ปัจจุบันนี้ ก็เป็นของฝากจากเมืองเซนไดที่ได้รับความนิยมมากอีกด้วยค่ะ

10. ชมดอกซากุระบานที่ สวนซึซึจิงะโอกะ (Tsutsujigaoka Park)

Flickr | Kimon Berlin
Flickr |TANAKA Juuyoh (田中十洋)

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได การเดินทางก็ง่ายและสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ Tsutsujigaoka Station และสถานี Sendai Station ที่สวนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดของเมืองเซนได ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จุดเด่นคือมีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ นับพันต้น เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ทั้งสวนก็จะเต็มไปด้วยสีน้ำพูบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ และไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างที่ห้ามพลาดคือดอกไม้ประจำถิ่นชื่อ Tsutsuji  ที่มีสีชมพูเข้มนับหมื่นต้นที่จะบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิเช่นกัน หากเพื่อนๆมีโอกาสไปเยือนเซนไดในฤดูนี้ ขอบอกว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเลยนะคะ

นี่ก็เป็นแค่บางส่วนที่น่าสนใจในเซนไดและจังหวัดมิยางิเท่านั้นนะคะ แต่หากเพื่อนๆมีโอกาสได้ไปเที่ยวและใช้บัตร JR East Pass ภูมิภาคโทโฮกุ ในการเดินทาง จะพบว่า เส้นทางนี้มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย และไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวด้วยค่ะ