หากพูดถึง “เฉิงตู” ประเทศจีน ชื่อนี้คงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย เมื่อมาเที่ยวเฉิงตูเพื่อดูหมีแพนด้า งิ้วเปลี่ยนหน้ากาก หรือกินหม้อไฟหมาล่าแล้ว เราอยากที่จะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ “พระใหญ่เล่อซาน (Leshan 乐山大佛)” อีกสักที่ การไปเที่ยวชมพระใหญ่เล่อซานสามารถเดินทางจากเฉิงตูได้ทั้งทางรถไฟความเร็วสูง รสบัส หรือเช่ารถพร้อมคนขับไปแบบส่วนตัว นั่งกันไปแบบสบายๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เดินทางสู่เล่อซาน

ถ้าเริ่มออกเดินทางจากเฉิงตูช่วงสาย มาถึงเล่อซานก็คงใกล้เวลาเที่ยงแล้ว แนะนำให้รับประทานอาหารกลางวันก่อนเข้าไปเดินชมองค์พระใหญ่เล่อซานนะคะ เพราะว่าด้านในเป็นทางเดินขึ้นลงเขา หากว่าอยากเดินชมความงามให้ได้ครบต้องออกแรงเยอะหน่อยล่ะค่ะ

ระหว่างทางเดินชมพระใหญ่เล่อซาน

พระใหญ่เล่อซานเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAAA ของจีน (ยิ่งมี A เยอะแสดงว่ายิ่งดีมากนะคะ 5A คือระดับที่สูงที่สุดแล้ว) และยังได้รับการจดทะเบียนเข้าเป็นหนึ่งในมรดกโลกร่วมกับเขาเอ๋อเหมยซานซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ตัวองค์พระถือว่าเป็นพระหินแกะสลักที่มีความสูงที่สุดในโลก ขนาดหน้าตักนี่มีความกว้างขนาดคนไปนั่งได้เป็นร้อยๆ คนเลยนะคะ
ความมีเสน่ห์ขององค์พระใหญ่แห่งเล่อซานไม่ใช่แค่ขนาดความสูงใหญ่ขององค์พระนะคะ แต่ยังรวมไปถึงประวัติความเป็นมา และสถาปัตยกรรมอันเป็นลักษณะพิเศษขององค์พระอีกด้วย

กว่าจะมาเป็นพระใหญ่เล่อซาน

ผู้ริเริ่มสร้างพระใหญ่แห่งเล่อซานนี้เป็นพระรูปหนึ่งมีนามว่า Hai Tong เนื่องจากเห็นว่าในบริเวณนี้เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย เกิดอุบัติเหตุทางเรือเป็นประจำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงเชื่อว่าการสร้างองค์พระใหญ่ไว้ตรงนี้จะช่วยให้ลดความรุนแรงของอุบัติเหตุลงได้ ซึ่งมีการค้นพบว่าการแกะสลักพระในบริเวณนี้ทำให้เกิดหินหล่นลงไปในแม่น้ำ ช่วยลดความแรงของกระแสน้ำได้ อุบัติเหตุในบริเวณนี้จึงไม่เกิดขึ้นตั้งแต่มีการสร้างองค์พระใหญ่เล่อซาน ระหว่างการสร้างก็มีอุปสรรคเกิดขึ้นหลายอย่าง จนพระ Hai Tong เสียชีวิตไปก่อน ต่อมาอีกหลายสิบปีจึงสร้างได้เสร็จสมบูรณ์

สถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของพระใหญ่เล่อซาน

นอกจากความสวยงามของการแกะสลักองค์พระแล้ว สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ การที่องค์พระใหญ่เล่อซานสามารถคงความสวยงามอยู่ได้มานานนับพันปีจนถึงปัจจุบัน ความลับของสิ่งที่ช่วยให้องค์พระมีความสมบูรณ์อยู่อย่างนี้นั่นก็คือ การสร้างระบบระบายน้ำไว้ทั่วองค์พระ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณศีรษะ แขน ด้านหลังดวงตา หรือใต้จีวร ระบบระบายน้ำนี้จะช่วยให้ภายในองค์พระแห้งอยู่เสมอ แต่เป็นที่น่าเสียดายนะคะว่าปัจจุบันองค์พระเริ่มที่จะถูกทำลายเนื่องจากมลพิษ ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่คนในสมัยโบราณไม่เคยคาดคิดไว้ว่าจะเกิดขึ้น

มุมมององค์พระใหญ่จากทางเดินเก้าโค้ง

สิ่งที่น่าสนใจเมื่อมาเที่ยวชมพระใหญ่เล่อซาน

  • สัมผัสประสบการณ์บนทางเดินเก้าโค้ง ทางเดินนี้เป็นทางเดินแคบๆ เดินได้ทีละคน ใช้เดินลงชมองค์พระจากด้านบน เราจะได้ค่อยๆ ชมองค์พระในทุกรายละเอียดไล่มาตั้งแต่ด้านบนจนถึงด้านล่าง พอมาถึงด้านล่าง เราสามารถที่จะไหวัสักการะองค์พระใหญ่ได้ และมีทางเดินเรียบหน้าผาชมความงามของแม่น้ำสำหรับเดินต่อไปด้วย

    ทางเดินชมพระใหญ่เล่อซานด้านข้าง
  • นั่งเรือชมความงามขององค์พระ ถ้าในวันที่ทัศนวิสัยดีไม่มีเมฆหมอกมาก แนะนำให้เพื่อนๆ ลองนั่งเรือจากท่าเรือที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงไปชมความงามขององค์พระใหญ่ด้วยนะคะ แล้วจะพบว่ามีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้การมองลงมาจากด้านบนเลย

    (source | Bernt Rostad)
  • ชมความงามของวัด Lingyun และวัด Wuyou ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ

    วัด Lingyun
  • สำหรับคนที่มีเวลาเหลือ แนะนำให้ไปเที่ยวชม Oriental Buddha Capital กันต่อ ตรงจุดนี้ต้องเสียค่าเข้าชมเพิ่มเติม 80 หยวนนะคะ เป็นถ้ำหินแกะสลักทั้งบนดิน ใต้ดิน และสวนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางพุทธศาสนา

    ถ้ำใต้ดินใน Oriental Buddha Capital

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพระใหญ่เล่อซาน

ชื่ออื่นๆ : Lingyun Giant Buddha
ความสูงขององค์พระ : 71 เมตร (233 ฟุต)
ความกว้างขององค์พระ : 9 เมตร (30)
ระยะเวลาในการก่อสร้าง : 90 ปี (เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 713 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 803)
ค่าเข้าชม : 90 หยวนต่อคน (รวมบริเวณ Wulong Temple และ Mahao Cliff Tomb)
ค่าล่องเรือชมองค์พระ : 70 หยวนต่อคน
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวชม : แนะนำให้มาเที่ยวชมในช่วงฤดูใบไม้ผลหรือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากอากาศกำลังดี มีแสงแดด และเมื่ออยู่บนยอดเขาสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้สวยงามที่สุด

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับการไปเที่ยวเล่อซานในหนึ่งวันจากเฉิงตู เชื่อได้ว่าเพื่อน ๆ จะได้ความประทับใจกลับไปไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว