ปีนัง (Penang) จุดหมายแห่งการท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซีย เดินทางจากประเทศไทยได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟ รถบัส หรือว่าทางเครื่องบิน ใช้เวลาเที่ยวประมาณ 3 วัน 2 คืน กำลังดีเลยสำหรับพนักงานออฟฟิส หรือคนที่วันลาพักร้อนน้อย

ปีนังมีสถานที่น่าท่องเที่ยวมากมาย เหมาะสำหรับขาเที่ยวทุกสาย ไม่ว่าจะสายกิน สายอาร์ต สายธรรมชาติ หรือสายบุญ สามารถชวนกันมาเป็นแก๊งค์เที่ยวได้หลายแนวไม่มีเบื่อ ไม่ต้องตีกันว่าชั้นจะไปแบบนี้ เธอจะไปแบบนั้น มาเมืองนี้มีที่ให้เลือกเที่ยวได้หลากหลายสไตล์

สายกิน

ก่อนที่เราจะไปปีนัง เราเคยถามเพื่อนชาวมาเลเซียว่าที่ปีนังมีอะไรดี เพื่อนตอบว่า “ปีนังคือสวรรค์แห่งการกิน” แล้วเราก็ได้ไปพิสูจน์มาแล้วว่ามันคือความจริง เนื่องจากในปีนังมีคนอยู่รวมกันหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวอินเดีย ทำให้มีอาหารหลากหลายแบบให้เลือกกินกันจนพุงกางในราคาสบายกระเป๋า ลองมาดูตัวอย่างของกินแสนอร่อยในปีนังว่ามีอะไรบ้าง

  • ลอดช่อง (Chendul) ลอดช่องในปีนังจะมีเส้นเล็กสีเขียวอ่อน กินคู่กับน้ำแข็งไสราดด้วยน้ำตาลมะพร้าวเชื่อมหอมๆ และถั่วแดงเคี่ยว รสชาติหวานกำลังพอดีค่ะ
ลอดช่องร้านดังแห่งปีนัง บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด
  • อาหารอินเดีย เราได้ไปลองร้าน Line Clear เป็นเหมือนร้านข้าวแกงบ้านเรา แต่กับส่วนใหญ่จะดูใหญ่และอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ เช่น ปลา และกุ้งชิ้นบิ๊กบึ้ม
  • ก๋วยเตี๋ยวผัด (Char kway teaw) เป็นก๋วยเตี๋ยวผัดที่ใส่เนื้อสัตว์แล้วแต่สูตรแต่ละร้าน เช่น หอยแครง กุ้ง ปู ไข่ ต้นหอม ถั่วงอก ผัดด้วยไฟแรง ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว ทำให้ได้กลิ่นหอม และรสชาติอร่อย

  • สารพัดสะเต๊ะ (Satay) ไม่ว่าจะเป็นไก่ แกะ กุ้ง เนื้อ รสเด็ด หอมกลิ่นเครื่องเทศ

สายอาร์ต

ถ้าพูดถึงปีนัง เราคงจะได้เคยเห็นรีวิวผ่านตากันมาบ้างแล้วว่าในจอร์จทาวน์ (George Town) เมืองหลวงของปีนังเต็มไปด้วยภาพวาดสตรีทอาร์ตบนกำแพง และผนังตึกต่างๆ ในเมือง ทำให้ถ้าใครมาถึงปีนังแล้วไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับสตรีทอาร์ตของที่นี่เลยก็ดูเหมือนจะมาไม่ถึงปีนังทีเดียว

นอกจากนี้อาคารในเมืองจอร์จทาวน์ยังสวยมีสเน่ห์สไตล์ชิโน-โปรตุกีส เหมาะกับการเดินทอดน่องเพลินๆ เพื่อชมสถาปัตยกรรมความงามของตึกรามบ้านช่องและภาพวาดฝาผนังได้ทั้งวัน

ถ้าวันไหนอากาศร้อนจัดสายอาร์ตทั้งหลายก็สามารถแวะพักตามร้านคาเฟ่เก๋ๆ ทานของกินเล่นหรือจิบเครื่องดื่มดับกระหายที่มีให้เลือกมากมายหลายร้านระหว่างเดินชมเมือง คนที่รักการเขียนโปสการ์ดอาจจะแวะเลือกซื้อโปสการ์ดเก๋ๆ มานั่งพัก แล้วเขียนส่งให้ตัวเองหรือเพื่อนสักสองสามใบ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดเหมาะกับการเลือกซื้อกลับบ้านไปเป็นที่ระลึก

สายธรรมชาติ

นั่งรถออกจากตัวเมืองเก่าปีนังไปไม่นานเราก็สามารถไปเที่ยวได้ทั้งชายหาด ภูเขาอันงดงามแห่งเกาะปีนัง

Penang National Park

สุดยอดจุดชมวิวที่ห้ามพลาดเมื่อมาปีนังคือ ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 823 เมตร เมื่อเรานั่งรถรางขึ้นไปบนเขาจะทำให้มองเห็นเมืองจอร์จทาวน์ ผืนน้ำทะเล และสะพานปีนังแบบพาโนรามาสวยงามมาก แนะนำให้ขึ้นมาในช่วงเย็นใกล้พระอาทิตย์ตกนะคะ จะได้ชมความงามตอนที่ยังมีแสงสว่าง ตอนพระอาทิตย์กำลังตก และตอนกลางคืนที่ทั้งเมืองเปิดไฟแล้ว งดงามไปคนละแบบจริงๆ

วิวยามค่ำคืนจาก Penang Hill

สายบุญ

ถ้าเพื่อนๆ ชอบทำบุญที่นี่ก็มีวัดวาอาราม ศาสนสถานมากมายให้ไปเยี่ยมชม ที่เห็นว่ามีเอกลักษณ์ที่สุดเราว่าก็คงจะเป็นวัดงู ซึ่งที่นี่เราไม่ได้ไปเองนะคะ เพราะเรากลัวงู ฮือ…เราสอบถามเพื่อนชาวมาเลเซียกับเพื่อนคนไทยที่เคยไปเที่ยวที่นี่มาบอกว่าเมื่อก่อนพอเข้าไปในเขตวัดจะมีงูทั้งวัดเลย แต่เดี๋ยวนี้เหลือไม่เท่าไรแล้ว

วัด Kek Lok Si

เราแนะนำวัดแบบธรรมดาที่เดินทางจากจอร์จทาวน์ได้สะดวก และมีความสวยงามแล้วกัน นั่นก็คือ วัด Kek Lok Si เป็นวัดแบบจีนซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ต้องเดินผ่านร้านขายของที่ระลึกขึ้นบันไดไปหลายขั้นถึงจะถึงตัววัด หลังจากเดินไหว้พระขอพรในบริเวณวัดช่วงแรกเสร็จ จะมีรถรางนั่งต่อขึ้นไปยังด้านบนเขาที่มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่อยู่ แถมมองลงมาด้านล่างจะเห็นวิวตัวเมืองที่สวยงามมาก

 

อ่านจบแล้วอย่าลืมแท็กชวนเพื่อนร่วมแก๊งค์ไม่ว่าจะเป็นขาเที่ยวสายไหนรวมตัวกันไปเที่ยวปีนังกันให้ครบแก๊งค์นะคะ ถ้าไปกันหลายคนแนะนำให้เช่าเป็นรถส่วนตัวก็สะดวกสบายและไม่เสียเวลารอรถประจำทางดีค่ะ เดี๋ยวนี่มีรถเช่าสำหรับทั้งแก๊งค์เล็ก แก๊งค์ใหญ่ไปสนุกพร้อมกันได้หมด