โคมากาเนะ (Komagane) เป็นเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งของจังหวัดนากาโนะ (Nagano) ภูมิภาคชูบุ (Chubu) ของญี่ปุ่น สามารถเดินทางไปได้ ทั้งจากฝั่งโตเกียว และนาโกย่า โคมากาเนะตั้งอยู่ในหุบเขาฝั่งทางเหนือระหว่างเทือกเขาแจแปนแอลป์ตอนกลางและตอนใต้ ทำให้สภาพภูมิประเทศของโคมากาเนะส่วนใหญ่จึงเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ที่ราบสูงและป่า สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เป็นกิจกรรมประเภท เดินป่า ปีนเขา และเล่นสกีในช่วงหน้าหนาว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่า ที่นี่มาเที่ยวได้ทุกฤดู เพราะอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีเลยค่ะ แถมยังเป็นเมืองที่สงบเงียบ ไม่วุ่นวายอีกด้วยนะคะ
และไฮไลท์ของเมืองนี้ ที่จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกันก็คือ Komagatake Ropeway โรปเวย์แห่งแรกของญี่ปุ่น ซึ่งเปิดตัวใช้งานมากว่า 50 ปีแล้ว เป็นสถานีโรปเวย์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นโรปเวย์ที่มีการเปลี่ยนระดับความสูงมากที่สุดในญี่ปุ่นด้วยค่ะ โดยสถานีเริ่มต้นมีความสูง 1,661.5 เมตร เมื่อไปถึงสถานีสุดท้าย จะมีความสูงที่ 2,611.5 เมตร สูงขึ้นถึง 950 เมตรเลย
เดินทางไป โคมากะทาเกะ โรปเวย์
ไม่ว่าจะเดินทางมาจากโตเกียวหรือนาโกย่าก็ตาม ขอแนะนำให้ไปเริ่มต้นที่ มัตสึโมโตะ หรือ ฮาคุบะ ในจังหวัดนากาโนะ โดยอาจจะพักค้างแรมที่เมืองใดเมืองหนึ่ง แล้วเดินทางไปกลับแบบเดย์ทริป
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟโคมากาเนะ (JR Komagane Sta.) ต้องนั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงจึงจะไปถึง สถานีชิราบิไดระ (Shirabidaira Sta.) เส้นทางนี้ค่อนข้างแคบและชัน จึงไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นมาค่ะ
เมื่อมาถึงที่สถานีชิราบิไดระแล้ว ก็ต้องไปรับบัตรคิวเพื่อรอขึ้นโรปเวย์ เมื่อได้หมายเลขบัตรคิวของตัวเองแล้ว ก็สามารถไปเช็คกับตารางเวลาได้ว่าจะได้ขึ้นโรปเวย์ตอนกี่โมง ถ้าไปเที่ยวช่วงที่มีคนเยอะมากก็อาจจะต้องรอนานหน่อย แต่รับรองว่าความสวยงามคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
เมื่อถึงคิวแล้วก็จะต้องไปขึ้นกระเช้าที่ สถานีเซนโจจิคิ (Senjojiki Sta.) โรปเวย์จะเคลื่อนผ่านภูเขากว่า 2 กิโลเมตร ใช้เวลา 7 นาที 30 วินาที ระหว่างทางมีทั้งภูเขา ป่า และน้ำตกให้ได้ชมและเก็บภาพความประทับใจกัน ถ้าไปช่วงฤูใบไม้เปลี่ยนสี แน่นอนว่าจะได้ชมทิวทัศน์ภูเขาทั้งลูกเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงอย่างแน่นอนค่ะ
ทำอะไรต่อหลังจาก Ropeway?
พอลงจากกระเช้าที่สถานีปลายทางแล้ว บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่สำรวจธรรมชาติเทือกเขาแจแปนแอลป์เหนือ-ใต้ชื่อว่า Senjojiki Cirque ให้ทุกคนได้ลงไปเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ หรือถ่ายภาพตามอัธยาศัย ยิ่งไปกว่านั้นคือ ถ้าใครเตรียมตัวมาปีนเขาโดยเฉพาะ ก็มีเส้นทางสำหรับนักปีนเขาให้ด้วยค่ะ หากสนใจก็ต้องเตรียมตัวเตรียมร่างกายไปให้พร้อมนะคะ เพราะเส้นทางค่อนข้างสูงชันพอสมควรเลยทีเดียว
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปปีนเขา แค่ไปเดินเล่นชิลๆ ก็จะได้พบกับบรรยากาศที่มีความแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลางเดือนในฤดูร้อนก็จะได้พบกับทุ่งดอกไม้และสภาพอากาศที่เหมาะกับการมาตั้งแคมป์ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะนิยมมาตั้งแคมป์ที่นี่ในวันหยุดฤดูร้อนกันมาก หรือถ้าเป็นช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ก็จะได้เจอกับใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางอากาศเย็นจัดซึ่งก็น่าสนใจไม่แพ้ช่วงหน้าร้อนเช่นกัน
โคมากะทาเกะ โรปเวย์ เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบเดย์ทริป คือ สามารถมาเที่ยวตอนเช้าแล้วกลับตอนเย็นได้เลย แต่ถ้าชอบที่นี่และอยากลองสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืน นอนดูดาวท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ แนะนำให้ลองวางแผนมาตั้งแคมป์กันดูค่ะ แถ้าโชคดีเป็นช่วงที่ฟ้าเปิดก็อาจจะได้เห็นทางช้างเผือกอีกด้วยนะคะ
ทั้งหมดนี้ เพื่อนๆ สามารถวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเองง่ายๆ และถ้าหากจะเดินทางไปนากาโนะจากฝั่งโตเกียว แนะนำให้ใช้ JR Pass Nagano – Niigata Area ที่ใช้เดินทางได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ในนากาโนะ
