วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park) อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเกาะไต้หวัน มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมบริเวณทางตอนใต้สุดของเกาะไต้หวัน และเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อนๆ ที่อยากไปเที่ยวนอกตัวเมืองไทเปต้องบอกว่าห้ามพลาดเลยนะคะ
สำหรับอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงเริ่มเป็นที่รู้จักราวๆ ปี 1986 จากที่สื่อมวลชนไต้หวันรายงานว่าที่เขิ่นติง (Kenting) เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมดาวหางฮัลเลย์ในช่วงเวลานั้นและเคยใช้เป็นฉากหนึ่งของภาพยนตร์ชื่อดังของไต้หวัน ทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ค่ะ
วิธีการเดินทาง
การเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงก็ไม่ยากเลย เพื่อนๆ สามารถเริ่มต้นจากไทเปหรือเกาสงก็ได้ ถ้าอยู่ที่ไทเปก็เริ่มต้นด้วยการนั่งรถไฟความเร็วสูง THSR จากสถานี Taipei Main Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง ไปลงที่สถานี Zuoying Station ในเมืองเกาสง สถานีนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟใต้ดินสำหรับเดินทางในเกาสงและรถบัสโดยสารสายต่างๆ รวมทั้งรถบัสของบริษัท Kenting Express ถ้าจะไปอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงก็นั่งสายนี้ไปลงป้ายสุดท้าย Kenting หรือจะใช้บริการรถชัทเทิลบัสรับ-ส่งจากในเมืองเกาสงไปเขิ่นติงก็ได้เช่นกัน ใช้เวลาอีกประมาณ 2-2.30 ชั่วโมง รวมแล้วจากไทเปมาอุทยานแห่งนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ดังนั้น ควรมาเที่ยวแบบค้างคืนแบบ 2 วัน 1 คืน เป็นอย่างน้อยจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปค่ะ
ในส่วนของการเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง จะมีรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์/รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้เช่าค่ะ สะดวกสุดๆ ใครถนัดแบบไหนก็เช่ากันได้ตามใจเลย ส่วนจุดท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานที่จะแนะนำก็มีดังต่อไปนี้เลย~
สถานที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง
1. ทุ่งหญ้าหลงปัน (Longpan Grassland) เป็นเนินเขาทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีทิวทัศน์แบบธรรมชาติเหมาะกับการมาพักผ่อนสบายๆ ซึ่งถ้ามาในช่วงจังหวะที่แสงแดดกำลังดี ประมาณ 4-5โมงเย็น ก็จะได้พบกับทุ่งหญ้าสีเขียวสะท้อนประกายแดดก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เป็นภาพที่สวยงามมากเลยทีเดียว นอกจากจะมีทุ่งหญ้าแล้ว ลักษณะภูมิประเทศแบบหินปูนบริเวณนี้ก็มีความแปลกตาน่าสนใจ เช่น พื้นที่ราบของปะการังหินปูนที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำฝน อีกทั้งยังมีลมเย็นๆ จากทะเลด้วยนะคะ
2. เนินทรายเฟิงชุยซา (Fongchuisha) ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวและถ่ายภาพยอดนิยมอีกแห่ง ซึ่งจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันมากในแต่ละฤดูกาล เช่น ฤดูฝน ฝนจะตกหนักและมีน้ำไหลผ่านออกจากเนินเขาไปยังชายทะเล ส่วนฤดูหนาวก็จะมีลมแรงที่พัดเอาทรายจากชายทะเลขึ้นไปยังเนินเขา และความแปรปรวนของสภาพอากาศเหล่านี้จึงทำให้ที่นี่มีทิวทัศน์เกิดเป็นน้ำตกทราย แม่น้ำทรายที่แปลกตาเหมาะกับการมาถ่ายภาพสวยๆนั่นเองค่ะ
3. สวนเอ๋อหลวนปี๋ (Eluanbi Park) จุดท่องเที่ยวนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คชื่อดังและมีผู้คนเดินทางมาเที่ยวจำนวนมากเมื่อเทียบกับสถานที่อื่นๆของอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง สวนเอ๋อหลวนปี๋ได้รับสมญานามว่า “หางของไต้หวัน” เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ส่วนใต้สุดของเกาะไต้หวัน นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนขนาดใหญ่พร้อมเส้นทางเดินชมธรรมชาติแล้ว ไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ประภาคารเอ๋อหลวนปี๋ (Eluanbi Lighthouse) ว่ากันว่าสามารถส่องแสงสว่างไปยังท้องทะเลในมหาสมุทรได้เป็นแนวกว้างที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ซึ่งถ้าเป็นช่วงกลางคืนก็จะได้เห็นบรรยากาศของไฟประภาคารด้วยค่ะ
4. ตลาดกลางคืนเขิ่นติง (Kenting Night Market) เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ โดยตลาดจะเริ่มตั้งแผงกันตั้งแต่ช่วงก่อนค่ำ ถ้ามาตั้งแต่ช่วงนี้ก็จะพบว่ามีผู้เริ่มออกมาเดินเล่นหาของกินอร่อยๆ กันแล้ว เรียกว่าคึกคักตั้งแต่หัววันเลย เป็นตลาดที่รวมอาหารไว้เยอะมากๆ ตั้งแต่ของกินเล่น ของหวาน อาหารมื้อหลัก รวมถึงร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ ก็มีให้เดินเลือกซื้อเพลินๆ เช่นกัน
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความน่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงเท่านั้นนะคะ ยังมีอีกหลายจุดให้เพื่อนๆ ไปเยือน สามารถดูเพิ่มเติมได้ในวันเดย์ทัวร์นี้เลยจ้า~