หากเพื่อนๆ เป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาเล็กๆ อย่าง ‘ไปเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) แล้วไปไหนดี?’ วันนี้เรามีอีกหนึ่งคำตอบให้เพื่อนๆ ค่ะ

คราวที่แล้วเราได้แนะนำที่ท่องเที่ยวสวยๆ ได้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในยุโรปแต่มีฟูจิซังเป็นฉากหลังอย่าง Kawaguchiko Music Forest ไปแล้ว แต่ถ้าเพื่อนๆ ยังมีเวลาเหลือหรือว่าอยากจะท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างที่ดูญี่ปุ้นนน ญี่ปุ่น เราอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ มาเที่ยวที่เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) หรือเจดีย์แดง 5 ชั้นนั่นเอง

ถึงตรงนี้เพื่อนๆ อาจจะจินตนาการไม่ออกว่าเจดีย์ 5 ชั้นที่ว่านี้มีความอลังการและน่าไปอย่างไร หรืออาจจะนึกภาพไม่ออกก็ได้ แต่หากได้เห็นภาพนี้แล้วอาจจะร้อง อ๋ออออ

ใช่แล้วค่ะ เจดีย์นี้เป็นอีกหนึ่งภาพโปรโมตภูเขาไฟฟูจิ ที่เราว่าเป็นภาพที่แสดงออกได้ถึงความเป็นฟูจิซัง ในสายตาของชาวญี่ปุ่นมากๆ เลย

ต้องขออธิบายเพิ่มเติมก่อนว่าภูเขาไฟฟูจินั้นนอกจากจะเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น (สูง 3,776 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) แล้ว เค้ายังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย การที่ฟูจิซังตั้งตระหง่านมาเป็นพันๆ ปีนั้นทำให้กลายเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและสัญลักษณ์ของเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ถึงขั้นว่าเคยห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นจนถึงยุคเมจิเลยนะ

ความสำคัญของภูเขาไฟฟูจิถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในภาพเขียน บทเพลงและบทกวีของศิลปินมีชื่อของญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน โดยงานศิลปะที่มีชื่อเสียงโดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น ทัศนียภาพ 36 มุมของภูเขาฟูจิ เป็นภาพชุดอุกิโยะ (Ukiyo-e) ภาพพิมพ์แกะไม้ โดยจิตรกรชาวญี่ปุ่น คะสึชิกะ โฮะกุไซ (Katsushika Hokusai)

เอาล่ะค่ะ กลับมาที่เจดีย์ 5 ชั้นแสนอลังการของเราต่อ จากที่เราได้เกริ่นไป วิวเจดีย์ชูเรโตะที่เป็นสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาของญี่ปุ่น ตั้งคู่กับภูเขาไฟฟูจิ จึงถึงเป็นวิวที่บอกได้ว่า นี้แหละ ญี่ปุ่น!

บริเวณส่วนหน้าของเจดีย์

เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 รอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ ตั้งอยู่ในศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน (Arakura Sengen Shrine) สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสันติภาพ โดยการจะเดินทางขึ้นไปเพื่อไปชมวิวที่สามารถมองเห็นเมือง Fujiyoshida ได้ทั้งเมื่องนั้นจะต้องเดินขึ้นบันไดไปกว่า 398 ขั้น บอกได้เลยว่าขาลาก

ระวังน้องลิงนะ แต่เราขึ้นมาไม่เห็นสักตัวเลย
ทางเดินเข้าจะมีเป็นบันไดกับทางลาด แต่ไม่น่าจะขับรถขึ้นมาได้นะ
ตรงนี้เป็นบริเวณศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขา

อ้อ ลืมบอกไปว่าเรามาหาข้อมูลทีหลัง พบว่าหากมาตอนช่วงเช้า จะได้วิวที่สวยงาม ไม่ย้อนแสงนะ เราว่าเหมาะกับเพื่อนๆ ที่มีแผนจะค้างที่คาวากุจิโกะ และมีเวลาเหลือหน่อย เลือกมาตอนเช้า เราว่า Perfect!

แต่ถ้ามาในตอนเย็น แนะนำว่าให้นั่งรอดูวิวพระอาทิตย์ตกลับภูเขาไฟฟูจิแบบสโลว์ไลฟ์ก็ดีงามอยู่ ระหว่างรอไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรทำนะคะ เพราะเค้ามีไวไฟให้เล่นฟรีข้างบนด้วย (บริการดีจนน่าตกใจ)

จะว่าไปมาสูดอากาศบริสุทธิ์ตรงนี้ก็ฟินเหมือนกันนะคะ แถมวิวเมืองก็สวยสุดยอดมาก ถ้ามีโอกาสเราจะมาอีกอย่างไม่ต้องคิดมากเลย อยากให้เพื่อนๆ ที่มาเที่ยวญี่ปุ่นได้ลองมาที่นี้กัน แล้วจะหลงรักเจดีย์แห่งนี้เหมือนเราแน่นอน


การเดินทาง :

รถไฟ – ง่ายที่สุดคือเริ่มต้นจากสถานี Kawaguchiko และต่อรถไฟ Fujikyoko (สายที่ไปยังสถานี Otsuki) ลงที่สถานี Shimoyoshida และเดินต่อตามป้ายที่ไปยัง Arakurayama Sengen Park รวมๆ แล้วใช้เวลาเดินประมาณเกือบ 30 นาทีค่ะ

รสบัส – นั่งรถบัสสาย Mount Fuji World Heirtage Loop bus จากสถานี Kawaguchiko โดยจะมีรถผ่านสถานีทุก ๆ 90 นาที

ที่อยู่ : Japan, 〒403-0011 Yamanashi Prefecture, Fujiyoshida, Arakura, 3360-1

ค่าเข้าชม : ฟรี