JR Northern Kyushu Pass คือตั๋วรถไฟเจอาร์แบบเหมาจ่ายที่ใช้เดินทางในตอนเหนือของเกาะคิวชู สามารถใช้โดยสารรถไฟได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถไฟท้องถิ่น รถไฟด่วน รถไฟท่องเที่ยว หรือแม้แต่รถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซน ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ของเกาะคิวชูตอนเหนือ เช่น ฟุกุโอกะ นางาซากิ ซากะ คุมาโมโตะ และ โออิตะ

 ตอนเหนือของเกาะคิวชูนั้นนอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำร้อนออนเซ็นแล้ว ยังโด่งดังเรื่องภูเขาไฟอีกด้วย นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะมาแช่ออนเซ็นเพื่อนผ่อนคลาย และหลายคนยังอยากมาสัมผัสธรรมชาติ ภูเขาไฟ และทุ่งนาป่าเขาอันเงียบสงบของที่นี่อีกด้วย

ดูข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมที่นี่

การใช้งาน:

  1. ใช้โดยสารรถไฟแบบธรรมดาในพื้นที่ได้ แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
  2. ใช้โดยสารรถไฟด่วนในพื้นที่ได้ แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
  3. ใช้โดยสารรถไฟขบวนด่วนพิเศษยอดนิยมและรถไฟท่องเที่ยวได้
  4. ใช้โดยสารรถไฟชินคันเซ็นที่ JR Kyushu ให้บริการได้ (Hakata – Kumamoto)
  5. สามารถจองที่นั่งได้ไม่เกิน 10 ครั้ง สำหรับตั๋วแบบ 3 วัน และ จองที่นั่งได้ไม่เกิน 16 ครั้ง สำหรับตั๋วแบบ 5 วัน
  6. พาสนี้ต้องใช้ต่อเนื่อง 3 และ 5 วัน ตามประเภทของตั๋ว
  7. พาสนี้ไม่สามารถใช้ได้กับ Sanyo ชินคันเซน (เส้นทางระหว่าง Hakata – Kokura), รถไฟใต้ดิน และ รถบัสเอกชน ที่ไม่ใช่ของบริษัท JR ได้
  8. พาสนี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น

ประเภทและราคาตั๋ว:

JR Northern Kyushu Pass มี 2 ประเภท ก็คือแบบ 3 วันต่อเนื่อง และแบบ 5 วันต่อเนื่อง

สถานที่จำหน่าย:

  • นอกประเทศญี่ปุ่น: สามารถซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายในไทย ซึ่งมีอยู่หลากหลายเจ้า หรือค้นหาตั๋วโปรโมชั่นพิเศษกับ KKdayได้ที่นี่ โดยสามารถนำ Exchange Order มาแลกเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงได้ที่สถานีรถไฟ Hakata, Mojiko, Kokura, Beppu, Oita, Sasebo, Saga, Nagasaki และ Kumamoto  หรือสามารถตรวจสอบจุดให้บริการ จากเว็บไซต์ทางการของ JR ได้ที่นี่
  • ในประเทศญี่ปุ่น: สามารถซื้อได้เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ที่สถานีต่างๆ ดังนี้ Hakata, Mojiko, Kokura, Beppu, Oita, Sasebo, Saga, Nagasaki และ Kumamoto

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
สำหรับ JR NORTHERN KYUSHU PASS

1. Mount. Aso

ภูเขาไฟอะโซะ เป็นภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ ตั้งอยู่บนใจกลางของเกาะคิวชู ในจังหวัดคุมาโมโตะ ภูเขาไฟอะโซะนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีปากปล่องใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ที่มีบ้านเรือน และชุมชนกระจายกันอยู่ตามรอบนอกของภูเขาไฟ การขึ้นชมปากปล่องภูเขาไฟอาโซะสามารถขึ้นได้โดยรถหรือกระเช้าลอยฟ้า สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ กระเช้าลอยฟ้าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด กระเช้าไปปากปล่องภูเขาไฟจะออกประมาณทุกๆ 15 นาที ทั้งนี้ทั้งนั้นการเปิดให้เข้าชมก็ต้องขึ้นกับสถานการณ์ของภูเขาไฟในขณะนั้นๆ ด้วย (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ )

นอกจากภูเขาไฟอะโซะแล้ว ในระแวกใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ Kusasenri, พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโซะ Aso Volcano Museum, เมืองออนเซ็นยูชิโนะมากิ Uchinomaki Onsen และ เมืองออนเซ็นคุโรคาวะ (Kurokawa Onsen) อีกอย่างหนึ่งที่เป็นสิ่งห้ามพลาดเลยก็คือ การนั่งรถไฟขบวนพิเศษอย่าง Aso boy ที่มีมาสคอตเป็นรูปหมาดำ ยิ่งถ้าในทริปมีเด็กๆ เดินทางด้วยยิ่งต้องห้ามพลาดนะคะ เพราะรถไฟขบวนนี้ตกแต่งมาเอาใจเด็กๆ เป็นพิเศษเลยล่ะ

การเดินทาง :

  • นั่งรถไฟลงสถานี Aso จากนั้นต่อรถบัส หน้าสถานีไปฐาน aso-nishi เพื่อขึ้นกระเช้า

2. Saga Balloon Fiesta

Source : sibf.jp

เทศกาลบอลลูนนานาชาติของจังหวัดซากะ เป็นเทศกาลท่องเที่ยวที่มีบอลลูนกว่า 100 ลูกจากทั่วโลกมาจัดแสดงโชว์ที่นี่ ภาพบอลลูนหลากสีที่ลอยขึ้นจากทุ่งซากะ เป็นภาพที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจมากสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ งานจะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือราวๆ ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ถ้าหากไม่ได้มาในช่วงที่มีเทศกาลบอลลูนก็สามารถไปชมพิพิธภัณฑ์บอลลูนที่จังหวัดซากะจัดไว้ได้

นอกจากจะมารอชมบอลลูนแล้ว ที่เทศกาลบอลลูนนี้ก็มี “ตลาดอุมะคะมง (Umakamon Ichiba)” เป็นพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับขายอาหาร ผลิตภัณฑ์สดและสำเร็จรูป รวมทั้งผลผลิตต่างๆ ของเมืองซากะมาจำหน่ายที่นี่ด้วย

ข้อมูลการจัดงานเพิ่มเติมที่นี่ http://www.sibf.jp/en/

การเดินทาง :

  • จากสถานีรถไฟ JR Saga เดินทางต่อด้วยรถไฟ JR สาย Nagasaki honsen ลงที่สถานี JR Balloon Saga (เปิดเฉพาะช่วงเทศกาลบอลลูน) ประมาณ 5 นาที

3. Kumamoto Castle

ปราสาทคุมาโมโตะ เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองจูโอ จังหวัดคุมาโมโตะ ตัวปราสาทนั้นสวยงามและยิ่งใหญ่มาก บริเวณรอบๆ ปราสาทก็กว้างขวาง ทั้งยังมีการปลูกต้นซากุระไว้อีกหลายร้อยต้นเลยทีเดียว ที่นี่จึงเป็นจุดชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดีและเป็นที่ที่คนหลั่งไหลมาชมเยอะอีกจุดหนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากตัวปราสาทแล้วก็ยังมีสวนสาธารณะที่อยู่รอบๆ ปราสาท เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว และไม่ห่างจากปราสาทนักก็มีถนนคนเดินหรือที่เรียกว่า Sakura no baba josaien เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาหารและของฝาก รวมทั้งของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อของเมืองอย่างเจ้าหมีคุมะมงขายด้วย

การเดินทาง :

– นั่งรถไฟลงสถานี Kumamoto จากนั้นต่อรถรางสาย A ไปลงที่ป้าย Kumamotojo – Shiyakusho-Mae  จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที

4. Kirin Lake Yufuin

ทะเลสาบคิริน อยู่ในเมืองยุฟุอิน จังหวัดโออิตะ เป็นทะเลสาบที่มีความพิเศษคือภายใต้ก้นทะเลสาบมีน้ำพุธรรมดา และน้ำพุร้อนไหลมาเจอกัน ยิ่งถ้าได้มาที่นี่ในช่วงฤดูหนาวหรือใบไม้เปลี่ยนสี ตอนเช้าๆ จะมีหมอกลอยตัวขึ้นมาเหนือผิวน้ำของทะเลสาบ เป็นภาพที่ชวนมองมาก และเนื่องจากรอบๆ ทะเลสาบเป็นภูเขา เราก็จะเห็นความสวยงามของใบไม้หลากสีสันในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วย บริเวณไม่ไกลกันนั้นยังมีศาลเจ้าเทนโซ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งทะเลสาบคิริน ให้ได้ไปแวะชม แวะสักการะ

เมื่อมาถึงเมืองออนเซ็นอย่างยุฟุอินแล้วนอกจากเดินชมความสวยงาม และซึมซับความเงียบสงบของธรรมชาติที่ทะเลสาบคิรินแล้ว ที่เมืองนี้ยังมี Yufuin Floral Village หมู่บ้านสไตล์ยุโรปที่แฝงตัวอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ แนะนำว่าให้เดินเล่นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่หน้าสถานีรถไฟเลยค่ะ แค่ออกมาด้านนอกก็จะเห็นธรรมชาติ บ้านเรือน ร้านค้า ภูเขา ธรรมชาติที่สวยงามของเมืองยุฟุอิน และที่สำคัญควรจะแวะค้างสักคืน สองคืน เพื่อแช่ออนเซ็นให้ผ่อนคลายก่อนที่จะไปเมืองอื่นต่อ

ดูประสบการณ์ท่องเที่ยวยุฟุอินเพิ่มเติมที่นี่ 

การเดินทาง :

– นั่งรถไฟลงสถานี Yufuin แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที

5. Jigoku Meguri Beppu

บ่อนรก หรือบ่น้ำพุร้อนที่เดือดเกือบ 100 องศา แห่งเมืองเบปปุ อยู่ในเขตจังหวัดโออิตะ บ่อนรกนี้มีอยู่หลักๆ 8 บ่อ โดยจะแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน  Kannawa และ โซน Shibaseki แต่ละบ่อก็จะมีสีและเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุของบ่อนั้นๆ การทัวร์บ่อนรกทั้ง 8 แห่งนี้คือสิ่งที่ห้ามพลาดของการมาเที่ยวเมืองบ่อน้ำพุร้อนอย่างเบปปุเลยนะ

โซน  Kannawa นั้นมีบ่อนรกอยู่ทั้งหมด 6 บ่อด้วยกัน คือ Umi Jigoku, Oni-ishi-bozu Jigoku, Shira-ike Jigoku, Kamado Jigoku, Oniyama Jigoku และ Yama Jigoku

โซน Shibaseki มีบ่อนรกอยู่ อีก 2 บ่อ คือ Chi-no-ike Jigoku, และ Tatsumaki Jigoku

การเดินทาง :

–  นั่งรถไฟลงสถานี Beppu จากนั้นออกประตู West ต่อรถบัส Kameno-i เบอร์ 2/5/9/24/41สายที่ไป Kannawa ลงป้าย Umi Jigoku


JR Northern Kyushu คือพาสที่แยกออกมาจาก JR Kyushu อีกที ซึ่งแบ่งเป็นโซนเหนือใต้ตามพื้นที่ของเกาะคิวชูนั่นเอง ภาคเหนือของเกาะคิวชูนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง นอกจากที่ยกตัวอย่างมาด้านบนแล้ว ยังมีเมืองเล็กเมืองน้อย ที่ซ่อนตัวอยู่ตามหุบเขาและไร่นาอีกมากมาย เรียกได้ว่าน่าสนใจไปทั่วทั้งเกาะเลยทีเดียวล่ะ

หากสนใจกิจกรรมอื่นหรือตั๋วเข้าชมในเกาะคิวชู ดูข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างเลย

【วันเดย์ทัวร์】หมู่บ้านยูฟูอิน ฟลอรัล และคุโรคาวะ ออนเซ็น ออกเดินทางจากฟุกุโอกะ 

วันเดย์ทัวร์ดาไซฟุ ยูฟูอินออนเซ็น และเบปปุออนเซ็น ออกเดินทางจากฟุกุโอกะ

วันเดย์ทัวร์หุบเขาทาคาชิโฮ ออกเดินทางจากคุมาโมโตะ

บัตรเข้าชมฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)

– JR Northern Kyushu / Southern Kyushu / All Kyushu Area Pass 

– แท็กชวนเพื่อนไปช้อป ชม ชิมที่ยูฟุอิน คิวชู